14 เมษายน 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ในช่วงที่กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศเลื่อยการเปิดเทอมปีการศึกษา 2563 ออกไปเป็นวันที่ 1 ก.ค.2563 เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และกระทรวงศึกษาฯก็ได้วางแนวทางที่เหมาะสมในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งการใช้แท็บเล็ตก็เป็นแนวทางหนึ่งที่จะนำมาใช้ แต่เมื่อประเมินแล้วมีเรื่องงบประมาณที่ต้องผูกพัน เรื่องความเหมาะสมในการใช้กับการเรียนการสอนออนไลน์ที่ต้องมีการพิมพ์โต้ตอบกันระหว่างนักเรียนกับคุณครูอาจมีความไม่เหมาะสม และจากที่ตนดูรายงานเรื่องในอดีตที่ผ่านมาแล้วมีโอการที่จะมีปัญหาเกิดขึ้นมากมายในการดำเนินการในช่วงระยะเวลาอันสั้นนี้
จากที่ได้ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนแล้ว จึงพิจารณาว่าเมื่อมีข้อจำกัดทั้งในเรื่องความไม่เหมาะสม และเรื่องงบประมาณ ศธ.จึงจะใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด และได้หารือกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอช่องดิจิทัล TV จำนวน 13 ช่อง และมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อให้นักเรียนทุกระดับชั้นสามารถเรียนผ่าน DLTV ได้ และหารือมูลนิธิไทยคม ซึ่งก็น่าจะมีทางออกที่เหมาะสมและครอบคุมในการจัดการศึกษาได้ทั่วทั้งประเทศในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 นี้
“ในวันที่ 16 พ.ค.2563 นี้ ศธ.จะทำการทกลองการใช้ระบบการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ หากมีปัญหาก็จะได้ดำเนินการแก้ไข ซึ่งขณะนี้ก็ได้มีการทดลองบางส่วนเพื่อนำมาเป็นข้อมูลที่สามารถทำให้ตัดสินใจได้ว่าไม่มีปัญหาที่จะจัดการเรียนการสอนในรูปแบบอื่นๆที่เหมาะสม และจากข้อมูลพบว่าโรงเรียนต่างๆมีไฟฟ้าและทีวีใช้แล้วกว่า 90 % ส่วนที่เหลืออีก 10% ที่ไฟฟ้ายังไปไม่ถึง เราก็จะใช้ช่วงเวลานี้ตรวจสอบ หากพื้นที่นั้นปลอดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็อาจจะจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้ ซึ่งก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่วางไว้ และการกำหนดให้เลื่อนการเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 1 ก.ค. ก็เป็นเพียงเป้าหมายหนึ่งเท่านั้น แต่หากการระบาดของยุติแล้ว หรือพื้นที่ที่ควบคุมได้ เราก็สามารถจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนได้เช่นกัน” รมว.ศธ. กล่าว
นายณัฏฐพล กล่าวว่า ส่วนการรับนักเรียน ชั้น ม.1, ม.4 ซึ่ง สพฐ.จะเปิดรับสมัครผ่านระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 3-12 พ.ค.นี้ ส่วนการสอบนั้น ตนได้กำหนดไว้ 3 แนวทาง คือ 1.จัดสอบที่โรงเรียน แต่ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง แนวทางที่ 2 คือ สอบที่โรงเรียน แต่ต้องเว้นระยะห่างขณะนั่งสอบ เช่น สอบห้องละ 10 คน ส่วนแนวทางที่ 3 หากสอบในแบบที่ 1 และ 2 ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องสอบแบบออนไลน์ และการสอบผ่านออนไลน์ก็ให้มีมาตรการป้องกัน หากเด็กคนใดทำคะแนนได้มากก็ต้องดูผลการเรียนรวมถึงประวัติการเรียนที่ผ่านมาด้วย เช่น เด็กที่ไม่เคยทำคะแนนได้ดีเลย แต่สอบออนไลน์ได้เต็ม100 คะแนน ซึ่งตนไม่อยากให้ไปถึงการสอบแบบออนไลน์เลย อยากให้สอบแบบข้อที่ 1 และข้อ 2 มากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ จึงต้องประเมินสถานการณ์ไปก่อน หากการแพร่ระบาดของโรคยุติลงเราก็สามารถจัดสอบตามปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี