วันที่ 20 เมษายน 2563 นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงผลการกระชุมหารือแนวทางการดำเนินการทดสอบ O-NET, GAT/PAT (การทดสอบวิชาความถนัดทั่วไป, การทดสอบความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ), Admission (ระบบกลางคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา) และการสอบ วิชาสามัญ 9 วิชา ปีการศึกษา 2563 ร่วมกับ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม( อว.) ที่ประชุมอธิการบดี(ทปอ.) สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) สำนักงานปลัด ศธ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) โดยมี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานการประชุม เมื่อเร็วๆนี้ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการสอบของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6(ม.6)ที่จะเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ที่มีการสอบหลายครั้ง ตั้งแต่สอบ O-NET, GAT/PAT ,สอบ 9 วิชาหลัก และสอบแอดมิชชั่น ทำให้ผู้ปกครองร้องขอมาว่าการสอบเหล่านั้นทำให้เด็กเกิดความเคลียด และผู้ปกครองต้องใช้เวลามากในการไปดูแลบุตรหลานที่สอบ
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการสอบต่างๆที่มีในปัจจุบัน และ รมว.ศธ. มีนโยบายว่าให้หารูปแบบว่าการทดสอบนั้นจะต้องมีรูปแบบที่ส่งผลไปถึงผู้เรียนที่สามารถวัดสมรรถนะความรู้ความสามารถทักษะของผู้เรียนที่มีอยู่ได้ตรง เหมาะสมจะเรียนด้านใด และตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ และการเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน และศักยภาพของผู้เรียนด้วย
นายอำนาจ กล่าวอีกว่า สทศ.ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางในการจัดสอบ ก็ได้หารือว่าจะจัดทำข้อสอบอย่างไรโดยมีเป้าหมายให้เด็กทุกคนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6, ม.3 และ ม.6 ซึ่งมีการสอบ O-NET
ส่วนการสอบ GAT/PAT ส่วน ทปอ.ก็เสนอว่า การสอบความถนัดและความสามารถเฉพาะด้าน ทาง ทปอ. มีข้อจำกัด จึงขอไปดูว่าอะไรที่เป็นเรื่องสมรรถนะได้ ส่วนเรื่องการสอบคอนเทนต์หรือเนื้อหาน่าจะรวมกันได้ เช่น การสอบ O-NET กับการสอบ 9 วิชาหลัก ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงข้อเสนอในที่ประชุมยังไม่ตัดสินใจ หลังจากนี้ทาง สทศ.ก็จะนัดคณะทำงานชุดนี้หารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่งเพื่อลงในรายละเอียดว่านักเรีบนที่จะจบชั้น ม.6 จะต้องวัดประเมินผลอะไรบ้างเพื่อให้เด็กสามารถเข้าสู่มหาวิทยาลัยได้อย่างมีศักยภาพตรงกับเด็ก รวมถึงคณะต่างๆที่มหาวิทยาลัยมีอยู่ คาดว่าภายในปลายเดือน เม.ย. หรือต้น พ.ค.นี้ จะมีการหารือกันอีกครั้ง
“การสอบ O-NET และการสอบ 9 วิชาสามัญต่างกัน แต่วันนี้ข้อสอบมากเกินไปทำให้เด็กเคลียด ซึ่ง ข้อสอบ 1 ข้อก็สามารถวัดเด็ก 2-3 อย่างได้ จึงเป็นเรื่องที่ฝ่ายวัดประเมินผลต้องคิดกันต่อไป คือไม่อยากให้เด็กต้องวิ่งสอบ เด็กบางคนอยู่เชียงใหม่ต้องวิ่งสอบมีค่าใช้จ่ายสูงมาก บางคนไม่มีเงินหรือคนที่ไม่มีค่าใช้จ่ายไปสอบก็มีเรื่องความเหลื่อมล้ำเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำจึงอยากให้สอบรอบเดียวจบได้หรือไม่ ข้อสอบวันนี้เราเปลี่ยนรูปแบบได้ และการตรวจวัด วันนี้มีระบบ AI ก็สามารถนำมาใช้ได้ ดังนั้น ก็จะต้องมาหารือกันว่าจะใช้วิธีใด และเมื่อผลออกมาว่าจะมีการปรับการสอบ ในปีการศึกษา 2563 ก็จะออกประกาศให้เด็กทราบล่วงหน้า 3 ปี และใช้ในปี 2566” เลขาธิการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี