หิ้ว‘แก๊งอุ้มบุญ’ฝากขังค้านประกัน แฉนายทุนจีนที่แท้เคยจ้างหญิงไทยฝังตัวอ่อนที่ลาว
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ร.ต.อ.อาคม จำปามูล พนักงานสอบสวนกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (กก.2 บก.ปคม.) ควบคุมตัวนายจ้าวหราน (Mr.Ran Zhao) อายุ 37 ปี ชาวจีน , นางซู ยิงถิง (Mrs.Su Ying Ting) อายุ 48 ปี ชาวจีน , นางวิลาสินี ชู อายุ 50 ปี ชาวจีน , น.ส.หล้า ขันติโย อายุ 43 ปี , นายธรรมนูญ ปัญจสังคม อายุ 40 ปี , นายนิคม สิมารัตน์ อายุ 48 ปี , น.ส.ศิญาพร สวัสดิ์พันธ์ อายุ 30 ปี , น.ส.วิยะดา เชื้อจันทร์ อายุ 35 ปี และนางสายบัว แจ่มมี อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ 1- 9
ฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหรือมีส่วนร่วมกระทำการใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมหรือการดำเนินการขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติโดยรู้ถึงวัตถุประสงค์และการดำเนินกิจกรรมหรือโดยรู้ถึงเจตนาที่จะกระทำความผิดร้ายแรงขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าวและร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้าตามพระราชบัญญัติป้องกันปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติพ.ศ 2556 มาตรา 5 ,25 และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 มาตรา 24, 48 ไปฝากขังครั้งที่ 1
คำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ สรุปว่า กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานควบคุมกำกับการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์(อุ้มบุญ) ตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์พ.ศ. 2558 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ได้รับหนังสือแจ้งเบาะแสการรับบุญผิดกฎหมายจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กรณีบุคคลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.สวนพริก อ.เมือง จ.ปทุมธานี พบเห็นผู้หญิงจำนวนหลายคนในหมู่บ้านดังกล่าว มีพฤติกรรมที่อาจคาดได้ว่าเป็นการตั้งครรภ์แทน โดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ ที่ไม่ได้ดำเนินการตามกฎหมาย มีบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย 8 คนที่กำลังตั้งครรภ์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พิจารณาข้อเท็จจริงแล้วพบว่าเข้าข่ายดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (กคทพ.) และเป็นกรณีการตั้งครรภ์แทนเพื่อประโยชน์ทางการค้าตามมาตรา 24 แห่งพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์พ.ศ. 2558
พบว่า ผู้หญิงทั้ง 8 คนรับจ้างอุ้มบุญจากนายจ้าวหราน ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นบุคคลเดียวกับที่เคยว่าจ้างผู้หญิงไทยให้ไปปลูกฝังตัวอ่อนที่ประเทศ สปป.ลาว กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้นิติกรชำนาญการพิเศษเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องทุกคน
ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาที่ 1-4 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 5-9 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ทั้งนี้พนักงานสอบสวน ต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก รอผลการตรวจชันสูตรเด็กจากรพ.รามาธิบดี รอผลการตรวจสอบลายนิ้วมือของผู้ต้องหา จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร รอผลการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินของผู้ต้องหา ด้วยความจำเป็นดังกล่าวจึงขอฝากผู้ตองหาทั้ง 9 คน ไว้เป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 14-25 ก.พ.63
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน คัดค้านการประกันตัวจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงประกอบกับพฤติกรรมในการกระทำความผิดของผู้ต้องหาเป็นภัยต่อสังคม เศรษฐกิจและความมั่นคงของชาติ หากได้รับการประกันตัว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดี
วันเดียวกันพนักงานสอบสวน บก.ปคม. ยังยื่นคำร้องขอฝากขังน.ส.เหอ เถิง เย่ว (Ms.He Tengyue) อายุ 31 ปี ชาวจีน โดยขณะพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดเดียวกันกับผู้ต้องหาที่ 1 - 9 โดย น.ส.เหอ เถิง เย่ว ให้การปฏิเสธ แต่ในชั้นจับกุมมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับได้ทัน พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ทำการสอบปากคำอย่างต่อเนื่อง และนำตัวผู้ต้องหามาศาลเพื่อขอออกหมายขังและฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัวเช่นเดียวกัน
ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาทั้ง10 คน ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี