หวั่นสงกรานต์ติดเชื้อพุ่ง
มหาดไทยคุมเข้ม
หยุดกิจกรรมทั่วประเทศ
ตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็ว
พร้อมจัดหนักกับผู้ฝ่าฝืน
แพทย์เผยโควิดอันตราย
อยู่ในน้ำได้นาน4-10วัน
ปลัดมหาดไทย สั่งด่วนถึง “ผู้ว่าฯทั่วประเทศ” กำชับคุมเข้มช่วง “งดเทศกาลสงกรานต์” สกัดโควิด-19 จัดชุดเคลื่อนที่เร็วสแกนจุดเสี่ยงรวมกลุ่มสังสรรค์ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 2 ปี ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สรุปยอด 47 จังหวัดทั่วไทยเข้มสั่งปิดร้าน-งดขายสุรา สกัดโควิด-19 สรุปยอดฝ่าฝืนเคอร์ฟิวอีก 1,065 ราย
เมื่อวันที่ 11 เมษายน นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ทำหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ด้วยปัจจุบัน ยังพบพฤติการณ์ของกลุ่มบุคคลที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 อาทิ การรวมกลุ่มสังสรรค์ตามสถานที่ต่างๆรวมถึงการเตรียมจัดกิจกรรม หรือเข้าร่วมกิจกรรมทางประเพณีเนื่องในเทศกาลสงกรานต์
โดยกระทรวงมหาดไทย จึงขอให้จังหวัดดำเนินการ ดังนี้ 1.บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือปฏิบัติตามหนังสือคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เรื่องขอความร่วมมือกำกับติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการห้ามชุมนุมและมาตรการดูแลความสงบเรียบร้อย มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 8/2563 เรื่องมาตรการเฝ้าระวังการจัดกิจกรรมเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ที่เกี่ยวข้องกับพิธีการทางพระพุทธศาสนา และประกาศกระทรวงวัฒนธรรม เรื่องแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับประเพณีสงกรานต์โดยเคร่งครัด 2.ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในทุกช่องทาง เพื่อขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนด 3.เพิ่มมาตรการลาดตระเวนและตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด โดยจัดสายตรวจร่วม หรือชุดลาดตระเวนในสถานที่ที่ประชาชนรวมกลุ่มสังสรรค์ อาทิ สวนสาธารณะ ชายหาด ห้องพักของโรงแรมหรือสถานที่อื่นๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน และ4.เพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจหน้าที่ในประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวกับความมั่นคง เมื่อวันที่ 3 เมษายน2563 เรื่องห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม
หากผู้ใดฝ่าฝืน จะต้องรับโทษตามมาตรา18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ยอด47จังหวัดสั่งปิดร้าน-งดขายสุรา
ศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19)กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.)ได้สรุปรายงานการพิจารณาออกคำสั่งปิดร้านค้าและสถานประกอบการจำหน่ายสุราเป็นการชั่วคราวในหลายจังหวัดทั่วประเทศ รวม 47 จังหวัด ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัด ในการกำหนดมาตรการเพื่อสกัดและลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ รวมถึงลดความเสี่ยงของประชาชนในการสัมผัสเชื้อ โดยมีรายละเอียดวัน และจังหวัด ดังนี้
1.ปิดจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี และพิษณุโลก
2.ปิดถึงวันที่ 15 เม.ย.63 จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ ระยอง และระนอง 3.ปิดถึงวันที่ 16 เม.ย.63 จำนวน 5 จังหวัดได้แก่ สกลนคร ยะลา พิจิตร ลพบุรี และเชียงราย 4.ปิดถึงวันที่ 17 เม.ย.63 จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ กาฬสินธุ์ ยโสธร และสุราษฎร์ธานี 5.ปิดถึงวันที่ 18 เม.ย.63 จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา และเพชรบูรณ์ 6.ปิดถึงวันที่ 19 เม.ย.63 จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา นครนายก ปทุมธานี ตราด และราชบุรี 7.ปิดถึงวันที่ 20 เม.ย.63 จำนวน 13 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ สมุทรสาคร กำแพงเพชร แพร่ ชัยภูมิ สมุทรปราการ อ่างทอง ลำปาง สุโขทัย อุทัยธานี นราธิวาส หนองคาย และนนทบุรี 8.ปิดถึงวันที่ 30 เม.ย.63 จำนวน 14 จังหวัด ได้แก่ ลำพูน บุรีรัมย์ สุรินทร์ นครปฐม สมุทรสงคราม ร้อยเอ็ด ชัยนาท สุพรรณบุรี มุกดาหาร ประจวบคีรีขันธ์ อุบลราชธานี กาญจนบุรี ปราจีนบุรี และเพชรบุรี
ทั้งนี้ ศบค.มท. โดยปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินมาตรการเพื่อสกัดและลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มข้น ต่อเนื่อง สร้างการรับรู้กับประชาชนในพื้นที่ในการปฏิบัติตามคำแนะนำของ ศบค. อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชนทุกคน
ศบค.หวั่นสงกรานต์ติดเชื้อพุ่ง18%
ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ ที่อาจมีกิจกรรมรวมกลุ่ม ซึ่งจะตรงกับกิจกรรม ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อถึง 18 เปอร์เซ็นต์ ขอให้งดเว้น เพราะไม่อยากให้มีคนป่วยเพิ่มขึ้น อายุน้อย ก็เสียชีวิตได้เหมือนกัน ถ้าไปดูปริมาณผู้ขับขี่และดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของทุกปี ที่พบปริมาณผู้ขับขี่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า ช่วงอื่นๆในทุกปี อยากให้ลด
ย้ำรบ.สั่งงดงานสงกรานต์ทั้งหมด
“กระทรวงวัฒนธรรมได้ออกระเบียบมาแล้ว สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก็ขอให้พระงดกิจกรรมรวมกลุ่มลงมา วัฒนธรรมถือเป็นเรื่องสำคัญ แต่สุขภาพต้องมาก่อน เพราะถ้าสุขภาพมีปัญหาวัฒนธรรมจะส่งต่อรุ่นต่อรุ่นไม่ได้ ซึ่งรัฐบาลได้มีแนวทางงดทำกิจกรรมทั้งหมดแล้ว หากจะไปกินดื่มกัน ก็มีโอกาสในการแพร่เชื้อ เราไม่อยากให้ป่วย จากข้อมูลคนอายุน้อยๆก็เสียชีวิตได้เหมือนกัน วันนี้การช่วยชาติง่ายมาก แค่อยู่กับบ้านห่างกัน 2 เมตรก็ทำได้แล้ว”โฆษก ศบก.กล่าว
เผยยอดฝ่าฝืนเคอร์ฟิว1,065ราย
นอกจากนี้ นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวว่านายกรัฐมนตรียังยืนยันมาตรการเคอร์ฟิว ยังเหมือนเดิมไม่ขยายเวลา ส่วนผลการดำเนินการของเจ้าหน้าที่คืนวันที่ 10 เม.ย.ต่อเนื่อง เช้าวันที่11 เม.ย.พบผู้ออกนอกเคหะสถาน 1,065 ราย น้อยกว่าคืนก่อนหน้า 87 คน การชุมนุมมั่วสุม 109 ราย มากกว่าคืนก่อน 14 คน เราอยากขอความร่วมมือดำเนินการตามมาตรการไม่ให้ออก หากท่านอยู่ตรงไหน ท่านก็ต้องช่วยเหลือตัวเองโดยการไม่ทำให้เป็นภาระของใคร ไม่ออกมาข้างนอก ตำรวจ อาจจะได้พักผ่อนบ้าง เพราะเขาก็มีภาระกิจอื่นๆที่ต้องปฏิบัติ และล่าสุด จ.สกลนครมีมาตรการเพิ่มเติม สั่งปิดโรงแรมทุกแห่งห้ามรวมตัวกันเกิน 5 คน คนต่างพื้นที่หากเข้ามาต้องรายงานตัวกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. เพื่อตรวจโรคและซักประวัติหากพบมาจากพื้นที่เสี่ยงสาธารณสุขจะประเมินเพื่อกักตัว
‘เทวัญ’ย้ำทุกวัดงดจัดพิธีกรรมศาสนา
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตลาดสดหัวรถไฟ เขตเทศบาลนครนครราชสีมา และ ที่ตลาดย่าโม ตลาดเต๊กฮะ ตลาดแม่กิมเฮง เพื่อแจกหน้ากากอนามัยแบบผ้า และแอลกอฮอล์ ให้กับพ่อค้า แม่ค้าประชาชนที่มาจับจ่ายซื้ออาหารพร้อมรณรงค์ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ดูแลสุขภาพ มีผู้สนใจรอรับเป็นจำนวนมาก
นายเทวัญ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ กำกับดูแลงานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)เห็นใจพระภิกษุสงฆ์ที่ได้รับความลำบาก เวลาออกไปบิณฑบาต พระสงฆ์ก็กลัวติดเชื้อโควิด ขณะเดียวกันประชาชนที่จะเข้าไปทำบุญในวัด เมื่อไปพบกับผู้คนมากๆก็กลัวติดโควิด เหมือนกัน วันนี้รัฐบาลโดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ทุกวัดงดทำกิจกรรมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทางศาสนา วันสำคัญทางพุทธศาสนาและกิจกรรมวันสงกรานต์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด
“มาตรการดังกล่าวนี้ แน่นอนว่า ทางวัดก็คงจะได้รับผลกระทบ คือขาดปัจจัยในการทำบุญ ผมเองกำลังจะหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทาง หรือมาตรการช่วยเหลือพระสงฆ์ที่ได้รับผลกระทบ คาดว่า จะได้ข้อยุติในเร็วๆนี้ และเชื่อมั่นว่าในสถานการณ์เช่นนี้ประชาชนทั่วประเทศ ก็คงเข้าใจดีว่าทำไม จะต้องมีการสั่งห้ามทุกวัดงดกิจกรรมทางศาสนา”นายเทวัญ กล่าว
เชียงใหม่จับฝ่าฝืนเคอร์ฟิวได้อีก 18
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวเป็นวันที่ 8 โดยเฉพาะที่ จ.เชียงใหม่จับได้อีก 18 คน ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวในเวลา 22.00-04.00 น.ทั้งออกนอกเคหสถาน ตั้งวงดื่มสุรา ขี่รถเที่ยว เจ้าหน้าที่ จึงควบคุมตัวทั้งหมด ส่งฟ้องศาล ทำให้เชียงใหม่ มียอดกระทำผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินสะสมตั้งแต่วันที่ 3-11 เมษายน จำนวน 290 คน โดยที่ผ่านมา ศาลลงโทษ จำคุก 15 วัน ปรับ 1,500 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 1 ปีแต่ห้ามออกจากเคหสถานโดยไม่มีเหตุอันสมควรเป็นเวลา 7 วัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ย้ำเตือนประชาชนห้ามออกจากเคหสถานช่วงเคอร์ฟิว เพื่อช่วยชาติให้พ้นวิกฤติโควิด-19 โดยเร็ว
ผู้ว่าฯนนท์ห้ามขายเหล้า-เบียร์11-20เมย.
นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดนนทบุรีออกคำสั่งเรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว(ฉบับที่ 8)ตามมติที่ประชุมครั้งที่ 35/2563 เมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2563 จึงมีคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพิ่มเติม ดังนี้ร้านค้าหรือสถานประกอบการขายสุรา ประเภทที่ 1 และประเภทที่ 2 ที่ได้รับใบอนุญาต ให้จำหน่ยสุราตามพระรชบัญติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 โดยสามารถจำหน่ยสินดัประแกทอื่นได้ ทั้งนี้มิให้ใช้บังคับกับการขายของผู้ผลิตผู้นำเข้า หรือตัวแทนของผู้ผลิต ผู้นำเข้า ไปยังผู้ขาย ซึ่งได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตพ.ศ. 2560 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ถึงวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2563
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี