จากกรณีเมื่อวันที่ 10 เม.ย.63 ที่ผ่านมา นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ มท 0230/ว2158 ถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัด เรื่องแนวทางปฏิบัติในการเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรของคนสัญชาติไทยจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางในพื้นที่จังหวัดชายแดน ที่มีแนวเขตติดกับประเทศเพื่อนบ้านรวม 21 จังหวัด โดยเริ่มอนุญาตให้คนไทยกลับเข้ามาด้วยการผ่านจุดผ่านแดนถาวรวันละไม่เกิน 100 คนต่อ 1 ช่องทางเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย.63 เป็นต้นไป ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรี เป็น 1 ใน 21 จังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา และยังมีคนงานที่เป็นชาวไทยต้องการกลับประเทศอยู่กว่า 389 คน
ต่อมาวันที่ 14 เม.ย.63 นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการและคณะทำงานเพื่อรองรับการเดินทางกลับประเทศของคนไทย ผ่านด่านทิกิ ประเทศเมียนมา-บ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ครั้งที่ 1/2563 โดยมี ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายอนันต์ นาคนิยม ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี และนายอธิสรรค์ อินตรา หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี นพ.นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ผู้แทนกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ 17 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยที่ประชุมได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานเพื่อรองรับการเดินทางกลับประเทศของคนไทย ผ่านด่านทิกิ-บ้านพุน้ำร้อนขึ้นมา 8 คณะ เพื่อให้การปฏิบิติเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานฯ
ในส่วนของคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศไทยผ่านทางด่านชายแดนบ้านพุน้ำร้อนมีจำนวน 389 คน กำหนดแผนเดินทางกลับเข้าไทยจำนวน 4 วันโดยวันแรกจำนวน 98 คนวันที่สองจำนวน 92 คนวันที่สามจำนวน 100 คนและวันที่สี่จำนวน 98 คน เริ่มวันที่ 18-21 เม.ย.63
ต่อมาช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา คณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของทั้ง 2 ฝ่ายคือไทย-เมียนมา รวมถึงผู้ประกอบการโรงแรมรีสอร์ท ที่เสียสละให้จังหวัดกาญจนบุรี ใช้เป็นพื้นที่กักตัวแรงงานเป็นเวลา 14 วันเข้าร่วมดำเนินการวางแผนแบบบูรณาการให้มีประสิทธิภาพให้มากที่สุด โดยเฉพาะการตรวจ
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 00.10 น.วันที่ 18 เม.ย.63 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำรถยนต์ตู้ 10 คันไปรับแรงงานทั้ง 98 รายไปส่งที่สถานที่กักกัน ซึ่งเป็นรีสอร์ทจำนวน 2 แห่ง แห่งแรกตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี แห่งที่ 2 อยู่ในพื้นที่ อ.ท่าม่วง โดยรีสอร์ททั้ง 2 แห่งมีความปลอดภัยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นรีสอร์ทที่อยู่ห่างไกลชุมชน อีกทั้งยังผ่านการตรวจสอบคุณภาพและศักยภาพจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเป็นอย่างดี จึงขอให้ประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี สบายใจได้ ส่วนรายที่ป่วยเป็นโรคไต เจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปรักษาที่ รพ.พหลพลพยุหเสนา เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่แรงงานชาวไทยจะเดินทางกลับเข้ามาภายในประเทศ ทั้งหมดได้พักอาศัยอยู่ภายในโรงแรมที่ตั้งอยู่บ้านทิกิ ประเทศเมียนมา ทุกวัน โดยไม่ได้ออกไปไหน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้ตรวจวัดอาการไข้ของทุกคนอย่างเข้มข้นทุกวัน และไม่พบว่ามีแรงงานชาวไทยรายใดมีอาการต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 แม้แต่รายเดียว
สำหรับบรรยากาศที่บริเวณด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ช่วงเวลาประมาณ 06.30 น.ที่ผ่านมานั้น เป็นไปอย่างเงียบเหงา แต่ก็มีพ่อค้า 1 รายที่ทราบข่าวว่าจะมีแรงงานชาวไทยเข้ามาจากประเทศเพื่อน จึงรถรถยนต์มาจอดที่หน้าด่าน ตม.เพื่อขายของ แต่ก็ต้องผิดหวัง เพราะแรงงานทั้งหมดได้กลับเข้ามาตั้งแต่หลังเที่ยงคืนแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี