สธ.ยืนยันพบป่วยเพิ่มอีก1
ติด‘โควิด-19’
นายกฯประกาศจันทร์นี้
แผนบูรณาการรับมือไวรัส
รองปธน.อิหร่านติดเชื้อ
อนามัยโลกจี้ยกระดับเข้ม
สธ.เผย ล่าสุด พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายที่ 41 เป็นไกด์หนุ่มชาวไทย ที่กลับมาจากเกาหลีใต้ ด้าน“บิ๊กตู่”เตรียมประกาศแผนบูรณาการรับมือโควิด-19 จันทร์นี้ เบรกข้าราชการดูงานต่างประเทศ ขณะที่ ผอ.องค์การอนามัยโลกกระตุ้นทุกประเทศให้ยกระดับมาตรการด้านสาธารณสุขเร็วที่สุด
ช็อค!“รองประธานาธิบดีอิหร่าน” ติดเชื้อ ญี่ปุ่นสั่งปิดดิสนีย์แลนด์จนถึงกลางเดือน ‘เกาหลีใต้’ยอดติดเชื้อพุ่งทะลุ 2 พัน ราย หลายประเทศพบผู้ติดเชื้อรายแรก ส่วนแคลิฟอร์เนียเฝ้าสังเกตกลุ่มเสี่ยงกว่า 8,400 คนที่มากับเที่ยวบินพาณิชย์
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ว่าผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่ม 1 ราย เป็นรายที่ 41โดยเป็นชายไทยอายุ 25 ปี อาชีพไกด์นำเที่ยวมีประวัติเดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563ด้วยอาการไข้ ไอ ขณะนี้ได้รับตัวไว้ในสถาบันบำราศนราดูร ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดได้ 2 คน ส่วนเพื่อนร่วมทัวร์และผู้สัมผัสบนเครื่องบินอยู่ในระหว่างการติดตาม ทั้งนี้ได้ส่งข้อมูลทั้งหมดให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการแล้ว
สำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม–27 กุมภาพันธ์2563มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด2,437ราย คัดกรองจากทุกด่าน 84 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 2,353 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 1,446 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 991 ราย
สถานการณ์ทั่วโลกใน 50 ประเทศ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม–28 กุมภาพันธ์ 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 82,794 ราย เสียชีวิต 2,817 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 78,514 ราย เสียชีวิต 2,747 ราย นอกจากนี้ คณะนายแพทย์ยังคงยืนยันหลักการปฏิบัติตัวในช่วงนี้ว่า กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งหากไม่มีความจำเป็นในช่วงนี้ให้เลื่อนการเดินทางไปยังประเทศหรือสถานที่ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ออกไปก่อน
“บิ๊กตู่”ประกาศแผนบูรณาการจันทร์นี้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (กห.) กล่าวถึงการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า รัฐบาลจำเป็นต้องบูรณาการเพิ่มเติมลงไป จะมีการประกาศในวันจันทร์ ที่ 2 มีนาคมนี้ โดยในช่วงนี้ขอให้ทุกคนระมัดระวัง ส่วนใครที่จะเดินทางไปต่างประเทศที่เป็นกลุ่มเสี่ยงก็ต้องรับการคัดกรอง กักตัวอย่างน้อย 14 วัน และต้องแจ้งให้กับทางการทราบ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความวุ่นวาย สับสันอลหม่านกันไปทั้งหมด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ ตนจะได้เร่งรัดการท่องเที่ยวในประเทศ โดยมีมาตรการออกมา ทั้งเมืองหลักเมืองรอง แต่ประชาชนก็ต้องดูแลสุขภาพของตนเองด้วย ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะเดินทางไปดูงานยังต่างประเทศ ขอให้ลดในช่วงเวลานี้ รวมถึงข้าราชการที่มีภารกิจต้องเดินทางก็ต้องระวัง ตลอดจนการประชุมต่างๆ โดยเฉพาะการประชุมผู้นำอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ จัดขึ้นที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ ก็รอกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ประสานจะว่าอย่างไร ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับตนที่จะตัดสินใจไป หรือไม่ไป แต่ทางสหรัฐฯ จะมีการจัดประชุมอยู่หรือไม่ก็ต้องดูต่อไป เพราะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็มีความสำคัญ
จ่อประกาศเป็นโรคอันตราย1-2วันนี้
นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคอันตรายและจะมีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาว่า น่าจะประกาศได้ภายในวันสองวันนี้ และเมื่อประกาศแล้วก็จมีผลทันที ส่วนในเรื่องของการคุมเข้ม ก็จะต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ และที่ผ่านมา ทางแพทย์ก็พยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทุกคนจะมีความปลอดภัยและจะพยายามไม่ไปรบกวนวิถีชีวิตปกติถ้าไม่จำเป็น แต่ถ้าจำเป็น ภายใต้พรบ.ฉบับนี้ เราก็สามารถออกมาตรการต่างๆ มาเพิ่มเติมได้ และนี่คือประโยชน์ของการประกาศให้โรคนี้เป็นโรคอันตราย ไม่ใช่ว่าอันตรายจนทำอะไรไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวยาที่ทางการจีนจะส่งมาช่วยรักษาคนป่วยในประเทศ ขณะนี้มาถึงหรือยัง นายอนุทิน กล่าวว่า ปัจจุบัน ถ้าเราสามารถควบคุมไม่ให้เพิ่มจำนวนผู้ป่วยได้ ก็ถือว่ามีความเพียงพอ
และตอนนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทุกหน่วยงาน ประกาศไม่ให้คนในองค์กรตัวเองมีการเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยงดังนั้นก็น่าจะทำให้การควบคุมโรคมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สภาฯ ทำความสะอาดสกัดไวรัส
ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 นำตัวแทนจากบริษัทเอกชน ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินการเกี่ยวกับการพ่นฆ่าเชื้อโรค โดยเฉพาะ และสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ทุกชนิด รวมถึงเชื้อโรคโควิด-19 ด้วย เนื่องจากหลายฝ่ายมีความกังวลจากกรณีที่มีส.ส.และรัฐมนตรีบางคนเดินทางกลับจากประเทศที่มีความเสี่ยง ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้จึงได้ทำความสะอาดห้องประชุมจันทรา และจะลงมาทำความสะอาดชั้นล่างห้องสื่อมวลชนด้วย เพื่อให้สื่อมวลชน ส.ส.และเจ้าหน้าที่สภาฯ อุ่นใจในการทำงาน จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตั้งแต่ชั้นบนของอาคารรัฐสภา ห้องประชุมจันทรา และภายหลังจากแถลงข่าวเสร็จสิ้นได้มีการทำความสะอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่ห้องผู้สื่อข่าวทันที
เสมา3สั่ง กช. ดูแลเข้มโรงเรียนเอกชน
ดร.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการว่า ได้กำชับให้ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน(สช.) ดูแลสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้สั่งการให้เลขาธิการ กช. มีหนังสือมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) ถึงผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเอกชน เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกำชับโรงเรียนถือปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยต้องติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างต่อเนื่องจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยงที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้แก่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ไต้หวัน สาธารณรัฐสิงคโปร์ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน มาเลเซีย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และประเทศหรือพื้นที่อื่นที่ กระทรวงสาธารณสุขประกาศเพิ่มเติม (ถ้ามี)
งดให้เข้าเฝ้า“สมเด็จพระสังฆราช”
ขณะที่ คณะแพทย์ผู้ถวายการอภิบาลพระอนามัยเจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก แจ้งแก่สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชว่า ด้วยเหตุแห่งพระชนมายุสูง และการปฏิบัติพระกรณียกิจที่ต้องประทับท่ามกลางสมาคมของหมู่ชนจำนวนมาก นับเป็นภาวะเสี่ยงต่อโรค จึงสมควรงดการประทานพระวโรกาสให้คณะบุคคลเฝ้าเป็นการทั่วไป และงดการเฝ้าของบุคคลทั่วไปโดยใกล้ชิด ในระยะที่มีการแพร่ระบาดของโรค
สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช จึงขอประกาศงดการนำความกราบทูลขอประทานพระวโรกาสให้คณะบุคคลเฝ้า และงดการเปิดให้ประชาชนเฝ้าถวายสิ่งของและเครื่องสักการะได้เป็นการทั่วไปดังที่เคยปฏิบัติในทุกวันเสาร์สุดท้ายของเดือน จนกว่าสถานการณ์โรคระบาดจะคลี่คลาย ทั้งนี้ ความทราบฝ่าพระบาทแล้ว
ยื่น สธ.เอาผิดปู่-ย่าทัวร์ฮอกไกโด
ที่กระทรวงสาธารณสุข นายปิยะวัฒน์ ศิลปรัศมี ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รับมอบหนังสือจาก นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข บังคับใช้กฎหมายกับกรณีปู่ ย่า กลับจากฮอกไกโด เพื่อเป็นกรณีตัวอย่าง จากการปกปิดข้อมูลประวัติการเดินทางทำให้ยากต่อการควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 เพราะปัญหาการระบาดของโควิด-19 มีมาเกือบเดือนแล้ว พร้อมกันนี้ ยังอยากให้เร่งบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ.โรคติดต่ออันตราย 2558 อย่างเร่งด่วนด้วย
“จุรินทร์”เรียกประชุมปรับแผนสู้ไวรัส
วันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมผู้อํานวยการสํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์ทุกประเทศ) ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ช้ัน 4 อาคารสํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่เวลา 13.00-16.30น. โดยระหว่างการประชุม นายจุรินทร์ เปิดเผยว่า ได้เชิญทูตพาณิชย์จากสำนักงานพาณิชย์ของเราที่มีอยู่ทั่วโลกมาประชุมร่วมกันพร้อมกับข้าราชการระดับสูงของกระทรวงและภาคเอกชนเพื่อหารือถึงสถานการณ์การส่งออกในปี 2563 ภายใต้เงื่อนไขที่ต้องยอมรับความจริงว่านอกจากเศรษฐกิจโลกจะมีแนวโน้มชะลอตัว สงครามการค้า รวมทั้งกรณีภัยแล้งที่เกิดขึ้นในประเทศและภาวะการแพร่ระบาดของ Covid-19 ซึ่งทำให้สถานการณ์ทางการค้าระหว่างประเทศและการส่งออกมีแนวโน้มจะเปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ไว้
WHOเตือนมาถึง’ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ’
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่า นพ.เทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ ) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี ว่าสถานการณ์ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” บนโลกในตอนนี้ “เข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ” หากทุกประเทศร่วมกันใช้มาตรการที่เข้มแข็งและเด็ดขาด การควบคุมสถานการณ์จะเกิดประสิทธิภาพได้อย่างรวดเร็ว ผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยจะลดลง สถานการณ์น่าวิตกกังวลมากขึ้นในต่างประเทศ เนื่องจากขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว และมีประเทศที่รายงานการพบผู้ป่วยรายแรกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย พร้อมเตือนทุกประเทศบนโลก “ไม่ควรเชื่อมั่นจนเกินเหตุ” ว่าเชื้อโรคจะมาไม่ถึง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศซึ่งมีฐานะทางเศรษฐกิจร่ำรวย เนื่องจาก “การชะล่าใจเกินไป” อาจเป็นต้นเหตุของ “หายนะ”
ชี้มีโอกาสแพร่ระบาดวงกว้าง
ทั้งนี้ นพ.เทดรอสย้ำว่าเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “มีศักยภาพเพียงพอ” ในการยกระดับสถานการณ์ให้เป็น “การแพร่ระบาดวงกว้าง” ( pandemic ) จึงเป็นเหตุผลที่ดับเบิลยูเอชโอพยายามกระตุ้นทุกประเทศให้ยกระดับมาตรการด้านสาธารณสุข ขณะที่นอกจากอิตาลีแล้ว ดับเบิลยูเอชโอกังวลสถานการณ์ในอิหร่านและเกาหลีใต้ ที่ยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดในชุมชนได้
ด้านนพ. ไมเคิล ไรอัน ประธานโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของดับเบิลยูเอชโอ กล่าวว่ากำลังมีการหารือร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ( ไอโอซี ) และรัฐบาลญี่ปุ่น เกี่ยวกับ “ชะตากรรม” ของโอลิมปิกและพาราลิมปิกฤดูร้อน ที่กรุงโตเกียวกำลังจะเป็นเจ้าภาพ “แต่ยังไม่มีมติชัดเจน”
รองประธานาธิบดี-อิหร่าน ติดเชื้อ
สำหรับสถานการณ์ในประเทศอิหร่าน นางมาซูเมห์ เอบเตการ์ รองประธานาธิบดีฝ่ายกิจการครอบครัวและสตรี แห่งประเทศอิหร่าน เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลรายล่าสุดที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ หรือ โควิด-19 นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า สมาชิกรัฐสภาอิหร่าน 2 คน ซึ่งรวมถึงประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติ ติดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ยืนยันว่า จะไม่มีการควบคุมการระบาดด้วยวิธีปิดเมือง
ญี่ปุ่นปิด’โตเกียวดิสนีย์แลนด์’
บริษัทโอเรียนทอล แลนด์ ผู้ประกอบการโตเกียว ดิสนีย์แลนด์ และโตเกียว ดิสนีย์ ซี ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ เรื่องการปิดให้บริการสถานที่ทั้งสองแห่งตั้งแต่วันเสาร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 15 มีนาคมนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ ซึ่งต้องการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่”โควิด-19” ให้เร็วที่สุด
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี “ขอความร่วมมือ” ให้สถานศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ระงับการเรียนการสอนตั้งแต่วันจันทร์ที่ 2 มี.ค. ต่อเนื่องไปจนกว่าจะถึงช่วงการปิดภาคเรียนประจำปีในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่ตามปกติคือปลายเดือนมี.ค. “เพื่อสุขภาพอนามัยของเด็กเป็นสำคัญ”
‘เกาหลีใต้’ยอดติดเชื้อพุ่ง2,022ราย
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลีใต้ รายงานว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มอีก 256 คน ในวันนี้ ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 2,022 คนแล้ว กว่าร้อยละ 90 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ในเมืองแทกู และจังหวัดคยองซัง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาด ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่ 13 คน คาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากทางการกำลังตรวจคัดกรองสมาชิกของลัทธิชินชอนจี กว่า 210,000 คน หลังผู้ป่วยคนที่ 31 เป็นหญิงวัย 61 ปี ซึ่งอยู่ในลัทธินี้ เป็นคนแพร่เชื้อจนกระจายเป็นวงกว้าง
ส่วนพื้นที่วิกฤติอีกแห่งคือโรงพยาบาลแดนัม ในเมืองช็องโด ห่างจากเมืองแทกูเพียง 27 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสถานที่พบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 คนแรกในประเทศ เป็นชายอายุ 63 ปี แต่การยืนยันว่าชายคนนี้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในขั้นตอนของการชันสูตรศพ จึงต้องมีการปิดโรงพยาบาลเพื่อกักบริเวณบุคลากรและผู้ป่วยทั้งหมดของโรงพยาบาลแห่งนี้
บราซิลตื่นเชื้อไวรัสระบาด
กรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายแรกในบราซิล ทั้งยังเป็นประเทศแรกในแถบละตินอเมริกาที่พบผู้ติดเชื้อ สร้างความวิตกกังวลให้กับผู้คนในบราซิล ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเซาเปาโล ผู้โดยสาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่สนามบิน ต่างสวมหน้ากากอนามัย ร้านค้าภายในสนามบิน ตั้งขวดน้ำยาทำความสะอาดมือไว้คอยบริการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีรายงานว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จำนวนผู้ต้องสงสัยว่าอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาในบราซิล เพิ่มจาก 20 คน เป็น 132 คน และอาจเพิ่มขึ้นถึง 300 คน ผู้ติดเชื้อรายแรกเป็นนักธุรกิจชายวัย 60 ปี มีประวัติเดินทางไปแคว้นลอมบาร์ดีของอิตาลี
ลิทัวเนีย-เบลารุสพบผู้ป่วยโควิด-19แล้ว
กระทรวงสาธารณสุขลิทัวเนีย แถลงว่า สตรีวัย 39 ปี ที่เพิ่งกลับมาจากเมืองเวโรนา ทางเหนือของอิตาลี มีอาการปานกลางและถูกแยกรักษาตัวในโรงพยาบาลในเมืองทางตอนเหนือ ขณะที่ครอบครัวถูกเฝ้าสังเกตอาการ ทางการพยายามเต็มที่ในการตามหาทุกคนที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้เพื่อให้สามารถดำเนินมาตรการป้องกันและยับยั้งการระบาด
ด้านกระทรวงสาธารณสุขเบลารุสแถลงว่า ผู้ป่วยเป็นนักศึกษาชาวอิหร่านที่เดินทางมาจากอาเซอร์ไบจานเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะนี้อาการน่าพอใจ ส่วนผู้ที่กลับมาพร้อมนักศึกษารายนี้เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถูกกักดูอาการที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงมินสก์ นอกจากนี้ทางการจะเริ่มตรวจสุขภาพผู้เดินทางมาจากอิตาลี อิหร่านและเกาหลีใต้ หลังจากจำกัดผู้เดินทางมาจากจีนไปแล้วก่อนหน้านี้
ไนจีเรีย-นิวซีแลนด์พบติดเชื้อรายแรก
ขณะที่ประเทศไนจีเรียพบผู้ป่วยโควิด-19 รายแรก เป็นพลเมืองอิตาเลียน มีใบอนุญาตทำงานที่ไนจีเรีย เพิ่งเดินทางมาจากเมืองมิลาน ในภาคเหนือของอิตาลี เมื่อไม่กี่วันก่อน ผู้ป่วยอาการทรงตัวและกำลังรับการรักษาที่โรงพยาบาลโรคติดเชื้อ ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งควบคุมการระบาดอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การพบผู้ติดเชื้อครั้งนี้ทำให้ไนจีเรียเป็นประเทศที่ 3 ในทวีปแอฟริกาพบผู้ป่วยโควิด-19 ต่อจากอียิปต์และแอลจีเรีย ขณะที่องค์การอนามัยโลก (WHO) มีความกังวลอย่างหนักหากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่กระจายเป็นวงกว้างในทวีปแอฟริกา ซึ่งประเทศส่วนใหญ่ยังมีระบบสาธารณสุขไม่ได้มาตรฐาน
ส่วน นิวซีแลนด์ ยืนยันการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รายแรกของประเทศ เป็นหญิงชาวนิวซีแลนด์ อายุประมาณ 60 ปี เธอเดินทางมาจากอิหร่าน ก่อนจะมาต่อเครื่องที่เกาะบาหลี เพื่อเดินทางไปยังเมืองออคแลนด์ ครอบครัวของเธอได้พากันไปโรงพยาบาลในเมืองออคแลนด์เพื่อรับการตรวจ เนื่องจากกังวลเรื่องการติดเชื้อก่อนจะพบว่าติดเชื้อจริง เจ้าหน้าที่ได้เรียกร้องให้ผู้โดยสารทุกคนที่เดินทางไปกับสายการบินเอมิเรตส์เที่ยวบินจากบาหลีไปออคแลนด์ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่
แคลิฟอร์เนียจับตา8,400คนเสี่ยงติดเชื้อ
รัฐแคลิฟอร์เนียพบผู้ป่วยสตรีที่ไม่ทราบต้นตอรายแรกเมื่อวันพุธ เสี่ยงเป็นการระบาดในชุมชนครั้งแรก เธอไม่ได้รับการรักษาโรคโควิด-19 ในตอนแรกเนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์ตรวจของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) เธออาศัยอยู่ในเทศมณฑลโซลาโน ทางตอนหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศแทรวิส หนึ่งในศูนย์กักโรคชาวอเมริกันที่ได้รับการอพยพกลับจากเมืองอู่ฮั่นของจีน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เธออาจติดเชื้อจากผู้ถูกกักโรค ขณะนี้ทางการทั้งระดับท้องถิ่น รัฐ และรัฐบาลกลางกำลังติดต่อและแยกตัวผู้ที่อาจใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ ขณะเดียวกันกำลังเฝ้าสังเกตอาการกับคนกว่า 8,400 คนที่มากับเครื่องบินพาณิชย์ เพราะเกรงจะนำเชื้อเข้ามาระบาด
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงค่ำวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563ว่า ยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 83,726 ราย มีผู้เสียชีวิต 2,859 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี