"มัลลิกา" โต้เอี่ยว 11 โรงงาน ปมหน้ากากอนามัย ระเบิดศึกฟ้อง "อัจฉริยะ" ซัดไม่เคยรู้จัก มีเบื้องหลังอะไรหรือเปล่า ท้าต้องสาบานด้วย
รายการ "เรื่องลับมาก (NO CENSOR)" ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 14.10 - 14.50 น. ทางเนชั่นทีวี ช่อง 22 วันนี้ (19 มี.ค.) "ดร. เสรี วงษ์มณฑา" ได้เปิดใจสัมภาษณ์ "มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข" ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ "ปิยณัฐ สุกยัง" จากกรณีที่มีการโกงเรื่องหน้ากากอนามัย จนมีผู้กล่าวอ้างว่ามีที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งออกหน้ากากอนามัย จนเป็นที่มาฟ้องหมิ่นประมาท
สนิทกับคุณจุรินทร์แค่ไหน?
มัลลิกา : "เราก็มีหน้าที่เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยที่รัฐมนตรีแต่งตั้ง จะมีหน้าที่ในการให้คำปรึกษา สนิทแค่ไหนก็ค่อนข้างคุ้นเคยพอจะไว้วางใจกันได้ และให้ความไว้วางใจกันได้ว่าเราจะไม่กระทำความผิดต่างๆ"
คนมีเยอะทำไมเลือกเรา?
มัลลิกา : "ที่ปรึกษามีทั้งหมด 20 คน เราเป็นที่ปรึกษาคนเดียวที่เป็นผู้หญิงที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง แต่ขณะเดียวกันรัฐมนตรีแต่งตั้งเอง ก็มีผู้หญิงอีก 3-4 คน และคณะที่ปรึกษาทั้งหมดมีประมาณ 20 คนค่ะ"
เรื่องหน้ากากนอกจากถูกมองว่าต้องสนิทกัน ถึงขนาดร่วมมือกันต่างๆ นานา ก็เลยไปถึงว่ามีความสัมพันธ์รู้จักเจ้าของโรงงานทั้ง 11 แห่ง อันนี้เท็จจริงแค่ไหน?
มัลลิกา : "ไม่จริงค่ะ เรามีหน้าที่ทำงานตามภารกิจที่รัฐมนตรีกำหนด และตามภารกิจที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายตรงนั้น และไม่ได้รู้จักมักจี่หรือมีเหตุการณ์อะไรทั้งสิ้นที่จะไปรู้จักคุ้นเคย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น นับจากมีเหตุการณ์นี้จนปัจจุบันนี้ ก็ผ่านมา 1 เดือนครึ่ง สำหรับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์หน้ากากอนามัย"
เคยคุยกับเจ้าของโรงงานท่านนี้มั้ย?
มัลลิกา : "ไม่เคยค่ะ นอกจากติดตามท่านรองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์พร้อมนักข่าวเป็นร้อยไปตรวจพื้นที่ในครั้งนึง"
คุณจุรินทร์เคยพูดเรื่อง 200 ล้านชิ้นแต่หาซื้อกันไม่ได้ 200 ล้านชิ้นที่คุณจุรินทร์พูดหมายถึงอะไร?
มัลลิกา : "หมายถึงวัตถุดิบ กำลังการผลิต ซึ่งเขาประเมินจากการประชุม ราชการเป็นผู้รายงาน ทั้งหมด 200 ล้านชิ้น หมายถึงระยะ 4-5 เดือน ไม่เกิน 6 เดือนนี้มีกำลังการผลิตประมาณนี้ แปลว่า 1 เดือนมันต้องเฉลี่ยหารออกมาว่าเดือนละประมาณ 30 ล้านชิ้น ต่อวันล้านสองแสนชิ้นโดยประมาณ มันทยอยการผลิต ไม่ใช่ของกองอยู่เป็นภูเขาเลากา"
เราพูดถึงวัตถุดิบพร้อมแต่ยังไม่ได้ผลิตออกมาเท่านั้น?
มัลลิกา : "ใช่ค่ะ เพื่อป้องกันการกักตุน ขายเกินราคา ไม่ให้ปัญหาเกิดกับประชาชน"
ทำไมหาซื้อตามร้านไม่ได้ แต่ออนไลน์เกลื่อนไปหมดและราคาแพง?
มัลลิกา : "อันนี้เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องต้องติดตาม เห็นเขากำลังไล่จับกุมกันเป็นเรื่องเป็นราว บางอันก็เป็นการหลอกกันบนออนไลน์และปั่นราคากัน เสร็จปุ๊บก็โอนเงินและไม่มีของ โกงกัน เรื่องที่เห็นในออนไลน์ กับเรื่องที่เห็นบางเรื่องก็หลอกกันก็มี คนหลงเชื่อก็มี เรามีทีมชุดตร. ในการเป็นเจ้าพนักงานตรวจสอบดูแลปัญหา ใครทำผิดก็ต้องจับไปทั้งหมดประมาณ 165 คดีแล้ว"
ส่งออก มีภาพออกมาเปิดคอนเทรนเนอร์มาเต็มไปหมดเลย เมื่อประเทศเราต้องการ ประชาชนหาซื้อไม่ได้ ทำไมกระทรวงพาณิชย์อนุมัติให้ส่งออก?
มัลลิกา : "หน้ากากอนามัยมีหลายชนิด หลายประเภทมาก ที่รัฐมนตรีไม่ให้มีการส่งออกเด็ดขาดคือหน้ากากอนามัยที่เราควบคุมไม่ให้ราคาเกิน 2.50 บาท นั่นห้ามส่งออกเด็ดขาด เพราะประชาชนใช้ หน้ากากที่ให้ส่งออก คือหน้ากากที่ประชาชนไม่ใช่"
กล้ายืนยันมั้ย การส่งออกเป็นไปตามกฎกติกาชัดเจน ไม่มีการลักลอบ?
มัลลิกา : "การไปควบคุมอะไรที่เกินความสามารถของเรา เราไม่สามารถรู้ได้ แต่ขณะเดียวกันเท่าที่ตรวจสอบ ข้อมูลเอกสารต่างๆ ปัจจุบันนี้ ไม่มีเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ทำผิดกฎหมายใดๆ เลย เพราะกรณีอำนาจหน้าที่เจ้าหน้าที่ไม่ใช่แค่กระทรวงพาณิชย์ มันมีองค์กรอื่นมาเกี่ยวข้องแก้ปัญหา"
คนในกระทรวงพาณิชย์คิดว่ามีมั้ย ลักลอบ?
มัลลิกา : "เราไม่สามารถไปพูดแทนคนอื่นได้ บุคคลที่จำเป็นต้องใช้คือบุคลากรทางการแพทย์ และคนป่วย แต่ขณะเดียวกัน บุคคลที่ไกลจากความเสี่ยง หรืออย่างเราๆ ก็ใช้หน้ากากผ้า ซึ่งทดแทนกันได้ ป้องกันการไอจามใส่กัน เผื่อน้ำลายกระเด็นใส่หน้า เพราะเราไม่ได้เข้ารพ. ไม่ได้ไปใกล้ชิดผู้ป่วย แตะสัมผัสผู้ป่วยสิ่งสำคัญที่สุดคือกินช้อนกลาง กลางใครกลางมัน และล้างมือบ่อยๆ รัฐบาลก็แก้ปัญหาทีละสเต็ป พอเกิดความวิตกกังวล ทุกคนรับมือปัญหานี้พร้อมกันทั้งโลก ไม่ใช่ว่าเราเก่งเป็นเทวดาในการแก้ปัญหาสิ่งเดียวนี้ให้คนพอใจได้หมดครบทุกคน"
อัจฉริยะไม่ได้เอ่ยชื่อ ทำไมถึงคิดว่าเป็นเรา?
มัลลิกา : "คือเขาพูดซ้ำหลายรอบ คือตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีพาณิชย์คือมัลลิกา รัฐมนตรีแต่งตั้งชัดเจน และด้วยความที่เขาพูดหลายที่ หลายทาง ซ้ำๆ หลายรอบ เขาระบุคาแรคเตอร์ ทีมทนายความเลยบอกว่าอันนี้ทำให้คนไม่สิ้นสงสัยว่าเป็นเรา อย่างคนรู้จักเรา สื่อมวลชน โทรศัพท์มาหาเรา ทำให้คนเชื่อได้ว่าเป็นเรา ที่สำคัญที่สุดพอนอกไมค์ เขาไปยื่นหนังสือให้เจ้าหน้าที่ เขาก็พูดชื่อเราให้นักข่าวฟัง เราก็มีพยาน"
ขอลักษณะที่เขาพูดในที่สาธารณะ จนคนสรุปว่ามัลลิกา?
มัลลิกา : "ทีมทนายความเขาสรุปนะคะว่าคาแรคเตอร์เป็นผู้หญิง เป็นคนที่ออกสื่อโน่นนี่นั่น ระบุถึงบุคลิกต่างๆ กรณีพูดซ้ำหลายที่หลายทาง ออนไลน์พูดซ้ำ ทำให้หลายคนเชื่อได้ว่าเป็นเรา"
คนมองว่ามัลลิกากับอัจฉริยะอาจมีเรื่องความโกรธแค้นส่วนตัวกันหรือเปล่า?
มัลลิกา : "ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้จักเลยค่ะ แล้วเข้าใจว่าเขาอาจเข้าใจผิด สองข้อมูลที่เขาพูดเป็นข้อมูลเท็จ คำที่เขาพูดก็ใช้คำรุนแรงเหมือนโกรธมาเป็นชาติ เราก็ไม่รู้จักเขาเลย เขาก็ไม่รู้จักเราเลย ทีนี้ก็เชื่อได้ว่าน่าจะมีเบื้องหลังหรือไม่ เชื่อได้ว่าน่าจะมีเรื่องทางการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือไม่ ผู้ให้ข้อมูลคุณอัจฉริยะ วาระซ่อนเร้นต้องมีแน่นอน เราก็ไม่สบายใจว่า เราไม่รู้จักกันมาก่อน แต่มากล่าวหาใส่ร้ายป้ายสี และเป็นข้อมูลเท็จด้วยและพยายามบ่งบอกคาแรกเตอร์ โฟกัสมาให้ชัด เวลาไปพูดนอกไมค์ก็ค่อนข้างใส่ร้ายหนักมาก เราคิดว่าอันนี้มันไม่ใช่แล้ว"
เขาพูดเหมือนมีหลักฐานว่าขายกัน 14 บาท เข้ามาเพราะหาผลประโยชน์?
มัลลิกา : "ตั้งแต่เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรี เหตุการณ์นี้ก็เพิ่งเกิด 1 เดือนนะคะ สองเรื่องที่ควรจินตนาการ หรือมโนเข้าไป มันเป็นเรื่องของคุณ เป็นเรื่องที่ห้ามกันไม่ได้ว่าจะวิจารณ์กัน แต่เรื่องเขาไม่ได้ทำผิดแล้วไปกล่าวหาว่าร้าย ไปกล่าวหาเป็นเรื่องที่ไม่สมควร และผิดกฎหมาย แล้วกรณีที่เขาไปยื่นเอกสารอะไรก็ตามแต่ เราก็บอกตั้งแต่เมื่อวานนะคะว่าอย่าหยุดตรวจสอบ ถ้ามีหลักฐาน เอาไปให้พนักงานสอบสวน ตร.ไม่ได้สังกัดกระทรวงพาณิชย์ เอาให้ครบ เอาให้ถ้วน อย่าหยุด แล้วกรณีที่มีการไปตรวจโกดัง มีสต็อก บอยเอยไลฟ์เอย อย่าหยุดไปตรวจสอบ เราชื่นชมถ้าคุณทำหน้าที่อย่างสุจริตใจแล้วไม่มีวาระซ่อนเร้นอะไร ทำไมกับมัลลิกากับกระทรวงพาณิชย์คุณถึงมาชี้เป้าว่าต้องเอาผิดมาก ขณะเดียวกันมีอีกกลุ่มหนึ่ง อีกขบวนนึงและเกี่ยวข้องอีกพวกนึง ที่มีการกักตุนชัดเจน ทำไมไม่ไปชี้หน้าด่าเขา ประจานเขา เลว อะไรอย่างนี้ มันมีหลายเรื่อง นี่คือเป็นความไม่สิ้นสงสัยของเราเหมือนกัน เราเลยสรุปว่าเขาคงมีอะไรที่เข้าใจผิด หรือเกี่ยวข้องกับเจตนาอะไรหรือไม่"
สิ่งที่ทำสองมาตรฐานมั้ย?
มัลลิกา : "เป็นความสงสัยที่เราพูดไปแล้ว แต่เราก็จะพูดในส่วนเราว่าสิ่งที่คุณพูดมาเกี่ยวกับกระทรวงพาณิชย์ผิดทั้งหมด มันไม่ใช่ แล้วคุณปั้นข้อมูลเท็จขึ้นมา ภาคประชาชนทุกคนตรวจสอบได้ ไม่ใช่แค่อัจฉริยะ แต่อย่าไปกล่าวหา ให้ร้ายป้ายสีเขาซะก่อน"
ทนายเจ ปิยณัฐ ฟังด้านอัจฉริยะพูด จากการเป็นทนาย เชื่อหรือเปล่าว่ามีการลักลอบส่งออก?
ทนายเจ : "ผมค่อนข้างเชื่อว่ามี แต่ส่วนนั้นอยู่นอกเหนือภาครัฐ ถ้าเขามีหลักฐานก็นำหลักฐานไปให้ตรวจสอบเส้นทางการนำออกนอกประเทศ หรือนำเข้าผิดกฎหมาย หรือทุจริตในการส่งออกหน้ากากอนามัย แต่การที่คุณอัจฉริยะออกมาพูดแบบนี้ เขาก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจอย่างดีแล้ว เพราะการพูดต่อหน้าสาธารณชนมันโดนฟ้องได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะมีหลักฐานอะไรมากล่าวหาคุณมัลลิกาว่ามีการทุจริต เพราะตั้งแต่ติดตามมา ก็ยังไม่เห็นเปิดเผยเอกสารสักชิ้นเลย"
คิดว่าเขามีหลักฐานมั้ย?
ทนายเจ : "ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขามีหรือไม่มี หรือมีอะไรอยู่ในมือ แต่ว่าถ้าฟังจากการที่คุณมัลลิกา กระทรวงพาณิชย์ หรือกรมการค้้าภายในแถลงมา การออกมายอมรับว่าหน้ากากอนามัยไม่พอใช้ในประเทศดีมากเลยนะ เพราะเป็นการตั้งคำถามต่อว่าเราจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร"
กลัวเขามีหลักฐานมั้ย?
มัลลิกา : "ไม่กลัวค่ะ ตลอดการทำงานยึดมั่นในเรื่องการทำหน้าที่ รับผิดชอบ ไม่เคยด่างพร้อยเรื่องอะไร และเรื่องพวกนี้ถ้ามีข้อมูลเอาไปให้พนักงานสอบสวนอย่าให้รอด อย่างที่บอกว่าอย่าหยุดนะคะ ไม่ว่าจะตรวจสอบมัลลิกาหรือผู้ใด เพราะมันเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรง กล้าสาบาน และพร้อมให้คุณอัจฉริยะไปสาบานด้วย ว่าไม่มีวาระซ่อนเร้นอะไร ตัวเราเองเรามั่นใจ เราไม่ได้มีส่วนพัวพัน ผูกโยงไปรู้จักมักจี่กับวงวานผู้ประกอบการด้านนี้เลย เราทำหน้าที่ในส่วนที่เรารับผิดชอบ เราไม่ทำนอกเหนือหน้าที่ ส่วนที่ทนายบอกต้องฟ้องก็ถูกต้องแล้ว ทางเจ้าพนักงานประทับรับการแจ้งความพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ไปแล้วด้วย 2 คดี เพราะข้อมูลที่คุณเอาไปใช้บนโซเชียลมีเดีย ผิดพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ชัดเจน เพราะคุณพูดข้อมูลเท็จ เราเป็นผู้ดำรงตำแหน่ง เป็นข้าราชการการเมือง คุณพูดข้อมูลเท็จของราชการ ตรงส่วนนี้เราก็ไปนำสืบนำฟ้อง 2 ข้อหา"
รู้สึกยังไง ณ เวลานี้ มีคนหากินกับความเดือดร้อนของประชาชนแน่นอน?
มัลลิกา : "ก็เลว คนเหล่านี้คือเลว หากินบนความลำบากของคนอื่น ขณะเดียวกัน การกระทำลักษณะแบบนี้ทำให้คนทำงานบริหารจัดการค่อนข้างยาก เจ้าพนักงานนำสืบกันตลอดเวลา เราได้ดำเนินการตลอดเวลา ต้องเอาให้ถึงที่สุดตามกฎหมาย"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี