ต้องยอมรับความจริงว่า พื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาในฤดูแล้งปีนี้ ต้องเผชิญภัยแล้งค่อนข้างรุนแรง ต้องรณรงค์ให้งดทำนาต่อเนื่องหรือนาปรัง เพราะน้ำต้นทุนมีจำกัด เพียงพอเฉพาะอุปโภคบริโภค และการรักษาระบบนิเวศของลำน้ำเท่านั้น การบริหารจัดการน้ำจึงต้องคุมเข้มเพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
“ปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่จะเพียงใช้สำหรับอุปโภคบริโภค ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม 2563 อย่างแน่นอน แต่ต้องบริหารจัดการน้ำตามแผนที่วางไว้ และประชาชนควรใช้น้ำอย่างประหยัด คุ้มค่า
ใช่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด” ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าว
ลุ่มเจ้าพระยา มีลุ่มน้ำสาขาสำคัญ 4ลุ่มน้ำด้วยกันคือ ลุ่มน้ำปิง ลุ่มน้ำวังลุ่มน้ำยม และลุ่่มน้ำน่าน แต่พอประสบภัยธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัย หรือภัยแล้ง ลุ่มน้ำที่จะถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ “ลุ่มน้ำยม”ภัยแล้งที่กำลังเผชิญปีนี้เช่นกัน มีเสียงสะท้อนว่า เมื่อไหร่จะพัฒนาลุ่มน้ำยมเสียที ลุ่มน้ำสาขาอื่นล้วนแต่มีโครงการพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่ด้วยกันทั้งสิ้น ส่วนลุ่มน้ำยม ไม่มีโครงการพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำขนาดใหญ่เลย ฤดูแล้งประสบปัญหาขาดแคลนน้ำซ้ำซาก ฤดูฝนน้ำเกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมเป็นประจำทุกปี และส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงลุ่มน้ำเจ้าพระยาด้วย
ฤดูแล้งปีนี้เช่นกัน ถ้าลุ่มน้ำยมมีแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่แล้ว จะทำให้มีน้ำต้นทุนส่งมาหล่อเลี้ยงลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำเจ้าพระยาอีกไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) บรรเทาภัยแล้งขณะนี้ได้
ดร.ทองเปลว กองจันทร์
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า การแก้ปัญหาลุ่มน้ำยม กรมศึกษาโครงการพัฒนาลุ่มน้ำยม จ.แพร่ทุกด้าน โดยทำแผนพัฒนาแหล่งน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแผนปรับปรุงประสิทธิภาพชลประทานและจัดการน้ำหลาก แผนพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดกลาง
สำหรับแผนการปรับปรุงประสิทธิภาพชลประทานและการจัดการน้ำหลาก ปัจจุบันกรมดำเนินโครงการปรับปรุงก่อสร้างระบบชลประทาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง และน้ำท่วมช่วงฤดูน้ำหลาก ในจ.สุโขทัย เช่น โครงการบางระกำโมเดล รวมทั้งยังปรับปรุงคลอง 2 สาย พร้อมกันคือ คลองหกบาทและคลองยม-น่าน ที่รับน้ำต่อจากคลองหกบาท ตลอดจนสร้างประตูระบายน้ำ 2 แห่ง คาดว่าแล้วเสร็จปี 2567 ผลประโยชน์ที่ได้รับไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการน้ำบรรเทาปัญหาน้ำท่วมช่วงฤดูน้ำหลากเท่านั้น แต่ยังใช้คลองปรับปรุงเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง โดยเฉพาะคลองยม-น่านที่ยาวถึง 35 กิโลเมตร จะเก็บกักน้ำเป็นน้ำต้นทุนให้ราษฎรในเขตโครงการชลประทานและพื้นที่ใกล้เคียงมีน้ำไว้ใช้ดำเนินกิจกรรมด้านการเกษตรช่วงฤดูแล้งได้ 7,300 ไร่ คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมมากกว่า 3,000 ล้านบาท และยังทำให้มีน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย
นอกจากนี้ ในการปรับปรุงคลองดังกล่าว เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จะปรับปรุงรูปแบบคลองจากดินขุดให้เป็นคลองดาดคอนกรีต ซึ่งลดพื้นที่ดำเนินโครงการแต่ยังรับน้ำได้ปริมาณตามแผนที่วางไว้ โดยคลองหกบาทจะระบายจากเดิม 250 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 500 ลบ.ม.ต่อวินาที และคลองยม-น่าน จะระบายน้ำจากเดิม 100 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 300 ลบ.ม.ต่อวินาที ส่วนปริมาณน้ำจากคลองหกบาทที่เหลืออีก 200 ลบ.ม.ต่อวินาที จะระบายลงแม่น้ำยมสายเก่าที่ไหลไปอ.พรหมพิราม ก่อนลงแม่น้ำน่าน ซึ่งปรับปรุงแล้ว
ส่วนแผนพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดกลางนั้น กรมชลฯน้อมนำพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 23 กุมภาพพันธ์ 2525 ความตอนหนึ่งว่า “.....ควรพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตามลำน้ำสาขาต่างๆของแม่น้ำยม เพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรหมู่บ้านต่าง ๆ ในเขตอำเภอสอง และอำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ สามารถมีน้ำทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝน-ฤดูแล้ง และมีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคตลอดทั้งปี.....”
ที่ผ่านมากรมชลประทานนำแนวพระราชดำริดังกล่าว มาศึกษาสร้างอ่างเก็บน้ำในลุ่มน้ำสาขาของแม่น้ำยม พบว่าลุ่มน้ำยมมีจุดเหมาะสมมีศักยภาพที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำได้ 22 แห่ง ความจุระดับกักเก็บน้ำรวมกันได้ประมาณ 380 ล้าน ลบ.ม. ล่าสุดกรมชลประทานดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำน้ำปีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง สร้างกั้นลำน้ำปีที่บ้านปิน ต.เชียงม่วน อ.เชียงม่วน จ.พะเยาความจุที่ระดับเก็บกัก 90.50 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งคณะอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคเหนือ ที่มีนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานฯติดตามขับเคลื่อน เร่งรัด และบูรณาการดำเนินโครงการเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดแล้วเสร็จในปี 2564
“เมื่อแล้วเสร็จสามารถส่งน้ำให้พื้นที่เกษตรในเขตชลประทานได้ถึง28,000 ไร่ มีราษฎรได้ประโยชน์ 7,520 ครัวเรือน และยังส่งน้ำเพื่อสนับสนุนพื้นที่การเกษตรที่รับน้ำจากฝายแม่ยม จ.แพร่ ช่วงฤดูแล้งได้อีกกว่า 35,000 ไร่ ราษฎรได้รับการช่วยเหลืออีกกว่า 1,500 ครัวเรือนนอกจากนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ยังติดตั้งเครื่องกังหันน้ำผลิตไฟฟ้าได้อีก 6.34 ล้านหน่วย/ปี” อธิบดีกรมชลประทานกล่าว
อย่างไรก็ตาม ด้วยลุ่มน้ำยมเป็นลุ่มน้ำที่มีขนาดใหญ่ แม้จะสามารถสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางได้ทั้ง 22 แห่งก็ตาม ปริมาณน้ำที่กักเก็บได้เมื่อนำมารวมกับปริมาณน้ำของอ่างเก็บน้ำของเก่าที่มีอยู่แล้ว จะสามารถกักเก็บน้ำได้แค่ประมาณ 19% ของปริมาณน้ำท่าลุ่มน้ำยม จะแก้ปัญหาได้เฉพาะในพื้นที่ลุ่มน้ำสาขาที่สร้างอ่างเก็บน้ำเท่านั้น แต่ถ้าจะให้แก้ปัญหาทั้งลุ่มน้ำและลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องดำเนินงานตามแผนพัฒนาโครงการแหล่งน้ำขนาดใหญ่ควบคู่ไปด้วย
จะใช้โอกาสวิกฤติภัยแล้ง ชี้แจงทำความเข้าใจถึงความจำเป็น เพื่อขับเคลื่อนโครงการแหล่งน้ำขนาดใหญ่ต่อไปหรือจะหยุดโครงการไว้แค่นี้ อยู่ที่รัฐบาลตัดสินใจ....
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี