ปมขัดแย้งที่จอดรถบานปลาย! เปิดวงจรปิด ลูกหลงกระสุนพุ่งใส่ ด.ช.วัย 5 ขวบ บาดเจ็บสาหัส พ่อเด็กวอนทบทวนการควบคุมอาวุธปืน ขณะผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัว พร้อมใช้เงินสด 4 แสนประกันตัว ตร.แจ้ง 3 ข้อหาหนัก ครอบครัวผู้เสียชีวิตร้องขอความเป็นธรรม อ้างผู้เสียชีวิตพิการทางสมองและถูกทำร้ายก่อนหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายประชานารถ หรือเฮียปัก อายุ 36 ปี เจ้าของร้านขายของชำ ม.1 ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เข้ามอบด้วยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายหลังก่อเหตุใช้อาวุธปืน ซิกซาวเออร์ P 365 ขนาด 9 มม. ยิงนายพรหมพงศ์ หรือนิก อายุ 35 ปี ชาว ม.1 ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกัน โดยกระสุนเจาะเข้าที่บริเวณเนินอกขวาทะลุหลัง 1 นัด ราวนมขวา 1 นัด และเอวขวา 1 นัด ทำให้เสียชีวิต นอกจากนี้คมกระสุนยังพลาดไปโดนลูกหลง ซึ่งเป็น ด.ช.วัย 5 ขวบ ได้รับบาดเจ็บเข้าที่ขาซ้ายทะลุขาขวา 1 นัด ขณะนั่งซ้อนท้ายรถ จยย. ของผู้เป็นแม่ ผ่านถนนหน้าบ้านเกิดเหตุ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 3 ก.ค.68 ที่ผ่านมา (อ่านข่าวก่อนหน้านี้ : ร้านชำสุดทน! ทะเลาะหนุ่มชักมีดจะแทง ยิงสวนดับ-เด็ก5ขวบโดนลูกหลง)

ความคืบหน้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานคลิปจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ภายในร้านขายของชำดังกล่าว สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้บางส่วน ปรากฏภาพว่า ขณะที่ผู้ก่อเหตุยืนอยู่ที่บริเวณโต๊ะแคชเชียร์ภายในร้าน ได้มีนายสุทธิพงศ์ หรือโกยาว อายุ 69 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เดินเข้ามาพูดคุยเพื่อขอเคลียร์ปมปัญหาที่ระหว่างผู้ตายและผู้เสียชีวิตมีปัญหาทะเลาะวิวาทกัน เมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ของวันที่ 30 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา โดยในวันที่ 30 มิ.ย. ทั้งคู่ได้มีปัญหากันเรื่องที่จอดรถ เนื่องจากหลังบ้านของผู้ก่อเหตุ อยู่บริเวณหน้าบ้านของผู้เสียชีวิต จนกระทั่งผู้ก่อเหตุได้ตบเข้าที่ใบหน้าของผู้ตาย ต่อมาผู้ตายได้พูดข่มขู่ว่าจะแทงผู้ก่อเหตุให้ตาย

จนกระทั่งเหตุการณ์ล่วงเลยมาจนถึงวันเกิดเหตุ พ่อผู้ตายได้เข้ามาพูดคุยเพื่อเคลียร์ พร้อมทั้งในกล้องบันทึกเสียงไว้ได้ในทำนองว่า ผู้ตายได้รับบาดเจ็บมีบาดแผล ต่อมาได้มี นางบี (นามสมมุติ) ภรรยาของผู้ก่อเหตุ เดินเข้ามาร่วมพูดคุยก่อนจะบอกว่าให้ไปแจ้งความ จังหวะเดียวกันนั้นผู้ตายซึ่งยืนอยู่บริเวณหน้าร้าน ได้เดินเข้ามาภายในร้านลักษณะคล้ายจะชักอาวุธมีดเดือยไก่ที่พกติดตัวมาจะปรี่เข้ามาแทงผู้ก่อเหตุ จังหวะเดียวกันนั้นผู้ก่อเหตุได้ชักอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวยิงสวนไป จนผู้ตายไปล้มลงบริเวณภายในซอยล้อมนิเวศน์ ซึ่งอยู่ติดกับร้านชำดังกล่าว โดยไม่ปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดขณะมีการใช้อาวุธปืนดังกล่าว

ส่วนที่ สภ.ย่านตาขาว นายสุทธิพงศ์ หรือโกยาว อายุ 69 ปี พ่อของผู้ตาย กล่าวว่า วันเกิดเหตุลูกชวนตนไปเคลียกับผู้ก่อเหตุ เรื่องชดเชยค่าเสียหายจาการที่ลูกกับผู้ก่อเหตุทะเลาะกัน และนายปักได้ใช้ปืนตบไปที่นายนิค จนเข้ารักษาตัวที่ รพ.ย่านตาขาว เมื่อเข้าไปในร้านขายของชำ ตนเองเดินเข้าไปก่อน และลูกเดินตามไป นายปักตะโกนว่ามึงจะมาฆ่ากูเหรอ แล้วนายปักก็ชักปืนออกมายิงใส่นายนิกไม่ยั้งทั้งที่ภรรยานายปักห้ามไว้ ส่วนลูกเมื่อถูกยิงก็วิ่งออกจากร้านของชำจนล้มและเสียชีวิตในที่สุด ตนกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีจึงได้มาขอพบพนักงานสอบสวนในวันนี้ และลูกชายตน คือนายนิกเป็นผู้พิการทางสมองด้วย ตนเองเป็นคนยากจนมีรายได้น้อยไม่มีญาติใน จ.ตรัง เพราะเป็นคน จ.นครศรีธรรมราช แต่มาอยู่ที่ย่านตาขาวหลายปีแล้ว

ขณะที่ รพ.ศูนย์ตรัง ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถาม นายสุวัฒ อายุ 49 ปี พ่อของ ด.ช.วัย 5 ขวบ ที่ถูกลูกหลงได้รับบาด กล่าวอัพเดทอาการของลูกชายว่า ขณะนี้อาการลูกปลอดภัยแล้ว โดยปกติตนจะเป็นคนรับส่งลูกชายที่โรงเรียนประจำด้วยรถยนต์กระบะ เพราะรักลูกคนนี้มาก ไม่เคยให้ใครไปรับไปส่ง แต่เมื่อวานนี้ตนติดธุระนั่งคุยงานกับเพื่อน จึงได้ให้ภรรยา ซึ่งเป็นแม่ของลูกไปรับแทนกับรถ จยย. ซึ่งตอนเกิดเหตุ ภรรยาไปรับลูก โดยที่ลูกนั่งข้างหน้า โดยมีภรรยาเป็นคนขับ จังหวะที่มาถึงหน้าร้าน ภรรยาได้ยินเสียงดัง แต่นึกว่ามีการจุดประทัด แต่ขับไปได้ไม่ไกล ปรากกฎว่าลูกได้ร้องไห้ เมื่อก้มไปดูก็เห็นเลือดออกที่ขาลูก และชาวบ้านละแวกนั้นวิ่งกัน ก่อนชาวบ้านจะมาช่วยเหลือนำส่ง รพ.

อาการลูกเข้าผ่าตัดไปแล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา เสร็จสิ้นประมาณเที่ยงคืนกว่า อาการทรงตัว แต่ปลอดภัยแล้ว ตนไม่คาดคิดอนาคตลูกขาจะปกติหรือไม่ ก็คงต้องดูอาการอีกยาว เพราะเกิดขึ้นที่กระดูก ส่วน รองผู้ว่าฯ ผอ.สพป.ตรังเขต 1 และ ผอ.โรงเรียนก็ได้เข้ามาเยี่ยมแล้ว

'อยากฝากเป็นอุทาหรณ์สังคมเรา อยากให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติด อาวุธปืน ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนจะออกใบอนุญาตให้กับใคร คนไม่รู้อิโหน่อิเหน่กับมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งสังคมหากอยู่แบบนี้ก็เชื่อได้ว่าวันหนึ่งวันใดก็จะเกิดขึ้นกับใครได้ทั้งหมด ขณะตนไม่เคยห่างลูกเลยยังเกิดขึ้นได้ ยอมรับใจสลาย บรรยายมาเป็นคำพูดไม่ได้เพราะเรารักลูกมา เราเลี้ยงลูกมาดี แต่กลับมาเจอแบบนี้'

ส่วนความคืบหน้าทางด้านคดี ภายหลังนายประชานารถ หรือเฮียปัก อายุ 36 ปี เข้ามอบตัวพร้อมอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นให้การรับสารภาพ พร้อมทั้งมีการใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 4 แสนบาท ยื่นประกันตัวออกไปเพื่อสู้คดีแล้ว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พยายามฆ่าผู้อื่น กระทำโดยพลาด 3.ครอบครองและใช้อาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ///-026