27 มีนาคม25 63 นายณรงค์ แผ้วพลสง เลขาธิกานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการกอศ.) กล่าวภายหลังประชุม ผู้บริหารสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั่วประเทศ และมีผู้ปกครองและนักศึกษาบางกลุ่ม ผ่านระวีดีโอคอนเฟอร์เรนท์และระบบออนไลน์ ว่าสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ. )สื่อสารไปยังวิทยาลัยอาชีวะต่าง ๆเพื่อซักซ้อมความเข้าใจปฏิบัติตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศเมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา และมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาต้องดำเนินการตามมติ รวมถึงซักซ้อมการปฏิบัติในสถานการณ์โควิด-19 เพื่อให้บุคลากรของเราปลอดภัยที่สุด รวมถึงภารกิจการรับนักเรียน นักศึกษา หรือการแก้ปัญหานักเรียน นักศึกษาฝึกประสบการณ์ และยอมรับว่ามีนักศึกษาอาชีวะบางส่วนเป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ
เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ได้มีเสียงตอบรกลับมาเป็นที่ประทับใจ เนื่องเนื่องจากมีวิทยาลัยอาชีวะศึกษา วิทยาลัยเทคนิค วิทยาลัยสารพัดช่าง หรืออื่นๆที่ได้มีส่วนร่วมกับหน่วยงานต่างๆในท้องถิ่นจังหวัด ในการผลิตหน้ากากผ้าและผลิตเจลล้างมือ และได้ร่วมมือกับทางโรงพยาบาล ผลิตแคปซูลในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย รวมถึงผลิตเครื่องมือเพื่อช่วยให้แพทย์ พยาบาล สามารถตรวจผู้ป่วยได้อย่างปลอดภัย จึงขอชื่นชมวิทยาลัยต่างๆ มีทั้งวิทยาลัยสารพัดช่างฉะเชิงเทรา วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ วิทยาลัยอาชีวศึกษายะลา และในวันนี้ตนได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารวิทยาลัยทุกแห่ง ให้เข้าไปช่วยเหลอสนับสนุนงาน ทั้งหน่วยงานราชการและหน่วยงานในท้องถิ่นอย่างเต็มที่
เลขาธิการ กอศ. กล่าวต่อว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) ได้เล็งเห็นถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ในฐานนะที่ท่านรับผิดชอบการศึกษา จึงมีนโยบายให้ สอศ.งดเก็บค่าเล่าเรียนของนักศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) ซึ่งปกติจะเก็บค่าหน่วยกิตเฉลี่ยเทอมละ 5,000 บาทต่อคนต่อปี ดังนั้น เนื่องจากผู้เรียนอาชีวะส่วนใหญ่มาจากครอบครัวที่มีฐานะยากจน แต่ต้องการเรียนเพื่อออกไปทำงานมีรายได้ ฉะนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้ทางครอบครัวอาจไม่มีรายได้ รมว.ศธ.จึงมีนโยาบายให้งดเก็บค่าเทอม ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างมาก และเป็นการมอบการศึกษาให้กับผู้ที่ประสงจะเรียนสายอาชีวะเพื่อจบเพื่อแล้วจะได้มีงานทำมีรายได้ช่วยเหลือตนเองต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สอศ.มีนักเรียนระดับ ปวส.อยู่ประมาณ 3.5 แสนกว่าคน ดังนั้น หาก สอศ.ช่วยเหลือเด็กกลุ่มนี้ครอบครัวละ 5 พันบาท ก็เท่ากับช่วยคนทั้งประเทศได้ 3.5 แสนครอบครัว จึงเป็นการช่วยเหลือสังคมและช่วยให้เด็กได้รับโอกาสทางการศึกษา และบรรเทาความเดือดร้อนที่พ่อแม่เด็กอาจตกงานอยู่ในขณะนี้
เลขาธิการ กอศ. กล่าวอีกว่า สอศ.กำลังดำเนินการเรื่องศูนย์การเรียนรู้ หรือเอ็กซ์เซอเรนเซ็นเตอร์ เพื่อต้องการเพิ่มคุณภาพทางวิชาชีพให้กับผู้เรียนมากขึ้น โดย สอศ.ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคอุตสาหกรรม ภาคบริหาร และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่ะเข้ามาร่วมมือกันพัฒนาผู้เรียน และขณะนี้มีสถานประกอบการเสนอหลักสูตรแบบรวดเร็ว เช่น เรียนระดับ ปวช.-ปวส.เพียง 4 ปี เรียนจบแล้วรับเข้าทำงานเลย ปกติแล้วจะต้องเรียน 5 ปี โดย รมว.ศึกษาฯก็ส่งเสริมแนวทางนี้มาก และให้สถานประกอบการเสนอหลักสูตรลายสมรรถนะมาว่าอยากได้เด็กที่มีสมรรถนะด้านใด และตนก็ได้มอบหมายให้ทีมจัดทำหลักสูตรช่วยคิดและเติมเต็มเรื่องคุณภาพเพื่อให้ผู้เรียนมีสมรรถนะและรายได้ที่สูงขึ้น
“ปกติเรียนปวช. 3 ปี ปวส.2 ปี รวมเป็น 5 ปี แต่สถานประกอบการหลักๆหลายแห่ง อย่างเช่น บริษัทไมโครซอฟท์ กับหัวเว่ย ก็ขานรับและเสนอมาว่าให้เด็กเรียน ปวช.และปวส.แค่ 4 ปี จบแล้วรับเข้าทำงานเลย ซึ่งท่านรัฐมนตรีก็เคยได้ให้นโยบาย สอศ. ว่าวิชาไหนที่ไม่จำเป็นกับสมรรถนะนั้นก็ไม่ต้องให้เด็กเรียน ซึ่งก็ตรงกับนโยบายของ รมว.ศึกษาฯ รวมถึงที่รัฐบาลเชิญทูตการค้าแต่ละประเทศมาหารือ ก็ได้เสนอแนวทางนี้ไว้ ดังนั้น สอศ.จะเร่งปรับหลักสูตรเพื่อให้ทันกับความต้องการในยุคนี้ และยังเชื่อมโยงกับรายได้ของผู้เรียนที่สูงขึ้นด้วย” นายณรงค์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี