พระราชทานเพลิงศพ “พ.ต.ท.เพชรรัตน์ กำจัดภัย” อรินทราช 26 “สารวัตรเกมส์”เข้าร่วมพิธีส่งเพื่อนด้วย ด้านชาวบ้านชุมชนหนองสังข์ บ้านเกิด “จ่าคลั่ง”กราดยิงที่โคราช 30 ศพ ร่วมใจพิธีทำบุญเลี้ยงพระอุทิศส่วนกุศลให้ กรรมการวัดยันไม่กีดกันนำศพประกอบพิธีศาสนา พร้อมวอนผู้ไม่หวังดี หยุดฉวยโอกาสหลอกให้บริจาคเงินช่วยครอบครัวจ่าคลั่ง นายกฯเตรีมมอบเงินเยียวยาให้ญาติสัปดาห์นี้
เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 16กุมภาพันธ์ ที่ ฌาปนสถานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วัดตรีทศเทพวรวิหาร แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กรุงเทพฯ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.เพชรรัตน์ กำจัดภัย อรินทราช26 ที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ เหตุกราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าเทอมินอล21 จ.นครราชสีมา โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.พร้อม พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร.,พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร.,พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.และข้าราชการตำรวจเข้าร่วมพิธี โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ต.ศตวรรษ คนชุม สว.กก.ปพ. บก.ตร.มหด.รอ.904 หรือสารวัตรเกมส์ ซึ่งถูกยิงในเหตุการณ์กราดยิงด้วย มีบาดแผลถูกยิงที่นิ้วหัวแม่มือและต้นขาซ้าย บริเวณต้นขาซ้ายมีแผลรูกระสุนเข้า-ออก และพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้ขออนุญาตแพทย์ออกมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.เพชรรัตน์ ด้วย
ร.ต.สมชาย กำจัดภัย ผบ.หมวดปืนเล็ก ม.พัน 29 รักษาพระองค์ อายุ 59ปี นางอัญชุลี กำจัดภัย อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นบิดาและมารดา ด.ต.เพชรรัตน์ กำจัดภัย ผบ.หมู่ กองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 2 กก.ต่อต้านการก่อการร้าย บก.สปพ.กล่าวว่า วันที่ 17กุมภาพันธ์ จะเดินทางมาเก็บอัฐิในช่วงเช้าพร้อมกับทำบุญ หลังจากนั้นจะนำอัฐิไปเก็บไว้ที่บ้านย่านลาดพร้าวก่อนจะหาวันนำอัฐิไปลอยอังคารต่อไป
วันเดียวกัน เวลา 11.40น.ที่ศาลาการเปรียญ วัดหนองสังข์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ นายทนงศักดิ์ คณะเจริญ ประธานชุมชนหนองสังข์และคณะกรรมการผู้นำชุมชนได้นำประชาชนชาวบ้าน อุบาสกอุบาสิกาผู้เฒ่าผู้แก่ นำข้าวสารอาหารแห้งร่วมกันทำบุญตักบาตร และทำอาหารคาวหวานมาทำบุญเลี้ยงพระและกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดค่ายรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกราดยิงผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่บริเวณวัดป่าศรัทธารวม ใกล้ ร.ร.บุญวัฒนา และบริเวณห้างเทอร์มินอล21 นครราชสีมา จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย หลังได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพไปแล้ว ท่ามกลางบรรยากาศโศกเศร้าและเสียใจไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิตทุกครอบครัวด้วย โดยมีพระอาจารย์มหาบุญสม คุณะวะโร เจ้าอาวาสวัดหนองสังข์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ร่วมทำพิธี
