‘จุรินทร์’ยกเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ 24องค์กรร่วมผลักดันความเท่าเทียมระหว่างเพศ
2 มีนาคม 2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการว่ากระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อคุ้มครองและป้องกันมิให้การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ พร้อมด้วยการประกาศเจตนารมณ์ “การส่งเสริมความเสมอภาคและขจัดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ“ ซึ่งจัดโดยกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่โรงแรม ปริ้น พาเลซ มหานาค กรุงเทพมหานคร
นายจุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้ต้องถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์วันหนึ่งของประเทศในเรื่องของการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศทั้งนี้เนื่องจากภารกิจที่จะต้องดำเนินการและเป็นเป้าหมายสำคัญในเรื่องของการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศจะมีด้วยกัน 3 ประเด็นใหญ่กล่าว คือ 1.การปรับทัศนคติและค่านิยมของสังคม ให้ยอมรับความแตกต่างระหว่างเพศ 2.การที่ต้องช่วยกันขจัดการเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งเพศ. เช่นเรื่องของการรับ หรือไม่รับเข้าทำงาน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้น ควรคำนึงถึงความรู้ ความสามารถเป็นหลัก เป็นต้น 3.ช่วยกันขจัดความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสังคมด้วยเหตุแห่งเพศ
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์เพราะเป็นวันที่มีองค์กรทั้งหมด 24 องค์กรร่วมมือกันที่จะประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการที่จะไม่เลือกปฏิบัติในองค์กรของตนเองเพราะเหตุแห่งเพศ และจะช่วยกันขจัดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในองค์กรและในสังคมเพราะเหตุแห่งเพศ รวมทั้งการช่วยกันที่จะรณรงค์ส่งเสริมสนับสนุนความเท่าเทียมแห่งเพศในองค์กร ซึ่ง 24 องค์กรประกอบด้วย องค์กรภาครัฐ 4 องค์กร สถาบันการศึกษา 5 มหาลัมหาลัย รวมทั้งองค์กรเอกชน 15 องค์กร รวมเป็น 24 องค์กร ถือว่าเป็นรูปธรรมที่สุดในประวัติศาสตรงของประเทศในการที่จะร่วมส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ
สำหรับการลงนามประกาศเจตนารมณ์จะมีผลทสงปฏิบัติอย่างน้อย 6 เรื่อง 1.การยอมรับที่จะให้มีการแต่งกายในองค์กรตามเพศสภาพของแต่ละบุคคลหรือตามความพอใจในเรื่องของเพศหรือตามอัตลักษณ์ทางเพศของแต่ละบุคคล 2.ในเรื่องของการจัดพื้นที่ที่เหมาะสมในการเอื้ออำนวยในการใช้ประโยชน์ของคนทุกเพศทุกวัย เช่นเรื่องของห้องน้ำ เป็นต้น อาจจะมีห้องน้ำมากกว่า ห้องน้ำหญิงห้องน้ำชาย เป็นต้น
3.ในเรื่องของการรับสมัครงาน ก็จะกำหนดคุณสมบัติในลักษณะที่ไม่ไปนำลักษณะเฉพาะทางเพศมากำหนดเป็นคุณสมบัติในการรับสมัครงาน เช่นไม่ใช้เหตุแห่งเพศในการกำหนดคุณสมบัติเป็นกรณีเฉพาะ แต่จะพิจารณาจากความรู้ ความสามารถความเหมาะสมในการปฏิบัติงาน เป็นต้น
4.จะไม่ใช้ถ้อยคำ ภาษา หรือ ท่าทางในการลดทอนคุณค่าของแต่ละบุคคล เพราะเหตุแห่งเพศสภาพ เรื่องการสรรหาคณะกรรมการ หรือบุคคล ที่จะดำรงตำแหน่งต่างๆ ในหน่วยงานขององค์กรเหล่านี้ จะต้องไม่มีการกีดกันด้วยเหตุแห่งเพศ เช่นเดียวกัน จะหาหนทางและดำเนินการอย่างเคร่งครัด ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาล่วงละเมิด หรือคุกคามทางเพศในการทำงาน หรือ ในองค์กรของตนเอง
“ถัดจากนี้ไปจะไม่หยุดอยู่แค่ 24 องค์กรแต่จะมีการรณรงค์และดำเนินการให้เกิดการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันเพิ่มเติมเป็น 25 และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั่วประเทศในส่วนของตนในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ก็ขอเรียนว่าองค์กรที่ 25 พรรคประชาธิปัตย์ก็ยินดีที่จะเข้ามาร่วมกิจกรรมนี้ ในเรื่องของการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและจะถือโอกาสไปชักชวนพรรคการเมืองอื่นในการที่จะเข้ามาร่วมรณรงค์กิจกรรมนี้ รวมทั้งองค์กรอื่นๆ ที่จะสามารถทำได้ เพื่อรณรงค์เรื่องนี้ให้ปรากฏเป็นรูปธรรมให้เกิดขึ้นได้จริงๆ และสังคมไทยจะเป็นสังคมที่น่าอยู่มากขึ้น และมีคนรักกันมากขึ้น จะมีการยอมรับกันและกันมากขึ้น และมีความเท่าเทียมในเรื่องสิทธิมนุษยชนมากขึ้น” นายจุรินทร์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี