เปิด‘เกษตรสิริสุข’แห่งที่4 ‘ครัว’ของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร

เปิด‘เกษตรสิริสุข’แห่งที่4 ‘ครัว’ของโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร

วันพฤหัสบดี ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag :

 

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเปิดเผยว่า เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารมาอย่างต่อเนื่อง กรมส่งเสริมการเกษตรได้เปิดอาคาร “เกษตรสิริสุข” แห่งที่ 4 ตั้งอยู่ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่112 ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย โดยได้พระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯเป็นองค์ประธานพิธีเปิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา


สำหรับอาคารดังกล่าวกรมส่งเสริมการเกษตรสร้างขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระองค์ท่านในวาระครบรอบ 50 ปี กรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อใช้จัดการผลผลิตทางการเกษตรและแปรรูปถนอมอาหารและดำเนินการโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เด็กนักเรียนได้รับประทานอาหารปลอดภัยถูกหลักโภชนาการแล้ว ยังส่งเสริมให้โรงเรียนมีแหล่งถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรให้นักเรียนที่เหมาะสม สามารถจัดการผลผลิตทางการเกษตรของโรงเรียนและชุมชนอย่างเป็นระบบอีกด้วย โดยกรมฯมีเป้าหมายจัดสร้างอาคารเกษตรสิริสุขถวายทั่วประเทศ 5 แห่งและได้เสด็จเป็นประธานเปิดอาคารแล้ว 4 แห่งคือ 1.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านทุ่งสบายใจ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา 2.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนการบินไทย อำเภอคลองหาด
จังหวัดสระแก้ว 3.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านย่านซื่อ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 4.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่ 112 อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย และ5.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองดู่ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม

นายเข้มแข็งกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุง ที่ 112 ตำบลแม่สลองใน อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัด เชียงราย มีนักเรียนทั้งหมด 168 คน แยกเป็นชาย 93 คน หญิง 75 คน ครูทั้งหมด 12 คน เป็นครู ตชด. 8 คน ครูอัตราจ้าง 4 คน ปัจจุบันมีพื้นที่ 10 ไร่พื้นที่ทำการเกษตร 2 ไร่ แยกเป็นปลูกพืชผัก 1 ไร่ (ชะอม, ข่า, ตะไคร้, ผักบุ้ง, ผักกวางตุ้ง, คะน้า, ผักกาดเขียวปลี มะเขือยาว, แตงกวา, ฟักทอง, บวบ, ถั่วฝักยาว, ผักกาดขาว, กะหล่ำปลี, ผักชี, กวางตุ้งฮ่องเต้, ถั่วลันเตา, บร็อกโคลี่ และมะเขือเปราะ) ปลูกไม้ผล 0.5 ไร่ (มะละกอ, กล้วย, ขนุน, ลิ้นจี่) การเพาะเห็ด 500 ก้อน ขุดบ่อดินสำหรับเลี้ยงปลาน้ำจืด (ปลานิล ปลาดุก 1 บ่อ) โรงเลี้ยงไก่ไข่แบบเปิด 1 โรง โรงเลี้ยงไก่พื้นเมืองแบบเปิด 1 โรง โรงเลี้ยงสุกรแบบเปิด 1 โรง ส่งเสริมการทำปุ๋ยหมักแบบไม่กลับกอง 2 กอง ส่งเสริมการทำน้ำหมักชีวภาพ การทำจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง การทำกับดักแมลง

“สำหรับแนวทางการใช้ประโยชน์จากอาคาร “เกษตรสิริสุข” สำหรับโรงเรียนและชุมชน เป็นสถานที่จัดการผลผลิตที่ได้ของแปลงเกษตรในโรงเรียน เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานและจัดส่งโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน รวมทั้งเป็นจุดเรียนรู้และฝึกปฏิบัติของนักเรียนในโรงเรียนได้จัดการผลผลิตเพื่อให้ได้ตามมาตรฐาน และเป็นจุดศึกษาดูงานของชุมชนในด้านกระบวนการจัดการผลผลิต ซึ่งกรมจะเร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปถ่ายทอดความรู้สู่ชุมชนให้เข้าใจลงมือปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวันและต่อยอดสู่ชุมชนในอนาคต” นายเข้มแข็ง กล่าว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top