นายปรีชา ศิลป์ดี อดีตผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการวัด กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวออกไปว่า ทางวัดหนองสังข์และชาวบ้าน กีดกัน ไม่เห็นดีด้วย ที่จะนำศพ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ผู้ก่อเหตุมาเผาที่วัด ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ข่าวดังกล่าวทำให้วัดเสียหายมาก ทางวัดพร้อมให้ครอบครัวของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ นำศพมาประกอบพิธีทางศาสนา ไม่เคยขัดข้อง เพราะผู้ตายก็เป็นชาวบ้านหนองสังข์ และมารดาก็มาทำบุญปฏิบัติธรรมที่วัดมาโดยตลอด ทางวัดไม่สามารถปฏิเสธใครได้ วัดเป็นของชาวบ้านทุกคน เพียงแต่ที่ผ่านมา ทางวัดไม่เคยได้รับการประสานว่าจะนำศพ จ.ส.อ.จักรพันธ์ มาประกอบพิธีทางศาสนา จึงขอวิงวอนให้หยุดนำเสนอข่าวดังกล่าว เพราะมีแต่จะสร้างความแตกแยก
“มีประชาชนทั่วสารทิศต่างติดต่อทางวัดให้ช่วยประสานแม่ของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ เพื่อขอบริจาคเงินช่วยเหลือครอบครัว แต่ไม่สามารถติดต่อขอบริจาคได้ในขณะนี้ นอกจากนี้พบว่า มีผู้ไม่หวังดีฉวยโอกาสเปิดขอรับบริจาคเงินเพื่อนำมาช่วยเหลือครอบครัว จ.ส.อ.จักรพันธ์ จึงขอวิงวอนให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวหยุดการกระทำดังกล่าวด้วย เพราะจะเป็นการซ้ำเติมครอบครัวผู้เสียชีวิต”อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าว
ที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย พญ.อัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่9 นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.นครราชสีมา เข้าเยี่ยมติดตามอาการผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงที่เทอมินอล21 โดย นายอนุทิน กล่าวว่า ยังมีผู้บาดเจ็บนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 14 คน ในจำนวนนี้มี 4คน ต้องดูแลใกล้ชิดในหอผู้ป่วยหนัก คนที่ 1 เป็นชาย อายุ 38 ปี บาดเจ็บที่ช่องท้อง ได้รับการผ่าตัดครั้งแรก เมื่อคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์และครั้งที่2 เมื่อวานนี้ (15กพ.) เพื่อซ่อมแซมบาดแผล อาการทั่วไปดี ยังใช้เครื่องช่วยหายใจ คนที่2 เป็นชาย อายุ 37ปี บาดเจ็บที่ศีรษะ ได้รับการผ่าตัดเมื่อกลางดึกวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ขณะนี้อาการคงที่ ยังเฝ้าสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด คนที่ 3 เป็นชาย อายุ 26 ปี มีบาดแผลที่หน้าอกและแขน ยังมีไข้ ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว อาการคงที่ ยังต้องสังเกตอาการต่อ และคนที่ 4 เป็นชาย อายุ 31 ปี บาดเจ็บที่ศีรษะ ได้รับการผ่าตัดตั้งแต่คืนวันที่ 9ก.พ.ที่ผ่านมา อาการดีขึ้นกว่าวันแรก ยังใช้เครื่องช่วยหายใจ ส่วนอีก 10 คน นอนพักที่ห้องพิเศษ ส่วนใหญ่มีบาดแผลฉีกขาด กระดูกหัก ต้องรักษาบาดแผลต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดอาการปลอดภัย แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
“ผมขอให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ ญาติผู้บาดเจ็บทุกคน รวมทั้งทีมรักษา ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลรักษาให้ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติหรือใกล้เคียงกับปกติให้มากที่สุด ไม่ใช่แค่รักษาให้รอดชีวิตอย่างเดียว” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า สำหรับการเฝ้าระวังคัดกรองเยียวยาด้านจิตใจ ทีมเอ็มแคท (MCATT) ของโรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ ศูนย์สุขภาพจิตที่ 9 และโรงพยาบาลในเครือข่ายเขตสุขภาพที่ 9 ได้ร่วมกันคัดกรองผู้ประสบเหตุ ผู้ใกล้ชิด และประชาชน ตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบันแล้ว จำนวน 2,038 คน พบผู้มีความวิตกกังวล ต้องติดตามอาการใกล้ชิด 330 คน และร้อยละ 13 อาการรุนแรงต้องรับคำปรึกษา พบจิตแพทย์ หรือต้องรับยา ส่วนใหญ่เป็นผู้ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต โดยในขณะนี้ได้ตั้งจุดบริการคลินิกหมอใจ ที่ห้างเทอมินอล21 เพื่อให้คำปรึกษา เยียวยาผู้ที่ยังมีความวิตกกังวลกับเหตุการณ์ มีผู้รับบริการเฉลี่ย 100คน ต่อวัน
ที่ศูนย์การให้ความช่วยเหลือ เยียวยาผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุยิงประชาชน ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ชั้น3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานการประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนและผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในฐานะคณะกรรมการ ตามอำนาจหน้าที่ โดยมีระเบียบ วาระติดตามสถานการณ์ผู้บาดเจ็บ การให้ความช่วยเหลือทั้งเงินที่ได้รับบริจาคผ่านธนาคารกรุงไทย สาขาตลาดเซฟวัน โคราช ยอดล่าสุดกว่า 80 ล้านบาท นำไปจ่ายให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ 29 ล้านบาท คงเหลือ 50 ล้านบาท โดยจะปิดบัญชีรับบริจาคเวลา 16.00 น.วันนี้ (16 ก.พ.) และกองทุนบรรเทาสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมามอบด้วยตนเองในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ด้านหลังศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ มติที่ประชุมได้พิจารณาอนุมัติจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ล้านบาท รวมจ่ายรายละ 2ล้านบาท และให้แพทย์ประเมินกรณีบาดเจ็บ หากพิการถาวร 2 ล้านบาท บาดเจ็บหนัก 17ราย รายละ 2 แสนบาท บาดเจ็บปานกลาง 12ราย รายละ 1แสนบาท และบาดเจ็บเล็กน้อย 24ราย รายละ 2หมื่นบาท ซึ่งจะมีเงินเหลือ 14ล้านบาท จะติดตามผลการรักษาย้อนกลับมาประเมินอาการบาดเจ็บอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ขณะเกิดเหตุได้มีพลเมืองจำนวนหนึ่งช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะเหตุคนร้ายปะทะเจ้าหน้าที่ตำรวจนานร่วมชั่วโมง ที่วัดป่าศรัทธารวม ต.หัวทะเล ได้ช่วยสกัดมิให้ประชาชนใช้เส้นทางผ่านมิเช่นนั้นอาจมีความสูญเสียมากกว่านี้ และเสี่ยงภัยนำผู้บาดเจ็บออกมาในขณะเสียงปืนของคนร้ายดังขึ้นตลอดเวลาและต่อเนื่องที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 เจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยนำผู้บาดเจ็บออกมาและดับเพลิงไหม้ถังก๊าซ หากใครมีข้อมูลทั้งคลิปภาพนิ่งและเคลื่อนไหวให้นำมามอบให้ศูนย์ดำรงธรรมฯเพื่อพิจารณามอบโล่เกียรติคุณในวันแถลงข่าวหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือนกุมภาพันธ์จะจัดขึ้นในช่วงสิ้นเดือนกพ.นี้
ด้าน นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เร่งเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ด้วยการมอบเงินเยียวยาจาก กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะแยกจากเงินเยียวยาจากหน่วยงานอื่นๆ โดยจะมอบให้ญาติผู้เสียชีวิตจำนวน 27ราย รายละ 1ล้านบาท ไม่รวมผู้ก่อเหตุและคู่กรณี ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสรายละ 2 แสนบาท ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บไม่สาหัสรายละ 1แสนบาท
ทั้งนี้ การมอบเงินจะมีขึ้นวันที่ 19ก.พ.ซึ่งคณะกรรมกองทุนฯ ได้ประสานไปยังรองเลขาธิการนายกฯ เพื่อขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ไปเป็นประธานมอบเงิน คาดว่านายกฯจะเดินทางไปมอบเงินดังกล่าวด้วยตัวเอง แต่จะแจ้งกำหนดการอย่างเป็นทางการอีกครั้งในต้นสัปดาห์นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี