ตำรวจจับแล้ว1คน

หนุ่มพกไฟแช็ก7อัน

ลอบเผาป่าเชียงใหม่

เหนือค่าฝุ่นพิษยังพุ่ง

“บิ๊กแป๊ะ” รับลูก “บิ๊กป้อม” สั่งตำรวจตามล่าคนเผาป่า เอาผิดตามกฎหมาย แก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ ขณะที่ตำรวจเชียงใหม่จับหนุ่มจ่อเผาป่า “ดอยผาตั้ง-ดอยหัวเสือ” เขตอุทยานดอยอินทนนท์ พร้อมของกลางไฟแช็ค 7 อัน-มีด-ยาบ้า คุมตัวไว้ดำเนินคดี ด้านฝุ่นพิษภาคเหนือยังสีแดง 2 จุดที่ “อ.แม่สาย-อ.เชียงดาว”

เมื่อวันที่ 10เมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร.เปิดเผยว่า จากกรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ ไฟป่า หมอกควัน ในพื้นที่ 9จังหวัดภาคเหนือตอนบน ตร.โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้สั่งให้ตำรวจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งขับเคลื่อนการปฏิบัติ เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบาย พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนืออย่างจริงจังและต่อเนื่อง โดยจัดให้มี พนักงานสอบสวนคอยรับคำร้องทุกข์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเพิ่มมาตรการตรวจสอบ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด มอบหมายตำรวจประจำหมู่บ้านและชุมชน ประสานเฝ้าระวังรับแจ้งเหตุไฟป่า รวมถึงชุดเคลื่อนที่เร็วออกลาดตระเวนเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ ในการเข้าดับไฟป่า ตลอดจนการตรวจสอบติดตามสืบหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

โดยเมื่อวันที่ 9เมษายนที่ผานมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมทอง จว.เชียงใหม่ ได้ประสานการปฏิบัติร่วมกับ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์, ฝ่ายปกครองอำเภอจอมทอง ลาดตระเวนป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาป่าในพื้นที่ตามนโยบายของศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1ราย เป็นชายอายุ 29ปี พร้อมของกลางไฟแช็คที่ใช้ก่อเหตุ 7อัน มีด 1ด้าม ยาเสพติดฯ และอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่ง บริเวณป่าพื้นที่ดอยผาตั้ง ดอยหัวเสือ ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ หมู่ 7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา แผ้วถาง ก่นสร้าง เผาป่า ตามมาตรา 19 (1) พ.ร.บ.อุทยาน ประกอบมาตรา 41 และมาตรา 45 พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ประกอบมาตรา 72 ตรี และข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) นำตัวผู้ต้องหาพนักงานสอบสวน สภ.จอมทอง ดำเนินคดี

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ทั้งนี้ ผบ.ตร.เน้นย้ำให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง เพราะปัญหาดังกล่าวก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางอากาศและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยประชาชนในพื้นที่เป็นจำนวนมาก ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน งดการเผาป่า หรือเผาในที่โล่งแจ้งและการกระทำที่ก่อให้เกิดหมอกควันต่างๆ ทั้งนี้ หากพบเห็นการกระทำความผิดในลักษณะที่ก่อให้เกิดไฟป่าและหมอกควัน โปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในพื้นที่ หรือแจ้งมายังสายด่วน 191 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ เวลา 09.00น.วันที่ 10เมษายน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5ในพื้นที่ภาคเหนือ.ตรวจวัดค่าฝุ่นรวม 26สถานี พบค่าฝุ่นระหว่าง28-155ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50มคก./ลบ.ม.คุณภาพอากาศอยู่ในระดับดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ พื้นที่ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ(พื้นที่สีแดง) มี 2สถานี คือ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 146มคก./ลบ.ม.และต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 155มคก./ลบ.ม.ส่วนพื้นที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม) มี 11สถานี คือ ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย,ต.ช้างเผือก อ.เมือง, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม, ต.สุเทพ อ.เมือง, ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่,ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน, ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน, ต.บ้านต๋อม อ.เมือง จ.พะเยา,ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน และต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ขณะที่ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 49-170มคก./ลบ.ม.ค่ามาตรฐานอยู่ที่ 120มคก./ลบ.ม.มีค่าเกินมาตรฐาน 1สถานี คือ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย