“โควิด-19” เริ่มลามหลายประเทศ สธ.ห่วงระบาดหนักขึ้น ห่วยเคสผู้ป่วยหาที่มาที่ไปอาการไม่ได้ เตรียมเข้มคัดกรองผู้เดินทางมาจาก “สิงคโปร์-เวียดนาม-ฮ่องกง-ญี่ปุ่น” ด้านผู้ป่วยในไทยกลับบ้านได้แล้ว 15 ราย
16 กุมภาพันธ์ 2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ว่า หลายประเทศเริ่มมีการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นชัดเจน แต่ประเทศไทยยังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดให้ต่ำได้
สำหรับผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อใน 27 ประเทศ และ 2 เขตบริหารพิเศษขณะนี้มี จำนวน 67,185 ราย เสียชีวิต 1,527 ราย โดยในประเทศจีนพบผู้ป่วย 66,496 ราย เสียชีวิต 1,523 ราย และเราเริ่มเห็นการแพร่ระบาดในชุมชนในหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม และญี่ปุ่น ซึ่งเริ่มพบผู้ป่วยที่ไม่สามารถหาที่มาที่ไปของอาการป่วยได้ สถานการณ์ดังกล่าวจึงแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยกลับมามีความเสี่ยงที่จะมีผู้เดินทางที่มีอาการป่วยจากต่างประเทศเข้ามาในบ้านเรามากขึ้น
นพ.ธนรักษ์ ระบุว่า ดังนั้นกรมควบคุมโรคเพิ่มความเข้มมาตรการตรวจคัดกรองและติดตามผู้ที่เดินทางมาจากประเทศดังกล่าวทุกช่องทาง ขณะเดียวกัน ขอให้ทุกคนในประเทศมีความตื่นตัวมากขึ้น นอกจากการเฝ้าระวังที่ด่านทางอากาศแล้ว เรายังเพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังที่ด่านเรือ โดยมีการตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางมากับเรือทุกลำ ทั้งขาเข้าท่าเรือของไทย และจะก่อนออกกลับไปยังบนเรือ ขอย้ำว่าเรื่องพวกนี้เราทำด้วยความระมัดระวังและเป็นไปตามมาตรฐานอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประเทศไทยยังอยู่ในสถานะที่ยังมีจำนวนผู้ป่วยระดับต่ำเช่นนี้ต่อไป
นพ.ธนรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ในไทยยังมีการแพร่โรคในวงจำกัด แต่คงเฝ้าระวังในประเทศ ร่วมกับการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศอย่างเข้มข้นต่อไป ทั้งนี้ ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 34 คน โดยมีผู้รับอนุญาตให้กลับบ้านแล้ว 15 คน ซึ่งเพิ่มจากเมื่อวานนี้ (15 กุมภาพันธ์ 2563) 1 คน เป็นชายไทย อายุ 45 ปี ขณะที่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจำนวน 2 คน ยังรับการรักษาในสถาบันบำราศนราดูร ส่วนบุคลากรทางการแพทย์ที่ป่วยนั้น ขอย้ำว่าไม่ใช่แพทย์ และเป็นผู้ทำหน้าที่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ไม่ใช่สถาบันบำราศนราดูร โดยอาการของรายนี้ยังทรงตัว และมีไข้เล็กน้อย
ทั้งนี้ ตนขอชี้แจงว่าโรงพยาบาลเป็นแหล่งรวมของผู้ป่วย จึงทำให้บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วยอื่นๆ หรือใครก็ตาม ที่ไปโรงพยาบาลอาจมีความเสี่ยงสูงตามไปด้วย โรงพยาบาลทุกแห่งจึงต้องมีการจัดระบบป้องกันและหยุดการแพร่ระบาด ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุขได้กำชับให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขทุกระดับ ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อจากผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด โดยทางกระทรวงฯ จะมีการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิโอในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นี้ เพื่อเน้นย้ำให้โรงพยาบาลทุกแห่งควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล พร้อมกับการที่ทางกระทรวงฯจัดคลีนิกเคลื่อนที่โรคระบบทางเดินหายใจให้กับโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่างๆ อย่างไรก็ตาม กรณีของโรคระบบทางเดินหายใจ การให้ความร่วมมือจากผู้ป่วยถือเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้บุคคลอื่นสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และป้องกันการแพร่เชื้อ
นพ.ธนรักษ์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าเชื้อดังกล่าวจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานนั้น ตนขอให้ทุกฝ่ายอย่าตื่นตระหนก เพราะมีวิธีการป้องกันได้โดยทุกคนต้องล้างมือบ่อยๆ ทำลายฆ่าเชื้อได้ด้วยการใช้แอลกอฮอล์เช็คทำความสะอาดพื้นผิวที่มีโอกาสได้สัมผัสบ่อยๆ ถ้าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน เราเชื่อมั่นว่าสามารถป้องกันการแพร่ของเชื้อโรคดังกล่าว สำหรับคนไทยกลับบ้านที่ฐานทัพเรือสัตหีบ ทุกคนสบายดี ไม่มีไข้ และไม่มีผู้เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเพิ่ม ครบกำหนดเฝ้าระวังวันที่ 18 ก.พ.นี้ และจะเริ่มทยอยกลับบ้านในวันที่ 19 ก.พ. โดยได้มีการประสานเตรียมการนัดหมายกับญาติทั้งที่จะมารับที่เรือนพักรับรองและที่จะเดินทางต่อ
“ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงสาธารณสุขได้ดูแลอย่างดีที่สุดและมีระบบติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ทุกคนจะได้รับคู่มือการปฏิบัติตัว รวมทั้งอุปกรณ์ป้องกันโรค เช่น หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ คนไทยกลับบ้านกลุ่มนี้สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ และยืนยันว่าไม่ใช่ผู้ป่วยอีกแล้ว“ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
ด้านนพ.สุวิช ธรรมปาโล รักษาการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้อำนวยการกองด่านควบคุมโรค กรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีเรือสำราญ Westerdam ว่า เราได้มีการประสานข้อมูลผู้โดยสารเรือสำราญลำนี้ทั้งลำส่งให้กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อร่วมมือในการเฝ้าระวัง โดยในวันนี้มี ผู้เดินทางเข้าประเทศมาที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อีก 35 คน เป็นชาวต่างชาติ 34 ราย เพื่อต่อเครื่องบินไปยังประเทศปลายทางอื่น และเป็นคนไทย 1 ราย ทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองไม่มีไข้ สำหรับคนไทยที่เดินทางเข้าประเทศจะมีการดูแลติดตามเฝ้าระวังตามมาตรฐานป้องกันควบคุมโรค รวมแล้วขณะนี้มีคนไทยจากเรือสำราญดังกล่าว 2 คน ทุกคนไม่มีไข้ จะต้องมีการติดตามเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่องจนครบ 14 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี