หนุ่ม 30 ปีเลือดร้อนใช้เหล็กแทงปาล์ม แทงคอหนุ่ม 47 ปีเสียชีวิต ปมเหตุขัดแย้งเรื่องชู้สาว สอบประวัติหนุ่ม 30 ปีผู้ก่อเหตุพบเพิ่งพ้นโทษในคดีวิ่งราวทรัพย์ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลตามจับกุมตัวได้ทันควัน สารภาพทำไปเพราะเกิดความหึงหวง
เมื่อเวลา 11.40 น วันที่ 11 เม.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เข้าตรวจสอบเหตุบริเวณหน้าร้านข้าวแกงริมถนนสายปากประ-ทะเลน้อย ท้องที่หมู่ 13 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ในที่เกิดเหตุพบศพนายสมพงษ์ ศรีนุ่น อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 5 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน สภาพศพมีบาดแผลที่บริเวณลำคอ ชาวบ้านในที่เกิดเหตุเล่าว่า เห็นนายสมพงษ์ เดินโซเซ มาตามถนนมีเลือดที่บริเวณหน้า และลำคอก่อนจะมานั่งที่เก้าอี้หน้าร้านข้าวแกง และล้มฟุบลง เสียชีวิต
ในขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า จุดเกิดเหตุเป็นบ้านเช่าของหญิงสาว ซึ่งทำงานร้านคาราโอเกะ โดยนายสมพงษ์ ผู้ตายอยู่ที่บ้านกับหญิงสาวคนดังกล่าว ต่อมามีชายอีกคนเข้าไปที่บ้านเช่า และเกิดมีเรื่องกันขึ้น จนเป็นเหตุให้นายสมพงษ์ เสียชีวิต
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบบริเวณบ้านเช่า เป็นห้องแถวติดกัน 2 ห้อง ซึ่งอยู่ห่างจากจุดพบศพประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่พบข้าวของภายในบ้านกระจัดกระจาย เพราะการต่อสู้และยังมีกองเลือดเป็นจุดๆ ที่บริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่พบรถ จยย ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ หมายเลขทะเบียน 1 กญ- 7308 พัทลุงของผู้ตาย จอดอยู่
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.พัทลุง พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.กองสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมนำตัวนางสาว สาวคาราโอเกะ วัย 30 ต้นๆ และเพื่อนสาวไปสอบปากคำที่ สภ.ทะเลน้อย ทราบว่าผู้ก่อเหตุรายนื้คือนายการันตี แจ้งชูศักดิ์ อายุ 30 ปี เป็นชาวบ้านหมู่ 9 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นอดีตสามีของนางสา สาวคาราโอเกะ
โดยก่อนเกิดเหตุนางสา ได้โทรขอเงินนายสมพงษ์ และบอกให้นายสมพงษ์ ผู้ตายไปหาและเอาเงินไปให้ที่บ้านเช่า โดยจะมีพระให้เป็นของแลกเปลี่ยนในขณะที่อยู่บ้านเช่า นายการันตี ขับรถ จยย.ไปที่บ้านเช่าและเห็นนายสมพงษ์ อยู่กับนางสา จึงบอกให้นายสมพงษ์ ออกไปจากบ้านหลังดังกล่าว และนายการันตี ขับรถ จยย.ออกไปด้วยความโมโห สักครู่ก็ขับรถ จยย.กลับเข้ามาที่บ้านเช่าอีกครั้ง พร้อมกับเข้าไปในบ้านทะเลาะกับนายสมพงษ์ ผู้ตาย ก่อนจะใช้เหล็กแทงปาล์ม ซึ่งไม่มีด้าม ที่พกติดตัวมาแทงเข้าไปที่คอของนายสมพงษ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่นายสมพงษ์ จะวิ่งออกไปจากบ้านเช่าและไปขอความช่วยเหลือชาวบ้านซึ่งห่างจากบ้านเช่าประมาณ 500 เมตร และเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนนายการันตี ผู้ก่อเหตุได้ขับรถ จยย.หลบหนีไป
อย่างไรก็ดี หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.กองสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุด เข้าจับกุมตัวนายการันตี หนุ่มวัย 30 ปี ผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านเลขที่ 236 หมู่ 9 ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน หลังไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สอบสวนเบื้องต้นนายการันตี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุฆ่านายสมพงษ์ จริง ที่ทำไปเพราะความหึงหวง หลังก่อเหตุนายการันตื ได้นำเหล็กแทงปาล์ม อาวุธที่ใช้ก่อเหตุทิ้งที่พงหญ้าหลังเทศบาลตำบลพนางตุง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายการันตี ไปเอาอาวุธยังจุดที่ทิ้ง เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นางสา ได้มีความสัมพันธ์กับนายการันตี ผู้ก่อเหตุฉันท์สามีภรรยา แต่ต่อมาเมื่อปี 2559 นายการันตี ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ในระหว่างนั้น นางสา สาวคาราโอเกะ ก็ได้คบหากับนายสมพงษ์ ผู้เสียชีวิต จนกระทั่งเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นายการันตี พ้นโทษ และกลับมาคบหากับนางสา เช่นเดิม โดยนางสา ได้บอกเลิกกับนายสมพงษ์ ผู้เสียชีวิต แต่ก็ยังมีติดต่อแอบไปมาหาสู่กันและนางสา ก็ยังขอเงินนายสมพงษ์ ใช้อยู่ จนกระทั่งมาเกิดเหตุฆ่ากันตายดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งดำเนินคดีนายการันตี ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี