แล้งลามไม่หยุด!
พื้นที่เกษตรเสียหาย21จว.
รวม1.3ล.ไร่-สูญ1.4พันล.
ภัยแล้งยังคงลุกลามต่อเนื่อง พื้นที่เกษตรเสียหายแล้ว 21 จังหวัด รวม 1.3 ล้านไร่ สูญเงิน 1.4 พันล้านบาท แต่นาปรังกลับขยายพื้นที่ปลูกเกินแผน 48 จังหวัด ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ เหลือน้ำใช้การได้ร้อยละ 39 ด้านปัญหาฝุ่นพิษ กรุงเทพฯ ทุเลาลง เหลือค่าเกินมาตรฐาน 5 เขต
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานสถานการณ์ภัยแล้ง ช่วงภัยเดือนกันยายน 2562–ปัจจุบัน มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 21 จังหวัด จำนวน 134 อำเภอ 737 ตำบล 2 เทศบาล 6,575 หมู่บ้าน/ชุมชน ได้แก่ จังหวัดเชียงราย(15) น่าน(2) เพชรบูรณ์(6) อุทัยธานี(8)อุตรดิตถ์(4) พะเยา(6) สุโขทัย(4) นครพนม(3) มหาสารคาม(7) บึงกาฬ(4) หนองคาย(8) บุรีรัมย์(8) กาฬสินธุ์(1) นครราชสีมา(7) จังหวัดสกลนคร(8)กาญจนบุรี(6)ฉะเชิงเทรา(3) ชัยนาท(4) นครสวรรค์(6) สุพรรณบุรี(6) และจังหวัดขอนแก่น(18)
ส่วนผลกระทบด้านการเกษตร ด้านพืช ประสบภัย 22 จังหวัด เกษตรกร 261,058 ราย พื้นที คาดว่าจะเสียหาย 2,328,302 ไร่ สำรวจพบความเสียหายแล้ว 21จังหวัด เกษตรกร 131,959 ราย พื้นที เสียหาย 1,328,455 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 1,168,883 ไร่ พืชไร่ 158,795 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 778 ไร่ คิดเป็นวงเงิน 1,484.58 ล้านบาท ขอรับความช่วยเหลือเกษตรกร 58,266 ราย พื้นที 558,134 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 490,724 ไร่ พืชไร่ 67,050 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 360 ไร่ วงเงิน 623.76 ล้านบาท จ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว เกษตรกร 4,399 ราย พื้นที 29,076 ไร่ เป็นเงิน 32.38 ล้านบาท ด้านปศุสัตว์ และด้านประมง ยังไม่มีรายงานได้รับผลกระทบ
การเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/63 แผนการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/63 ทั้งประเทศ จำนวน 7.21 ล้านไร่ แบ่งเป็น ข้าว 4.54 ล้านไร่ พืชไร่-พืชผัก 2.67 ล้านไร่ ลุ่มเจ้าพระยา จำนวน 1.64 ล้านไร่ แบ่งเป็น ข้าว 1.05 ล้านไร่ พืชไร่-พืชผัก 0.59 ล้านไร่ ผลการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2562/63 ทั้งประเทศ จำนวน 6.29 ล้านไร่ แบ่งเป็น ข้าว 4.95 ล้านไร่ พืชไร่-พืชผัก 1.34 ล้านไร่คิดเป็นร้อยละ 87.24 ของแผน ลุ่มเจ้าพระยา จ่านวน 3.23 ล้านไร่ แบ่งเป็น ข้าว 2.83 ล้านไร่ พืชไร่-พืชผัก 0.40 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 196.95 ของแผน
จังหวัดที่มีการปลูกข้าวมากกว่าแผน รวม 3.54 ล้านไร่ แบ่งเป็น ในเขตชลประทาน 41 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พิจิตร พิษณุโลก แพร่ ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ อุดรธานี กรุงเทพมหานคร ชัยนาท นนทุบรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ฉะเชิงเทรา นครนายก ชลบุรี ปราจีนบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นครปฐม สุพรรณบุรี ตรัง สตูล และสุราษฎร์ธานี พื้นที่รวม 2.84 ล้านไร่ และนอกเขตชลประทาน 7 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ สุโขทัย นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี พื้นที่รวม 0.70 ล้านไร่
การจัดสรรน้ำฤดูแล้ง ปี 2562/63 แผนการจัดสรรน้ำ โครงการชลประทานขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศในช่วงฤดูแล้ง ปี 2562/63 (1พฤศจิกายน2562 ถึง30เมษายน2563) ณ วันที 1 พฤศจิกายน 2562 ปริมาตรน้ำต้นทุนสามารถใช้การได้ จำนวน 26,666 ล้าน ลบ.ม.โดยการวางแผนจัดสรรน้ำทั้งประเทศ จ่านวน 17,699 ล้าน ลบ.ม. ผลการจัดสรรน้ำ ทั้งประเทศ ตั้งแต่วันที 1พฤศจิกายน 2562 ถึงปัจจุบันใช้น้ำไปแล้ว 8,497ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 48 ของแผนจัดสรรน้ำ ส่วนในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา วันนี้ใช้น้ำไป 17.49 ล้าน ลบ.ม. ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 ถึงปัจจุบัน ใช้น้ำไปแล้ว 2,463 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 62 ของแผนจัดสรรน้ำ
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ (447แห่ง) ปัจจุบันปริมาตรน้ำในอ่างฯ 44,035 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 58 เป็นปริมาตรน้ำใช้การได้ 20,250 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ39 ปริมาตรน้ำในอ่างฯ เทียบกับปี 2562 มี 53,972 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 71 ปีนี้น้อยกว่าปี 2562จ่านวน 9,937ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ จำนวน 15.24 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ปริมาณน้ำระบายจำนวน 87.30 ล้าน ลบ.ม.
วันเดียวกัน ศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศกรุงเทพมหานคร กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยสรุปผลการตรวจวัดค่าฝุ่น PM2.5 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ตรวจวัดได้ 33-57 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและยังคงมีค่าเกินมาตรฐาน จำนวน 5 เขต คือ เขตวังทองหลาง ด้านหน้าปั๊มน้ำมัน เอสโซ่ ซ.ลาดพร้าว 95 : 57 มคก./ลบ.ม., เขตบางกะปิ ข้างป้อมตำรวจตรงข้ามสำนักงานเขตบางกะปิ : 53 มคก./ลบ.ม., เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลลาดกระบังข้างป้อมตำรวจ : 53 มคก./ลบ.ม., เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : 53มคก./ลบ.ม. และเขตบึงกุ่ม ภายในสำนักงานเขตบึงกุ่ม : 57 มคก./ลบ.ม.
ดัชนีคุณภาพอากาศของสถานีตรวจวัดของกรุงเทพมหานคร พื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับคุณภาพอากาศปานกลาง ขอให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณที่มีมลพิษทางอากาศเกินมาตรฐาน ดูแลรักษาสุขภาพ หากมีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยทางเดินหายใจ ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหรือสวมใส่หน้ากากอนามัย
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(ปลัดกทม.)เผยว่าศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศใน กทม.ได้ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5อย่างต่อเนื่อง เพื่อประสานดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที โดยมอบหมายให้ 50สำนักงานเขต หากพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5เกินกว่าค่ามาตรฐาน ให้เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดถนนและทางเท้า การพ่นฉีดละอองน้ำในอากาศเพื่อดักจับฝุ่นละออง อีกทั้งให้รณรงค์ประชาสัมพันธ์ ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว หันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ การบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ตรวจสอบสภาพรถ ไม่ให้ปล่อยควันดำ งดเผาในที่โล่งแจ้ง การปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี