ป่าภูพานน้อย จ.นครพนม ไฟป่าลาม 2,000 ไร่ ส่วนที่แม่ฮ่องสอน พบลอบเผา 2 ข้างทางหลวง ค่าฝุ่นพิษพุ่ง ชี้ใกล้ อบต.แค่ 100 เมตร ไม่มีเจ้าหน้าที่ดับไฟจนลุกลาม ขณะที่ค่าฝุ่น PM2.5 เชียงใหม่ พุ่ง อยู่อันดับที่ 7 ของโลก
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบัญชา ศรีชาหลวงนายก อบต.พิมาน อ.นาแกจ.นครพนม ได้ระดมเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ตรวจสอบและควบคุมไฟป่าในพื้นที่อนุรักษ์เขาภูพานน้อย ต.พิมาน อ.นาแก หลังจากเกิดไฟป่าจนได้รับผลกระทบตลอดช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เบื้องต้นพบว่าเกิดความเสียหายแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 ไร่ ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากชาวบ้านบางกลุ่มลอบจุดไฟเผาเพื่อหาของป่า ตามความเชื่อว่าหากจุดไฟเผาช่วงฤดูแล้งจะทำให้เกิดเห็ดป่า และเข้าหาของป่าได้ง่ายขึ้นในช่วงฤดูฝน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ระดับรถบรรทุกน้ำ และอุปกรณ์ เดินเท้าเข้าไปควบคุมไฟป่า
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการเข้าสกัดไม่ให้ไฟป่าเกิดการลุกลามนั้น มีบางจุดที่เข้าไปควบคุมได้ยาก เนื่องจากระยะทางไกล และมีป่าหนาทึบ อย่างไรก็ดี ได้มีการประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชน ให้ตระหนักถึงผลกระทบจากไฟป่า และหากพบการกระทำผิด ขอให้ช่วยแจ้งเบาะแสกับทางเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อติดตามดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป
นายบัญชา กล่าวว่า พื้นที่ป่าในเขตอนุรักษ์เขาภูพานน้อย ถือเป็นผืนป่าอนุรักษ์ที่มีความสมบูรณ์ มีเนื้อที่หลายพันไร่ และยังเป็นป่าชุมชน แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ชาวบ้านช่วยกันดูแลให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ตั้งอนุสรณ์สถานแห่งความสงบภูพานน้อย ในยุคคอมมิวนิสต์ซึ่งมีการต่อสู้ของผู้ที่มีแนวความคิดทางการเมืองต่างกัน แต่ภายหลังได้ยุติลงและเกิดความสงบสุข ทาง อบต.พิมาน จึงร่วมกับชุมชนอนุรักษ์ส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่น่าเสียดายที่มีชาวบ้านบางกลุ่มกลับลอบเผาป่าจนเกิดความเสียหาย กระทบต่อระบบนิเวศน์ ความอุดมสมบูรณ์ของป่า ซึ่งในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้เกิดความเสียหายแล้วกว่า 2,000 ไร่ จึงอยากวิงวอนให้ชาวบ้านหยุดการเผาป่า และหันมาช่วยกันดูแลรักษาป่า
ส่วนสถานการณ์คุณภาพอากาศ ที่ จ.แม่ฮ่องสอน วันเดียวกัน กรมควบคุมมลพิษ รายงานการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ว่าพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 108 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกินค่ามาตรฐานที่ 50 มคก./ลบ.ม.โดยอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งประชาชนทั่วไป และกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท หลีกเลี่ยงพื้นที่มีมลพิษทางอากาศสูง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น และถ้ามีอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที
ด้านนายธนกฤต ฉันทะจำรัสศิลป์ นายอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ได้ร่วมกับองค์กรปกครองท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาล ต.เมืองยวมใต้ อบต.แม่คง และ อบต.บ้านกาศ ฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดมลภาวะและปัญหาหมอกควันในชุมชน อ.แม่สะเรียง หลังจากปัญหาหมอกควันเกิดจากไฟป่าที่มีการลอบเผา จนทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยภาพถ่ายดาวเทียมพบว่าจุดไฟป่าใน อ.แม่สะเรียง สูงมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาอยู่ที่ อ.ปาย และ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
ทั้งนี้ จากปัญหาค่าฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่พบว่าสูงขึ้นจากวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งตรวจวัดได้ 85 มคก./ลบ.ม.หลังจากพบว่ามีการลอบเผาป่าทั้งสองข้างทางหลวงหมายเลข 108 แม่ฮ่องสอน-ปาย และทางหลวงหมายเลข 1095 แม่ฮ่องสอน-แม่สะเรียง โดยมีการลอบเผาเป็นวงกว้าง และไฟป่าได้ลุกลามขึ้นไปสู่ยอดเขาสูงอีกด้วย และบางจุดได้เกิดขึ้นห่างจากที่ทำการ อบต.ไปเพียง 100 เมตร แต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานใด เข้าไปควบคุมไฟป่าที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด จนไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่ปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือ ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤติในหลายพื้นที่ ซึ่งมีค่าเกินมาตรฐานถึง 2 เท่าตัว โดยที่ จ.เชียงใหม่ พบว่ามีหมอกควันปกคลุมหนาแน่น ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ที่วัดได้บริเวณโรงพยาบาลอำเภอสารภี สูงถึง 164 มคก./ลบ.ม.ส่วนที่สี่แยกแม่กวง อ.สันทราย วัดได้ 155 มคก./ลบ.ม.ทำให้ในช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ จ.เชียงใหม่ ยังเป็นเมืองที่มีมลพิษสูง โดยอยู่ในอันดับ 7 ของโลก ตามการจัดอันดับของเว็บไซต์แอร์วิชวล ส่วนที่ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ค่าฝุ่น PM2.5 ยังเกินมาตรฐานกว่าเท่าตัวเช่นเดียวกัน โดยสาเหตุส่วนใหญ่ยังคงเกิดจากการเผาป่า
วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศ เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ระหว่างวันที่ 3-5 มีนาคมนี้ โดยจะทำให้มีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตก แม้พื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจะเป็นภาคเหนือตอนล่าง แต่จะช่วยให้ฝุ่นละอองถูกลมพัดจากภาคเหนือตอนบน ไปได้บ้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี