เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลเริ่มทยอยจ่ายเงินทดแทนเดือนละ 5,000 บาท รวม 3 เดือน แก่ประชาขน และจะขยายเวลาเป็น 6 เดือน จนมีคนกรอกข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ถึงจำนวน 20 ล้านคน ซึ่งย่อมมีคนกรอกข้อความเท็จ อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ อีกทั้งเป็นการเอาเปรียบคนที่เดือดร้อนจริงๆ
ทั้งนี้ ตนเห็นว่าผู้กรอกข้อมูลเท็จ นอกจากจะเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(1) แล้ว ยังมีความผิเฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานประมวลกฎหมายตามอาญามาตรา 137 แล้ว ทั้งจะมีความผิดฐานฉ้อโกง เพราะมีเจตนาหลอกลวงผู้อื่นด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งโดยทุจริตทำให้ประโยชน์ทางทรัพยสินไปจากผู้ถูกหลอก คือ รัฐ มีโทษจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนต้องสอบให่ได้ข้อเท็จจริงครบองค์ประกอบความผิดจนสิ้นกระแสความแล้วรีบส่งสำนวนให้อัยการฟ้องคดีโดยเร็ว
นายโกศลวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ์ ยังให้บริการปรึกษาแก่ประชาชนฟรีทั่วประเทศใครสงสัยเรื่องสิทธิ์ให้ไปพบได้ ซึ่งจากที่ตนลงไปรับฟังข้อมูลพบว่า ผู้ร้องบางรายเป็นแม่ค้ามีข้อพิพาทกับเจ้าของสถานที่ ได้ขอลดค่าเช่าช่วงโควิด-19 ระบาด จนขายของไม่ได้ อันนี้เป็นเรื่องสัญญาระหว่างเอกชนกับเอกชน ซึ่งจะลดให้หรือไม่ต้องคุยกันเอง แต่หากเป็นร้านเช่าในห้างฯ ห้างปิด เพราะรัฐมีมาตรการช่วงโควิด-19 จนขาดรายได้ ก็มาปรึกษาอัยการ ขอรับเงินช่วยเหลือได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี