ปชช.เฮ!รับ5พัน
เงินเข้าลอตแรก2.8แสนคน
เร่งทยอยโอนอีก2วัน
วอนอย่าแห่ไปแบงก์
หวั่นเสี่ยงติดเชื้อโควิด
ชวนยันไม่หักเงินเดือนสส.
คลังประเดิมจ่ายเงินเยียวยา 5 พันบาทวันแรก 2.8 แสนคน ผ่านแบงก์กรุงไทย ทยอยโอนให้ผู้ผ่านตรวจคุณสมบัติ “ธนกร”เลขาฯ รมว.คลังแนะนำให้กดเอทีเอ็ม อย่าแห่ไปธนาคารที่คนจำนวนมาก หวั่นเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่ชาวหาดใหญ่จ.สงขลาแห่เช็คบัญชีวันแรกหนุ่มวินจยย.แห้วยังไม่ได้รับเงิน สาวร้านขายเครื่องเสียงเฮเงิน 5พัน เข้าบัญชี ตั้งแต่เช้า ‘ชวน’ประกาศ ไม่มีการหักเงินเดือน สส.ช่วยเหยื่อโควิด เหตุสส.ทุกคนลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 8เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากระบบAI ธนาคารกรุงไทยตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าข่ายได้รับเงินตามคุณสมบัติเมื่อได้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.com มุ่งช่วยเหลือกลุ่มอาชีพอิสระ รับจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว กิจการส่วนตัว การค้าขาย ประมาณ 3ล้านคนและยังมีกลุ่มอาชีพอิสระ ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมมาตรา39และ40อีก 5ล้านคน โดยวันที่ 8 เมษายนนี้ เป็นวันแรก ธนาคารกรุงไทย เริ่มทยอยเงินเข้าบัญชีให้กับ ผู้ผ่านการตรวจคุณสมบัติ 280,000 คน,วันที่ 9 เมษายน 753,000คนและวันที่10 เมษายน 644,000 คน ขณะที่ คณะรัฐมนตรี(ครม.)ยังอนุมัติมาตรการดูแลและเยียวยาเฟส 3 ขยายเวลาการโอนเงินช่วยเหลือออกไปอีกเป็น 6เดือน หลังได้และส่งSMS หรืออีเมล์
กระทรวงการคลัง แนะผู้ลงทะเบียนสามารถเปิดเว็บไซต์www.เราไม่ทิ้งกัน.com ไปยังเมนู “ตรวจสอบสถานะ”เพื่อเข้าไปตรวจสอบขั้นตอนการจ่ายเงินเยียวยาดำเนินขั้นตอนถึงไหนแล้ว ด้วยการกรอก หมายเลขประจำตัวประชาชน 13หลัก เบอร์โทรศัพท์มือถือที่ใช้ลงทะเบียนและวัน เดือน ปีเกิดของผู้ลงทะเบียน เพื่อให้ระบบทำการตรวจสอบเพื่อรับทราบขั้นตอนการจ่ายเงินเยียวยา ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านเกณฑ์การตรวจสอบคุณสมบัติ ธนาคารกรุงไทยจะส่งSMS ในวันที่ 9 เมษายนนี้
คาดแจก5พันวันแรก2.5แสนคน
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการ รมว.คลัง เปิดเผยถึงมาตรการเยียวยา 5000 บาทว่า ประชาชนผู้ได้รับสิทธิ์เงินเยียวยา 5,000บาทกลุ่มแรก ซึ่งจะแจ้งผลและโอนเงินให้ในวันที่ 8เมษายน มีประมาณ 250,000 ราย ทั้งนี้ การประกาศสิทธิ์จะทยอยประกาศผลและจ่ายเงินในแต่ละวันตามลำดับผลการคัดกรอง ไม่ได้กำหนดโควต้าว่า จะจ่ายวันละกี่คน สำหรับผู้ที่ใช้พร้อมเพย์ที่ผูกเลขบัตรประชาชนจะสะดวกมาก เพราะเงินจะเข้าในบัญชี สามารถทำธุรกรรมทางการเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านบัญชีธนาคารใดก็ได้ที่ผูกไว้ แต่สำหรับประชาชนที่ไม่มีพร้อมเพย์ เมื่อได้รับเงินแล้วขอแนะนำให้ใช้การถอนเงินสดจากตู้ATM หรือ Net Banking เป็นหลัก อย่าพยายามไปใช้บริการที่สาขาธนาคารเป็นจำนวนมากๆ เพราะจะเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19
หนุ่มวินจยย.หาดใหญ่แห้ว5พัน
ผู้สื่อข่าวรายบรรยากาศวันแรกของการโอนเงินเยียวยา 5,000บาท โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ปรากฏว่า มีประชาชนที่ลงทะเบียนไว้ทยอยเดินทางไปเช็คยอดเงินในบัญชีว่ามีการโอนเงิน 5,000บาทเข้ามาหรือไม่ โดยบางคนต้องผิดหวัง เพราะไม่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับเงินในรอบแรก เช่น ชายคนหนึ่งอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างในตัวเมืองหาดใหญ่บอกว่า ทราบข่าวว่าวันนี้จะมีการโอนเงินเข้ามา แต่ยังไม่ได้รับข้อความว่า ผ่านการคัดเลือกหรือไม่ จึงมาเช็คยอดเงินในบัญชีที่ธนาคารดูปรากฏว่า เงินยังไม่เข้า ซึ่งต้องรอต่อไปว่า จะได้รับคัดเลือกและได้รับเงินหรือไม่
สาวร้านเครื่องเสียงเฮได้เงินแล้ว
ขณะที่หญิงสาวรายหนึ่ง อายุ44 ปี ซึ่งเป็นผู้ประกอบการร้านขายเครื่องเสียงใน อ.หาดใหญ่และเป็นหนึ่งในผู้ที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้รับเงิน 5,000บาท โดยมีการเงินโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ของธนาคารไทยพาณิชย์เวลา 02.21น.และมาเห็นข้อความเงินเข้าในตอนเช้า หญิงสาวคนนี้บอกว่า ทีแรกไม่แน่ใจว่า เป็นเงินเยียวยาโควิด-19 หรือไม่ เพราะตามข่าวบอกว่า จะมีข้อความส่งมาให้ก่อนว่า ผ่านหรือไม่ผ่าน แต่อยู่ๆก็มีเงินเข้ามาทันที โดยระบุในข้อความว่า เงินโอน/เงินเดือน 5,000บาท ซึ่งน่าจะเป็นเยียวยาจากโควิด-19 โดยได้ลงทะเบียนในประเภทของผู้ประกอบการ เพราะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากโควิด19 โดยเช่าบ้านเปิดร้านเครื่องเสียงและซ่อมรถยนต์เล็กๆกับสามี แต่ละวันแทบไม่มีลูกค้าแม้แต่รายเดียวในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมา เงินที่ได้จะนำไปเป็นค่าใช้จ่ายรายวันและขอบคุณรัฐบาลที่ให้การช่วยเหลือ
‘ปชป.’หนุน3พรก.เยียวยาโควิด
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)และประธาน สส.พรรค ปชป. กล่าวถึงการออก พรก.3ฉบับของรัฐบาลว่า นับเป็นเรื่องดีที่รัฐบาลตัดสินใจออก พรก.3ฉบับ เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิดและช่วยพยุงฟื้นฟูเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ในสถานการณ์ที่ยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อจะยุติลงเมื่อใด ซึ่งถ้าการแพร่ระบาดยังขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ผลกระทบทางเศรษฐกิจก็จะเหนื่อยตามไปด้วยถึงแม้การออก พรก.ครั้งนี้จะไม่มีผลกระทบใดๆต่อการก่อหนี้สาธารณะเพราะเรายังมีเพดานก่อหนี้สาธารณะได้อีกพอสมควร แต่การใช้เงินกู้ตาม พรก.นี้ควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนและระบบเศรษฐกิจ จึงขอเสนอนายกฯและผู้เกี่ยวข้องใช้เงินกู้และเงินงบประมาณที่กำลังปรับลดขนาดนี้แบ่งเป็น 3ก้อน ก้อนแรกใช้แก้ปัญหาประชาชนทุกระดับไม่ให้อดตาย โดยเฉพาะคนหาเช้ากินค่ำ ก้อนที่2 ใช้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วนทั้งผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและทางสังคม ก้อนที่3 ใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจครบวงจรตั้งแต่เศรษฐกิจฐานราก เศรษฐกิจจุลภาคถึงเศรษฐกิจมหภาค เชื่อว่าการกระจายให้น้ำหนักการใช้เงินของภาครัฐอย่างทั่วถึงและเป็นระบบครบวงจรจะทำให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สามารถเดินหน้าต่อไปได้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
‘กรณ์’แนะถกเอกชนลดราคาสินค้า
นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุคส่วนตัว แสดงความห่วงใยประชาชนทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยระบุว่า สังคมมีคำถามว่า ทำไมรัฐบาลจึงเลือกที่จะขยายสิทธิ 5,000บาท เป็น 6เดือน แทนที่จะขยายจำนวนผู้ได้รับสิทธิจาก 9ล้านคนเป็น 18ล้านคนเพื่อให้ทั่วถึงมากขึ้น วันนี้เป็นวันแรกที่เงินช่วยเหลือ 5,000บาท ล็อตแรกถึงมือประชาชนและหลายคนจำเป็นต้องใช้ให้พอในครอบครัวตลอดทั้งเดือน จากการประกาศแผนออก พรก.เพื่อเพิ่มวงเงินเยียวยาประชาชน 600,000ล้านบาท ความหมายอีกนัยหนึ่งคือ รัฐบาลกำลังจะอัดฉีดเม็ดเงินมหาศาลให้ประชาชนได้จับจ่ายใช้สอย ซึ่งก็จะต้องซื้อของในห้างร้านที่ยังมีสิทธิเปิดได้อยู่ (หรือยังอยู่รอดขายได้) นั่นหมายถึง ผู้ประกอบการค้าปลีก ค้าส่ง และร้านสะดวกซื้อทั้งหลาย
“ผมจึงอยากให้รัฐบาลเชิญผู้ประกอบการทั้งหมดหารือร่วมกันลดราคาสินค้า โดยเฉพาะหมวดหมู่ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต เพื่อให้เงิน 5,000บาทดังกล่าวเกิดประโยชน์อันสูงสุดต่อประชาชน ในสถานการณ์ที่ทุกธุรกิจต่างก็เดือดร้อนกันไปหมด สิ่งที่จะทำให้ประเทศเราก้าวผ่านวิกฤตไปด้วยกันได้นั้น คือน้ำใจ ความช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน อันเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าผู้ประกอบการจำนวนมาก พร้อมที่จะหยิบยื่นน้ำใจดังกล่าวให้กับผู้ที่กำลังลำบาก วันนี้ควรประกาศลดราคาสินค้าจำเป็นลงทันที จะ 20% 50% หรือเท่าไรก็แล้วแต่ ผมเชื่อว่าคุยกันได้ครับ แฟร์และเป็นประโยชน์กับประชาชน หากไม่มีมาตรการในการปรับราคาสินค้าต่างๆลง ในขณะที่รายได้ของคนส่วนใหญ่ต้องหยุดนิ่ง ความสามารถในการอยู่รอดไปจนถึงวันที่การระบาดสิ้นสุด คงจะเป็นไปได้ยากลำบากมากสำหรับคนหลายล้านคน”
‘ชวน’ลั่นไม่ให้หักเงินเดือนสส.
วันเดียวกัน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการหักเงินเดือนสส.ว่า ส่วนตัวคิดว่านับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วิกฤติโควิด-19 การที่สมาชิกแต่ละฝ่ายได้แสดงเจตจำนงค์มีส่วนช่วย เช่น บริจาค หรือด้วยวิธีใดก็ถามซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ไปช่วยเป็นการร่วมมือทุกฝ่ายและสมาชิกปฏิบัติเป็นการกระทำที่ดี อย่างตนเองได้เรี่ยไรเงินจากคณะทำงานของตนจนได้เงินมาประมาณ 4แสนบาท เพื่อไปบริจาคให้โรงพยาบาล 4 แห่ง ทั้งนี้ ส.ส.แต่ละคนอยู่ในพื้นที่ดูแลชาวบ้านและมีค่าใช้จ่ายในการดูแลประชาชนในเขตเป็นจำนวนมาก วันนี้มีการส่งข้อความแจ้งว่า เขามีความกังวลเรื่องข่าวหักเงินเดือน ดังนั้นขอยืนยันว่าตนไม่มีความคิดเรื่องนี้ เพราะทราบดีว่าสส.ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพที่ดูแลประชาชนอยู่แล้ว และอยากจะบอกว่าจริงๆแล้วคนไม่ค่อยรู้ เงินเดือนสส.เมื่อหักภาษีและหักเงินเข้าพรรคแล้ว บางพรรคเหลือเงินประมาณ 8 หมื่นกว่าบาท อย่างสส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อหักเงินเข้าพรรคแล้วก็เหลือ 6 หมื่นกว่าบาท ไม่ได้เงินเดือนเป็นแสนบาทอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจกัน แต่แน่นอนว่า สส.มีฐานะที่แตกต่างกันไปคนที่มีความพร้อม มีฐานะดี และมีส่วนพร้อมในการช่วยส่วนรวมก็เป็นเรื่องดีและควรชื่นชม
‘ขออย่างเดียวว่าในภาวะที่มีปัญหาที่ต้องร่วมมือกันอย่างนี้ ทุกคนต้องตระหนักว่าแต่ละคนมีหน้าที่อะไร และทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่ว่าเป็นนักการเมืองหรือข้าราชการ หรือนักธุรกิจ ไม่ใช่ว่าเราค้ากำไรเกินควร หรือกักตุนสินค้าได้กำไรเป็นพันล้าน บริจาค1ล้าน อย่างนี้ไม่มีความหมายอะไร หรือเอาเปรียบชาวบ้าน ขายของเกินราคากำหนดแล้วเอาเงินน้อยนิดมาบริจาคอย่างนี้ก็ไม่น่าชื่นชมอะไร เพราะฉะนั้นทุกคนต้องมีความซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ตัวเอง ซึ่งวันนี้เราต้องชื่นชมผู้ทำหน้าที่แก้ปัญหา โดยเฉพาะด้านสาธารณสุข ฝ่ายแพทย์ ฝ่ายพยาบาล ต้องให้กำลังใจ ส่วนคนที่ความพร้อมและช่วย ตรงนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ขณะที่ สว.จะขอความร่วมมือหักเงินเดือนก็เป็นการดำเนินการของวุฒิสภากันเอง ที่ผ่านมาก็ทราบว่าได้ดำเนินการมาเป็นระยะแล้ว แต่ยืนยันว่าจะไม่หักเงินเดือนสส.อย่างแน่นอน เพราะเข้าใจดีว่าสส.ใช้เงินในการดูแลประชาชนในสถานการณ์เวลานี้อยู่แล้ว’นายชวน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี