อัดฉีด5พันล้าน
กระตุ้นเที่ยวในประเทศ
แจกคนละพัน-5ล้านคนเฮ
ชง‘ครม.’อนุมัติ6มีนาคม
“พิพัฒน์” รมว.การท่องเที่ยวฯชง“ครม.เศรษฐกิจ”ของบกลาง 5 พันล้านบาท แจกเที่ยวในประเทศ“กิน พัก เที่ยว” คนละ 1 พัน ลงทะเบียน5 ล้านคน ปลุกเที่ยวต่างจังหวัดสู้โควิด-19 “บิ๊กตู่”เริ่มแคมเปญซีรี่ส์“มีปัญหา ปรึกษานายกฯ”เปิดทำเนียบฯจับเข่าคุยภาคปชช.นัดแรก กับตัวแทน 3 กลุ่มรับฟังปัญหา “ลดาวัลลิ์”ลาออกทิ้ง “เพื่อไทย” ชี้อยู่ไปก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ปัดขัดแย้งภายใน
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาเปิดเผยภายหลังหารือผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว เพื่อรวบรวมข้อเสนอการเยียวยาด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19ว่าเตรียมเสนองบกลางปี 63 วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนโครงการกิน พัก เที่ยว โดยแจกเงินทุนตั้งต้นเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ คนละ 1,000 บาท ผ่านแอพพลิเคชั่นของธนาคารกรุงไทย โดยโครงการนี้จะนำเสนอครม.เศรษฐกิจในวันที่ 6 มีนาคมนี้
“โครงการนี้จะมีวิธีการคล้ายชิมช้อปใช้ คือ การกระตุ้นการท่องเที่ยวโดยให้ทุนประเดิมก่อนเพื่อสร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศเพราะขณะนี้ในต่างจังหวัด ไม่ได้มีปัญหาการระบาดของโควิด-19 และไม่มีปัญหาฝุ่นละออกPM2.5ดังนั้นยังสามารถเที่ยวได้โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)จะจัดทำโปรแกรมในการท่องเที่ยวร่วมกับเอกชน ท้องถิ่นเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างจังหวัดคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 5 รอบ หรือ สร้างการหมุนเวียนให้ระบบเศรษฐกิจประมาณ25,000ล้านบาท”นายพิพัฒน์ ย้ำ
ทั้งนี้เบื้องต้น จะมีผู้ที่ได้รับสิทธิประมาณ5ล้านคน เป็นการแข่งขันเพื่อรับสิทธิ ผ่านแอพเป๋าตังโดยจะใช้วิธีแบ่งโควตาไปในแต่ละจังหวัดตามจำนวนประชากรของแต่ละจังหวัดเพื่อให้เกิดการกระจายของเงินลงทุกจังหวัดทั่วประเทศ และคนที่ได้ก็จะต้องเดินทางท่องเที่ยวตามเวลา และสถานที่ที่กำหนดด้วย
นายกฯเปิดทำเนียบฯคุยภาคปชช.
เวลา14.00น.ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้การต้อนรับภาคประชาชน3กลุ่มได้แก่ ตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนประชาชนและตัวแทนผู้ประกอบการอิสระเพื่อนำเสียงสะท้อนที่ได้รับไปประมวลออกมาเป็นมาตรการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนตรงกับความต้องการที่แท้จริงแต่ละกลุ่ม ตามแคมเปญซีรีส์“มีปัญหา ปรึกษานายกฯ”
โดยนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำตัวแทนกลุ่มภาคประชาชนเข้าพบ และมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เข้าร่วมพูดคุย
ทั้งนี้นายพีระพันธุ์ กล่าวก่อนพูดคุยว่าวันนี้มีตัวแทนภาคประชาชนเกือบ 30 คน เข้าพูดคุยกับนายกฯ เป็นการมาพูดคุยถึงความทุกข์ร้อน ซึ่งถือเป็นเป้าหมายและนโยบายของนายกฯอยู่แล้ว ที่ต้องการรับฟังโดยเฉพาะความเดือดร้อนจากสภาวะเศรษฐกิจ การทำมาหากิน การประกอบอาชีพ และสิ่งที่อยากได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยครั้งต่อไปจะต้องดูตารางงานนายกฯด้วย
‘วิษณุ’รู้สึกเฉยๆข่าวเลื่อยขาเก้าอี้
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ได้เซ็นชื่อและยื่นใบลาออกจากครม.แล้วว่า”เรื่องนี้ของเก่าและเชยไปแล้ว ไม่เคยเซ็น”เมื่อถามว่าขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวย้ำว่า ตนไม่เคยเซ็น และไม่ทราบเรื่อง ส่วนที่มีกระแสข่าวว่านายวิษณุต้องการวางมือทางการเมืองเพื่อไปพักผ่อนมองว่าเป็นการปล่อยข่าวจากกลุ่มการเมือง เพื่อต้องการเข้ามานั่งเก้าอี้รองนายกฯแทนหรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า“ไม่เป็นไรผมรู้สึกเฉยๆ”
‘ลดาวัลลิ์’ไขก๊อกทิ้ง’เพื่อไทย!
ขณะที่ นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยโพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวว่านับจาก13กันยายน ปี 2535-2563เป็นเวลา เกือบ 28 ปีแต่ได้ทำหน้าที่ทางการเมืองตามกฎหมายเพียง 11ปี ถูกตัดสิทธิ์ เว้นวรรคทางการเมือง นานเกือบ17ปีแต่ก็เป็น 11 ปีที่ ดิฉันได้สร้างผลงานไว้มากมายทั้งในพื้นที่จังหวัดพะเยาและผลงานระดับชาติอีกหลายโครงการและได้สร้างนักการเมืองระดับชาติ ระดับท้องถิ่นจำนวนหนึ่งและก็ได้ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ให้กำลังใจตัวเองเดินหน้าทำงานเพื่อสังคมตลอดมาอย่างต่อเนื่อง
โดยมีประชาชน ครอบครัว ญาติพี่น้องและเพื่อนๆคอยเป็นกำลังใจให้การสนับสนุนการทำงานเรื่อยมา ในฐานะประธานมูลนิธิพัฒนาเยาวสตรีภาคเหนือฯ ประธานชมรมเสียงสตรีแห่งประเทศไทย และนายกสมาคมไทลื้อแห่งประเทศไทย ได้หาเลี้ยงชีพด้วยธุรกิจส่วนตัวมาจนถึงวันนี้ จึงได้ตัดสินใจด้วยตัวเองลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย กรรมการบริหารพรรค รองหัวหน้าพรรค และประธานคณะทำงานรับเรื่องราวร้องทุกข์
ไม่เกิดประโยชน์-จ่อตั้งพรรค
“เพราะเห็นว่าการอยู่ในพรรคเพื่อไทยต่อไปก็คงไม่สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติกับประชาชนได้ตามที่ควรจะเป็น ดิฉันเชื่อมั่นว่าเส้นทางข้างหน้ายังมีโอกาสจะริเริ่มสร้างสรรค์ได้ทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนตามแนวทางที่ตนเองมีความถนัด มีประสบการณ์และเป็นตัวของตัวเอง ดิฉันฝันมานานอยากมีพรรคการเมืองของตัวเอง อยากรวมคนที่มีอุดมการณ์ทำงานการเมืองเพื่อประชาชนจริงๆมาอยู่ด้วยกัน ยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักและให้ประชาชนมาร่วมขับเคลื่อนการเมืองร่วมกับพรรคอย่างแท้จริง ตอนนี้ยังไม่ขอสังกัดพรรคใด และขอขอบพระคุณทุกท่านที่ได้ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำที่ดี และให้การสนับสนุนด้วยดีตลอดมา”
ยืนยันลาออก-ปัดขัดแย้งในพท.
ทั้งนี้ นางลดาวัลลิ์ให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า สาเหตุการลาออกจากพรรคเพื่อไทย ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งในพรรคและไม่เคยขัดแย้งใคร แต่ยอมรับว่าบทบาทในพรรค ทำเพียงเรื่องร้องเรียนจึงอยากทำอย่างอื่นบ้าง หลังจากนี้คงอยู่ว่างๆยังไม่คิดสังกัดพรรค ส่วนทำพรรคการเมืองนั้น ก็ยังเป็นแค่แนวคิดเท่านั้น
‘แรมโบ้’พร้อมรับลดาวัลลิ์ร่วมพปชร.
ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ ได้ยื่นลาออกจากพรรคเพื่อไทยว่าอาจเป็นเพราะนางลดาวัลลิ์คงอึดอัดใจที่พรรคเพื่อไทย ไม่ให้ทำงานหรือไม่ เพราะช่วงหลัง ก็ไม่ได้มีบทบาทภายในพรรค ขณะนี้ได้ก็มีการพูดคุยกันและได้ชักชวนให้มาทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ หากนางลดาวัลลิ์สนใจ ก็พร้อมอ้าแขนรับเข้ามาทำงานร่วมงานกัน
สุเทพเตือนนศ.อย่าทำผิดกฎหมาย
ที่ศาลอาญา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยและแกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแฟลชม็อบต้านรัฐบาลที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา เคลื่อนไหวจัดขึ้นนั้นว่าการแสดงความคิดเห็นเรื่องการเคลื่อนไหวของนักศึกษา ต้องทำด้วยความระมัดระวัง อาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดกันได้ ตนขอยืนยันในหลักการ การแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นของกลุ่มไหน เป็นสิทธิที่ดำเนินการได้ภายใต้บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญที่ให้การรับรองเอาไว้
ห่วงถูกดำเนินคดีเดินขึ้นศาล
“แต่ในฐานะคนที่มีประสบการณ์ในการชุมนุมต่อสู้มาแล้วและถูกดำเนินคดียาวนานเป็นเวลานับปี ผมฝากไปถึงน้องๆว่า ใครก็ตามที่เป็นผู้นำ จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ให้ผู้ชุมนุมกระทำการใดที่เป็นการทำผิดกฎหมาย แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ เพราะเดี๋ยวนี้ไปเคลื่อนไหวอะไรมีการบันทึกไว้เป็นคลิปวันข้างหน้าจะกลายเป็นปัญหาถูกดำเนินคดี เหมือนพวกผมตอนนี้ คนอื่นกลับบ้านกันหลายปีแล้วพวกผมต้องขึ้นโรงขึ้นศาลทุกวันไม่ได้ไปทำมาหากินที่ไหน แถมรู้สึกเหนื่อยอีกด้วยฝากให้เป็นแง่คิด น้องๆ นักศึกษาต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ”
ซัดคนปลุกปั่นนศ.ทำบาปมหันต์
นายสุเทพยังกล่าวว่า การแสดงความคิดความเห็นของนักศึกษา เป็นเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองทุกคนก็ควรจะได้ติดตามรับฟังว่าเขาคิดอะไร เขามีความเห็นอย่างไร ส่วนถ้ามีใครไปปลุกปั่นยุยง นักศึกษาก็ต้องเรียกว่าเป็นบาปของเขา คนไปทำนะ ไม่ใช่นักศึกษา คนที่ไปพยายามที่จะปลุกปั่นใช้นักศึกษาเป็นเครื่องมือ ให้รู้ว่ากำลังทำบาปอย่างมหันต์
ชุมนุมในมหาลัยหวั่นคนไม่หวังดี
เมื่อถามว่าการเคลื่อนไหว จะนำไปสู่การชุมนุมใหญ่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่าไม่ทราบ คิดไม่ได้ คาดการณ์ไม่ได้ ตนอายุ 70กว่าปี คิดต่างกันเยอะ แต่คิดว่าชุมนุมในมหาวิทยาลัย ในโรงเรียนปลอดภัยที่สุด ตอนที่พวกตนมาชุมนุมบนถนน คนไม่หวังดี เอาอาวุธมาทำร้ายบาดเจ็บล้มตายไปเยอะ จึงต้องอยู่ในมหาวิทยาลัย ในโรงเรียนดีที่สุด และขอเรียกร้องว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็ต้องให้การคุ้มครองเป็นพิเศษ ระวังคนที่มีเจตนาร้าย ต่อบ้านเมือง ใจคออำมหิต วันที่ 10เม.ย.2553 ยิงประชาชนยิงทหาร หวังสร้างสงครามกลางเมือง ตอนพันธมิตรฯชุมนุม ก็เอาเอ็ม79ไปยิง ตอนพวกตนชุมนุม เด็กอายุ 5-6ขวบ ก็เสียชีวิต ผู้หญิงก็เสียชีวิต ทั้งหมด24คน คนพวกนั้นที่คิดไม่ดีต่อประเทศไทย เป็นพวกอำมหิต ต้องระวัง เรามีหน้าที่ปกป้องดูแลลูกหลานให้ดีที่สุด
กมธ.เลื่อนจัดเวทีรับฟังความคิด
ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 สภาผู้แทนราษฎร มี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กมธ.ซึ่งได้พิจารณาเกี่ยวกับแนวทางการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน
ในช่วงแรกของการประชุม ได้หยิบยกกรณีการชุมนุมของนักศึกษาตามมหาวิทยาลัย จึงเห็นว่าควรที่จะให้นักศึกษาเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะเป็นหนึ่งในข้อเรียกร้องของกลุ่มนักศึกษา จากนั้น กมธ.จากหลายพรรคให้ความเห็นทั้งไม่เห็นด้วย และสนับสนุน โดยยืนยันว่ามหาวิทยาลัยหลายแห่งมีหนังสือตอบกลับว่าขอเลื่อนการจัดเวทีออกไปก่อนจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลายลง ในที่สุด นายพีระพันธุ์ สรุปว่าก่อนจะมีเหตุการณ์ชุมนุมของนักศึกษา ทางคณะอนุกรรมาธิการเตรียมจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากมหาวิทยาลัยและติดต่อประสานงานไว้แล้วแต่มาเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสก่อน ทำให้มหาวิทยาลัยที่ประสานไปแจ้งกลับมายังคณะกรรมาธิการเพื่อเลื่อนการจัดงานออกไปก่อนชั่วคราว ขอยืนยันว่า เราไม่ได้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของใคร
“เมื่อผมได้ยินได้ฟังว่าเขาแสดงความคิดเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญ คิดว่าเมื่อสอดคล้องกับแนวทางการรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พร้อมมอบให้นายวัฒนา เมืองสุข รองประธานฯไปดำเนินการประสานต่อไป ยืนยันไม่มีเรื่องการเมืองข้างนอก แต่เป็นเรื่องที่เราเตรียมการไว้ก่อนแล้ว
ย้ำรัฐธรรมนูญควรอ่านได้ง่าย
ทั้งนี้ นายพีระพันธุ์ยังมีข้อเสนอว่ารัฐธรรมนูญควรต้องให้อ่านได้ง่าย อ่านแล้วลื่น ไม่ใช่อ่านไปข้างหน้าแล้วต้องย้อนกลับมาอ่านด้านหลังอีก และรัฐธรรมนูญ ควรให้เกิดการทำงานได้ ที่สำคัญการพิจารณาใด เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญจะต้องดูเจตนารมณ์เป็นหลักด้วยเช่นกรณีการถือหุ้น ถ้าจะเป็นความผิดก็ควรต้องถึงขนาด ที่ที่ตำแหน่งนั้น เข้าไปมีผลหรือมีลักษณะเอื้อประโยชน์ เป็นต้น
ส่วนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนในต่างจังหวัด นายพีระพันธุ์ ยืนยันว่ายังไม่ได้ยกเลิก แต่ต้องเลื่อนออกไป เพราะเกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19จึงเน้นการรับฟังความคิดเห็นผ่านทางสื่อสังออนไลน์แทน โดยคณะกรรมการธิการฯไม่สามารถขยายเวลาการทำงานได้แล้วเพราะเวลานี้อยู่ในระหว่างการปิดสมัยประชุมสภา อีกทั้งก่อนที่สภาจะปิดประชุมก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการฯก็ไม่ได้ขอให้สภาขยายเวลาเอาไว้ ส่วนนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ก็ยังคงเป็นกรรมาธิการวิสามัญฯชุดนี้ได้ในโควต้าคนนอก ไม่จำเป็นต้องออกจากตำแหน่งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี