พวกเราชมพระอาทิตย์ตกดินที่พุกามกันแล้ว ก็นั่งรถบัสกลับมายังโรงแรมที่พัก ซึ่งคืนนี้ก็มีงานเลี้ยงอีก แต่เป็นงานเลี้ยงอำลา (ปกติที่เคยจัดมาไม่เคยมี)เท่ากับว่าเจ้าภาพเมียนมาจัดงานเลี้ยงกันทุกคืน ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับงานเมื่อคืนนี้ สถานที่เดียวกัน การแสดงแบบเดียวกัน นักแสดงชุดเดียวกันผู้จัดการคนเดิม ซึ่งผมสังเกตว่าแกคงสนุกและมีความสุขมากที่ได้ทำแบบนี้ แต่คืนนี้คุณเอ โก โก อยากให้พวกเรามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยการให้ทุกชาติขึ้นไปร้องเพลงคาราโอเกะ เอาเป็นว่าก็สนุกกันชื่นมื่นอีก 1 คืน แบบประทับใจเช้าขึ้นอีกวัน วันนี้เป็นวันจัดเต็มที่เจ้าภาพพาผู้เข้าประชุมไปดูทะเลเจดีย์แห่งเมืองพุกามครับ
ผมว่าเมืองเก่ากรุงศรีอยุธยาเรายอดเยี่ยมในด้านสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์วัฒนธรรมแล้ว ทว่าเมื่อได้ไปเห็นพุกาม ก็ต้องยอมรับว่า ของเขานั้น ถ้าได้รับการโปรโมทดีๆ ของเราคงต้องหวั่นไหวแน่นอน ทั้งนี้เพราะด้วยจำนวนเจดีย์รูปทรงต่างๆ ที่สร้างขึ้นอายุนับ 1,000 ปี ที่ตามเอกสารนับได้กว่า 2,200 องค์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบเรียบริมแม่น้ำอิระวดี ในพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาลและปราศจากตึกรามบ้านช่องสมัยใหม่ เส้นทางเข้าไปชมเจดีย์เกือบทุกเส้นเป็นถนนดิน ดูเป็นธรรมชาติ มีสุมทุมพุ่มไม้สลับจนดูเหมือนป่าละเมาะ บางเจดีย์ผุพังทลายลงแต่ได้รับการบูรณะใหม่ แต่บางองค์เป็นเจดีย์ใหญ่อลังการรูปทรงเดิมแต่อาจปรับเสริมเล็กน้อยดูมีมนต์ขลังและเสน่ห์ชวนให้เดินไปชมอย่างยิ่ง เจดีย์ในอยุธยาเกือบทั้งหมดเป็นเศษซากอิฐพังทลายจนไม่เห็นเค้ารูปทรงเดิม แต่ที่พุกามยังคงเห็นบางเจดีย์ที่สมบูรณ์ไม่ถูกทำลายแต่ประการใด เดินเข้าไปชมทั้งข้างนอกและข้างในได้รอบ แต่ละองค์ที่สำคัญมีชื่อและประวัติให้ศึกษา บางองค์มีทองคำแท้ๆ หุ้มตลอดยันปลายเจดีย์ มีบันไดให้ขึ้นไปชั้นสูงๆ ได้ เสียดายตรงที่ปัจจุบันเขาห้ามนักท่องเที่ยวไต่ขึ้นไป ซึ่งน่าจะมีอะไรให้ชื่นชมอยู่อีกมาก นักท่องเที่ยวเท่าที่เห็นเกือบทั้งหมดเป็นฝรั่ง เท่าที่ฟังๆ ดู ทราบว่าเป็นชาวอิตาเลียน คนจีนแทบไม่มีให้เห็น แสดงให้เห็นถึงถึงรสนิยมของนักท่องเที่ยวที่ส่วนมากคนจีนจะนิยมมาไทย เพราะชอบเที่ยวทะเล และช้อปปิ้งส่วนฝรั่งชาติตะวันตกชอบศิลปวัฒนธรรมและของโบราณ
ในการชมเจดีย์ จะเห็นรถเทียมม้าพานักท่องเที่ยววิ่งชมกันเป็นจำนวนมาก ตามเส้นทางต่างๆ บ้างก็เป็นมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า วิ่งกันฝุ่นตลบ เนื่องจากฤดูนี้เป็นฤดูแล้ง ดินแห้งผาก แถมเป็นดินร่วนปนทราย ที่น่าสังเกต คือ ระหว่างเจดีย์เป็นพื้นที่ปลูกพืชไร่ของเกษตรกร ซึ่งเฉพาะฤดูฝนเท่านั้นที่จะปลูกได้ ได้แก่ ข้าวโพด ถั่ว งา เป็นต้น ทราบว่าทางการเมียนมาอนุญาตให้เกษตรกรจับจองพื้นที่ว่างเพาะปลูกพืชได้ แต่ห้ามตั้งบ้านเรือนถาวรและไม่ให้ทำกิจการอย่างอื่นนอกจากปลูกพืช ไกด์เมียนมาเล่าว่าเดิมยูเนสโกประกาศให้เจดีย์เมืองพุกามเป็นมรดกโลก แต่พอเมียนมาปกครองโดยทหาร มีข้อขัดแย้งหลายอย่างยูเนสโกเลยถอนตัวออกไปและยกเลิกการเป็นมรดกโลก จนกระทั่งเมียนมามีการเลือกตั้งรัฐบาลในช่วงสิบปีมานี้ยูเนสโกก็กลับเข้ามาใหม่และประกาศให้พุกามเป็นมรดกโลกอีกครั้ง
ผมสงสัยถามว่า มีเจดีย์เก่าผุพังมากมายที่ต้องบูรณะขึ้นมาใหม่ รัฐบาลเอาเงินงบประมาณมาจากไหน เพราะน่าจะเป็นจำนวนมหาศาล ไกด์เฉลยให้ฟังว่า เงินที่บูรณะเจดีย์เหล่านี้มาจากการบริจาคของประชาชน หมายถึงว่าประชาชนสนใจจะจับจององค์เจดีย์เสมือนหนึ่งเป็นเจ้าของ และออกเงินตัวเองก่อสร้างปรับปรุงตามแบบของใครของมัน รูปทรงต่างๆ ก็คงจินตนาการเอาว่าเดิมเป็นอย่างไรก็น่าจะมีช่างประจำแถวนั้นรับจ้างก่อสร้างให้ ผมไม่แน่ใจว่าจะมีหน่วยงานเหมือนกรมศิลป์ควบคุมดูแลการปรับปรุงแบบนี้หรือไม่ การจับจองบูรณะเจดีย์ในลักษณะนี้ จึงสังเกตเห็นว่า บางองค์มีลูกกรงเหล็ก หรือประตูเปิด-ปิด ชนิดที่ว่าห้ามคนอื่นเข้าไปก็มี ที่ผมพูดมานี้เฉพาะเจดีย์องค์ย่อมๆนะครับ ส่วนองค์ใหญ่ๆ ขนาดตึก 4-5 ชั้น นั้นเห็นบอกว่าคงไม่มีใครหาญจองหรอกวิธีการเที่ยวชมเจดีย์พุกามอีกแบบหนึ่งที่นิยม คือการขึ้นบอลลูนที่มีบริการทุกวัน แต่พวกเราพอฟังสนนราคาแล้วก็ขอบาย เพราะตกคนละ 350 เหรียญสหรัฐ แพงกว่าค่าเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปพุกามอีกครับ
สรุปทริปพุกามครั้งนี้ ประทับใจมาก เสียอย่างเดียวระหว่างการเดินทางขากลับปรากฏว่าคณะเราไม่ทันต่อเครื่องที่ย่างกุ้ง เพราะเครื่องบินภายในเมียนมาดีเลย์ไปเกือบสองชั่วโมง ขนาดคุณเอ โก โก ส่งเจ้าหน้าที่มาคอยประสานกับสายการบินที่ย่างกุ้งแล้ว เขายังไม่ยอมรอ พวกเราเลยต้องซื้อตั๋วกันใหม่และใช้บริการของเที่ยวบินต่อไปในช่วงค่ำเพื่อกลับไทยกันครับ
ชาญพิทยา ฉิมพาลี
chanpithya@apterr.org
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี