"กฤษฎีกา"ตอบแล้ว!! ส.ป.ก.เจ้าภาพดำเนินคดี-ยึดฟาร์มไก่"ปารีณา" สะพัดพรุ่งนี้ลุยราชบุรี ขัดขืนไม่ให้เข้าแปลงที่ดินแจ้งความข้อหาบุกรุกที่ดินรัฐทันที
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตร แจ้งว่า ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งบันทึกเรื่องการบังคับใช้ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามที่กรมป่าไม้ได้มีหนังสือหารือด่วนที่สุดเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการ กรณีที่กรมป่าไม้มอบที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าไม้ถาวรที่เสื่อมสภาพแล้ว อีกทั้งมีราษฎรเข้าถือครองทำกินอยู่ให้แก่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำไปปฏิรูปที่ดิน แต่ ส.ป.ก.ยังไม่นำเข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิ์ ดังนั้น ทั้ง 2 หน่วยงาน จึงมีความเห็นไม่ตรงกันเกี่ยวกับสถานะของที่ดินและอำนาจหน้าที่ทางกฎหมาย
ทั้งนี้ คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาข้อหารือของกรมป่าไม้แล้วมีความเห็นเกี่ยวกับสถานะที่ดินว่า ยังคงเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเนื่องจากพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตปฏิรูปที่ดินดังกล่าวเป็นเพียงการกำหนดขอบเขตของที่ดินที่จะทำการปฏิรูปที่ดินเท่านั้น ไม่ได้มีผลเป็นการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติในทันที จนกว่าจะได้มีการส่งมอบพื้นที่ให้แก่คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อจัดสรรที่ดินให้แก่ผู้ได้รับอนุญาตตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดต่อไป
สำหรับอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการตามกฎหมายกรณีพบการกระทำความผิดฐานบุกรุกพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินนั้นคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้ว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ของ ส.ป.ก.มีหน้าที่และอำนาจในการจับกุมปราบปรามหรือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงา สอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้และกฎหมายอื่นเนื่องจากเป็นหน่วยงานที่ดูแลรักษาที่ดินดังกล่าวและต้องป้องกันการกระทำใดๆ ที่เป็นผลร้ายต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายปฏิรูปที่ดิน การที่มีผู้บุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครอ หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดินนั้น ส.ป.ก.จึงเป็นผู้ได้รับความเสียหายและมีสิทธิที่จะกล่าวโทษผู้กระทำความผิดเพื่อให้มีการดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่ทั้งนี้เนื่องจากที่ดินนั้นยังคงมีสถานะเป็น "ป่า" กรมป่าไม้จึงยังคงมีหน้าที่และอำนาจในการดูแลรักษาที่ดินที่เป็นป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ด้วยเหตุนี้ ทั้งกรมป่าไม้ และ ส.ป.ก.ต่างมีหน้าที่และอำนาจดูแลรักษาที่ดินป่าสงวนแห่งชาติในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมร่วมกัน ตามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน
จากหนังสือตอบข้อหารือของคณะกรรมการกฤษฎีกากลับมายังกรมป่าไม้ตามที่ระบุนั้น ทั้งอธิบดีกรมป่าไม้ และเลขาธิการ ส.ป.ก.จึงเตรียมจะนัดวันเวลาเพื่อประชุมกำหนดแนวทางปฏิบัติ ทั้งนี้ หากยังมีประเด็นใดที่ทั้ง 2 หน่วยงาน ตีความไม่ตรงกัน จะต้องหาข้อยุติให้สอดคล้องกับความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (12 ก.พ.63) นายเอกพงศ์ น้อยสร้าง หัวหน้าผู้ตรวจราชการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จะเดินทางลงแปลง ส.ป.ก.ที่ตั้งฟาร์มไก่เขาสนฟาร์ม ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ถือครองที่ดิน ส.ป.ก.กว่า 682 ไร่ ในพื้นที่ ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี หากขัดขืนไม่ให้เข้าแปลงที่ดินเหมือนที่ผ่านมา และไม่ยอมส่งมอบที่ดินคืน ส.ป.ก.จะไปแจ้งความ น.ส.ปารีณา ข้อหาบุกรุกที่ดินของรัฐทันที โดยขณะนี้ได้ประชุมเตรียมพร้อมทีมงานฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายช่างรังวัดแนวเขต เพื่อบังคับใช้กฎหมาย ส.ป.ก.เข้ายึดพื้นที่อย่างเด็ดขาดทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี