26 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรเมือง จ.ศรีสะเกษ พ.ต.ท. ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก (สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ นำตัว นายเจตคติ หรือเจ วงศ์เลิศ อายุ 24 ปี ฉายาลูกเทพ อยู่บ้านเลขที่ 161/7 ถนนขุขันธ์ ต.เมืองเหนือ อ.เมืองศรีสะเกษ ผู้ต้องหาทำให้เสียทรัพย์มาสอบปากคำก่อนนำตัวส่งขอผลัดฟ้องและฝากขังต่อศาลจังหวัดศรีสะเกษ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 มี.ค.63 ได้มีคนร้าย ใช้ก้อนอิฐทุบกระจกด้านหลังรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส ทะเบียน 9 กถ 7821 กทม. จนกระจกแตกเสียหาย เหตุเกิดลานจอดรถภายในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษเขต 1 (สพป.ศก.เขต 1) อ.เมืองศรีสะเกษ

จากการสืบสวนสอบสวนของตำรวจชุดสืบสวน มีพยานหลักฐานชัดเจนว่า ผู้ก่อเหตุคือนายเจตคติ วงศ์เลิศ เป็นผู้ที่เคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2558 รวม 7 ครั้ง มีผู้เสียหายกว่า 10 ราย ซึ่งการก่อเหตุแต่ละครั้ง แม่ของผู้ต้องหาจะไปเจรจาชดใช้ค่าให้แก่ผู้เสียหายและก็จะมีการถอนฟ้อง กระทั่ง ต่อมาเมื่อวันที่ 16 มี.ค.63 นายเจตคติได้ก่อเหตุทุบรถอีก จึงขออนุมัติศาลออกหมายจับที่ จ. 95/2563 ลงวันที่ 19 มี.ค. 2563 

หลังศาลออกหมายจับแล้ว ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามตัวมาตลอด จนกระทั่งจับกุมตัวได้เมื่อ 14.40 น.วันที่ 25 มี.ค.2563 ขณะที่นายเจตคติกำลังขี่จักรยานยนต์วนไปมาบริเวณลานจอดรถใน สพป.ศก.เขต 1 ซึ่งตอนที่จับกุมตัวได้นั้นตำรวจค้นในกระเป๋าพบหินก้อนขนาดเหมาะมืออยู่ 1 ก้อน คาดว่ากำลังเตรียมจะไปก่อเหตุทุบรถอีก  

พ.ต.ท. ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก (สอบสวน) สภ.เมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ในชั้นพนักงานสอบสวนนี้ ผู้ต้องหาให้การ ซึ่งอัตราโทษในความผิดทำให้เสียทรัพย์นั้น ถ้าผู้ต้องหาปฏิเสธ ต้องนำตัวไปขอผลัดฟ้องที่ศาลพร้อมกับฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 6 วัน โดยขอผลัดฟ้องได้ 5 ครั้ง จากนั้น พงส.ก็จะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการเพื่อยื่นฟ้อง ถึงแม้ผู้ต้องจะให้การปฏิเสธแต่พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานที่แน่ชัดว่านายเจตคติ หรือเจนี้ เป็นผู้ที่ได้กระทำความผิด ทั้งประจักรพยานพยานแวดล้อม และภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิดชัดเจนว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้กระทำความผิดจริง วันนี้จึงส่งผลัดฟ้องและฝากขังพร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหากระทำความผิดซ้ำหลายครั้ง เกรงว่าจะออกไปก่อเหตุให้เกิดอันตรายกับผู้อื่นอีก

ข่าวที่เกี่ยวข้องคลิก : รวบลูกเทพ! ทุบเก๋งประชดแม่เมื่อปี58 ยังไม่เข็ดก่อเหตุซ้ำอีกแล้ว