สู่สุคติ!พ่อแม่ร่ำไห้เผาศพลูกเหยื่อคอมแบท ย้ายทหารชุดก่อเหตุออกนอกพื้นที่
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 เมษายน 2563 ญาติๆและทหารจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งเป็นชุดมวลชนสัมพันธ์ ชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน (ชป.กร.207) และชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชน (ชพส.2121) ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม ที่มาคอยอำนวยความสะดวกในงานศพของนายยุทธนา ซ้ายซา หรือด่อน อายุ 33 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุถูกกลุ่มทหารอุ้มไปซ้อม และนำศพกลับจากการผ่าพิสูจน์จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา โดยได้รวมกันเคลื่อนศพออกจากบ้าน เพื่อนำไปฌาปนกิจที่เมรุวัดป่าแสงแก้วอัมพวัน
ขณะจะนำศพออกบ้านนายนิวัฒน์ ซ้ายซา อายุ 59 ปี ผู้เป็นพ่อ ไม่สามารถทนเห็นภาพนำศพลูกชายออกไปฌาปนกิจได้ จึงเดินไปยืนร้องไห้อยู่หลังบ้าน ญาติต้องคอยประคองตลอดเวลา เพราะนายนิวัฒน์ป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่วอยู่ก่อนแล้ว ส่วนนางป่าน ซ้ายซา อายุ 56 ปี ผู้เป็นแม่ นั่งรออยู่บริเวณหน้าบ้าน แต่พอทหารหามโลงศพลูกชายออกมาเท่านั้น ก็ปล่อยโฮร่ำไห้ทันที พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ไปสู่สุคตินะลูก” จากนั้นก็ยกโลงศพใส่รถปิกอัพไปยังเมรุ โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชฯ คอยตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และแจกแอลกอฮอล์ล้างมือ ก่อนจะเข้าไปภายในบริเวณศาลาอเนกประสงค์
เมื่อศพของนายยุทธนา ถึงหน้าเมรุมี พล.ต.ประสิทธิ์ ทิศาวงศ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 29 (มทบ.29) , พ.อ.(พิเศษ) บุญสิน พาดกลาง รอง ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ผู้แทน พล.ต.สวราชย์ แสงผล ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี และ ผอ.รักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ส่วนแยก 1 ที่ติดภารกิจด้านอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชน ตลอดจนทหาร ตำรวจ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หรือ ศอ.ปส.ชอน.(บ) มาร่วมงานอย่างคับคั่ง โดย ผบ.มทบ.29 กล่าวเพียงสั้นๆว่า “ผมมาส่งดวงวิญญาณน้องให้ไปสู่สุคติ” โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน พล.ต.ประสิทธิ์ ทิศาวงศ์ ได้เชิญพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตมาเจรจาและลงลายลักษณ์อักษรในเรื่องเงินเยียวยา ณ ที่ว่าการอำเภอธาตุพนม โดยมี นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม เขต 3 พรรคเพื่อไทย บุคคลที่ญาติของผู้ตายให้ความเคารพนับถือ เป็นผู้ประสานให้มาพูดคุยกัน ซึ่งผลการเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายมีข้อตกลงกันเรียบร้อย และพอใจในสิ่งที่ทางทหารหยิบยื่นให้ จากนั้นญาติผู้เสียชีวิตก็เดินทางกลับเพื่อนำศพนายด่อนไปฌาปนกิจดังกล่าว
พล.ต.ประสิทธิ์ เปิดเผยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางกองทัพไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเฉพาะ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. มีความห่วงใยเรื่องนี้มาก เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะทหารต้องทำงานร่วมกับประชาชน ในด้านการปราบปรามยาเสพติด ตามแนวตะเข็บชายแดน ซึ่งวันนี้ได้มีการแก้ไขปัญหาด้วยการเชิญพ่อและแม่ของผู้ตายมาพูดคุย ซึ่งครอบครัวของผู้สูญเสียและทางหน่วยสามารถตกลงกันได้ทั้ง 2 ฝ่าย แต่สำหรับเงินเยียวยาที่ได้มีการเจรจาก็มีการเห็นชอบ และทำหนังสือสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งมีนายอำเภอธาตุพนมร่วมเป็นพยาน แต่ขอสงวนเรื่องตัวเลขเอาไว้เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
ผบ.มทบ.29 เน้นย้ำว่าต้องแยกแยะให้ถูกระหว่างเรื่องราวที่เกิดขึ้นและความมั่นคง ทหารที่กระทำความผิดจะต้องได้รับโทษจากผลการกระทำของตน ซึ่งทั้งหมดจะต้องถูกนำตัวดำเนินคดีทั้งศาลทหารและศาลพลเรือน และยืนยันว่าจะจัดการขั้นเด็ดขาดโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ส่วนด้านความมั่นคง ทหารที่ร่วมกันก่อเหตุจะถูกให้ย้ายออกจากพื้นที่ โดยจะมีทหารชุดใหม่เข้ามาแทน ดังนั้นความมั่นคงตามแนวชายแดน เช่น ยาเสพติด ตลอดจนสินค้าผิดกฎหมายยังเข้มข้นเหมือนเดิม
น.ส.จิตตรา ตะวังทัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ซึ่งเป็นญาติฝั่งผู้เสียชีวิต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การเจรจาเป็นไปยังราบรื่น นายนิวัฒน์และนางป่านก็อโหสิกรรมต่อผู้กระทำผิด และเข้าใจดีว่าทางกองทัพก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ทหารกลุ่มกระทำลงไป ตนทำงานร่วมกับฝ่ายความมั่นคงในทุกมิติ สัมผัสทั้งทหารและตำรวจจึงรู้ว่าส่วนใหญ่เป็นคนดีที่ตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เมื่อทุกอย่างจบลงด้วยดีดวงวิญญาณหลานชายก็ตายตาหลับและไปสู่ภพภูมิที่ดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี