เจ้าของร้านชำสุดทน! ทะเลาะกับหนุ่มพัวพันยานรก ทำทีชักมีดเดือยไก่จะบุกเข้าแทง เปิดลิ้นชัก ชัด 9 มม. ยิงสวน 3 นัดดับสลด กระสุนพลาด 1 นัด ถูกขาเด็กวัย 5 ขวบ นั่งซ้อนท้าย จยย.แม่ อาการปลอดภัยแล้ว พลิกแฟ้มประวัติคนตายต้องคดีเพียบ
3 กรกฎาคม 2568 เมื่อเวลา 15.30 น. ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว ได้รับแจ้งเหตุ ใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดภายในร้านขายของชำ เลขที่ 91 ถนนวรคีรี หมู่ 1 ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ต่อเนื่องมาภายในซอยล้อมนิเวศน์ ซึ่งอยู่ติดกับร้านขายของชำ หลังได้รับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เจษฎา แสงมณี รรท.ผกก.สภ.ย่านตาขาว พ.ต.ท.เชษฐ์ เพชรชู สว.สส. กำลังตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพสมาคมกู้ชีพร่วมใจ อ.ย่านตาขาว
ถึงที่เกิดเหตุ บริเวณต้นซอยริมถนนภายในซอยนิเวศน์ ซึ่งอยู่ติดกับผนังบ้านร้านขายของชำ พบร่างของ นายพรหมพงศ์ หรือนิค อายุ 35 ปี อยู่ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนส์ ไม่สวมรองเท้า นอนหงายหน้าถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด เข้าที่บริเวณเนินอกขวาทะลุหลัง 1 นัด ราวนม ขวา 1 นัด และสะเอวขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่บนพื้นถนน
ใกล้กันมีผู้โดนลูกหลง พบผู้บาดเจ็บอีกรายเป็น เด็กชาย วัยอายุ 5 ขวบ ชาวหมู่ 4 ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับบาดเจ็บถูกอาวุธกระบอกเดียวกัน กระสุนเจาะเข้าที่บริเวณน่องขาซ้ายทะลุน่องขาขวา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้เร่งกันนำส่ง รพ.ย่านตาขาวอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ นายพรหมพงศ์ อายุ 35 ปี จะเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วน เด็กชาย วัย 5 ขวบ เบื้องต้นถูกนำส่งรักษาต่อ รพ.ศูนย์ตรัง อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายประชานารถ หรือปัง อายุ 36 ปี ต.ย่านตาขาว อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ซึ่งเป็นเจ้าของร้านชำดังกล่าว ภายหลังเกิดเหตุ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนซิกซาวเออร์ P 365 ขนาด 9 มม. ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวไป ทำการสอบปากคำอย่างละเอียด
จากการสอบสวน ทราบว่า นายประชานารถ มีเรื่องส่วนตัวกับนายพรหมพงศ์ ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน เหตุเกิดช่วง 2-3 วัน เนื่องจากผู้ตายมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด และมักจะชอบเข้ามาก่อกวน และหยิบของไปเกินเงินที่จ่าย รวมทั้งพูดไม่เข้าหูภายในร้าน ต่อมาวันเกิดเหตุ พ่อผู้ตายได้เข้าไปพูดคุยกับนายประชานารถ เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เคยเกิดขึ้นกับลูกชายและเดินออกมา จากนั้นนายพรหมพงศ์ได้เดินสวนเข้าไปมือจับที่เอวที่พกอาวุธมีดเดือยไก่มาด้วยพุ่งตรงไปที่ก่อเหตุ นายประชานารถเห็นท่าไม่ดีจึงใช้อาวุธปืนที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะเก็บเงินยิงนายพรหมพงศ์ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนเด็กชายวัย 5 ขวบ ที่บาดเจ็บถูกคมกระสุนพลาดไปโดนลูกหลงขณะ นั่งซ้อนท้ายรถ จยย. ของผู้เป็นแม่ผ่านถนนหน้าบ้านเกิดเหตุ
สอบถาม นายการ (นามสมมติ) เพื่อนผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ปกติผู้ตายเป็นคนเรียบร้อยไม่เคยทะเลาะวิวาทกับใคร ก่อนหน้านี้ผู้ก่อเหตุเคยเล่าเรื่องที่มีปัญหากับผู้ตายให้ฟัง เรื่องการขับรถเข้าออกหลังบ้านที่อยู่ติดกับบ้านผู้ตาย ในวันดังกล่าว ผู้ตายได้พูดกับผู้ก่อเหตุว่า ระวังให้ดีเดี๋ยวจะแทงให้ตาย จากนั้นจึงมีปัญหากันถึงขั้นทะเลาะวิวาทซึ่งก็ได้เคลียร์จบแล้วในวันนั้น ในวันเกิดเหตุผู้ตายได้เข้ามาหานายประชานารถอีกครั้ง และพกอาวุธมีดมาด้วยเหมือนจะมาทำร้าย ผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ที่เคาท์เตอร์จึงจำเป็นต้องป้องกันตัวเอง หลังเกิดเหตุนายประชานารถก็ไม่ได้หลบหนีไปไหนและโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง
จากการพลิกแฟ้มประวัติ นายพรหมพงศ์ ผู้เสียชีวิต ปี 2552 เคยต้องคดี พรากผู้เยาว์ อายุกว่า 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี เพื่อไปหากำไร หรือเพื่ออนาจาร ปี 2556 เคยต้องคดี ผลิตซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 5 (พืชกระท่อม) ปี 2557 เคยต้องคดีครอบครองยาเสพติดประเภท 1 แอมเฟตามีน ปี 2558 เคยต้องคดี ลักทรัพย์ในเคหะสถาน สถานที่ราชการ ซึ่งคดีทั้งเหตุเกิดในพื้นที่ สภ.ย่านตาขาว ทั้งสิ้น รวมทั้งพัวพันกับยาเสพติด
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับกล้องวงจรปิดจากบ้านบริเวณข้างเคียงสามารถบันทึกเสียงอาวุธปืนในขณะเกิดเหตุไว้ได้ แต่มุมกล้องไม่สามารถบันทึกภาพขณะเกิดเหตุได้
เบื้องต้นตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบเขม่าดินปืน และมีดเดือยไก่ ที่ตรวจพบในตัวผู้ตาย อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนจะได้ทำการสอบสวนนายประชานารถอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนทำการแจ้งข้อหาต่อไป.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี