เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563 นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ครั้งที่ 4/2563 ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ โดยมีคณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม
รมช.ศธ.กล่าวว่า ที่ประชุมได้รายงานผลการปฏิบัติงานต่างๆที่ผ่านมาและได้เห็นชอบการดำเนินงานของสถานศึกษาเอกชน การปรับแก้ไขประกาศหลักเกณฑ์เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องของโรงเรียนและสถานศึกษาเอกชนในหลายๆส่วน รวมทั้งเห็นชอบให้กองทุนสงเคราะห์ มีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อเพื่อสวัสดิการ (เงินทุนเลี้ยงชีพ) ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยงดคิดดอกเบี้ยและค่าปรับสินเชื่อเพื่อสวัสดิการ (กองทุนเลี้ยงชีพ) ลูกหนี้เดิม (โครงการ 1-4) เป็นระยะเวลา 6 เดือน (วันที่ 1 พฤษภาคม - 30 ตุลาคม 2563) และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สินเชื่อเพื่อสวัสดิการ จาก 4.5% ต่อปี เหลือ 4% ต่อปี (ยกเว้นโครงการที่ดอกเบี้ยต่ำอยู่แล้ว) โครงการที่ 3 - 4 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป โดยมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว จะมีผลอัตโนมัติโดยที่สมาชิกไม่ต้องยื่นคำร้องใดๆ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนด้านภาระค่าใช้จ่ายของผู้อำนวยการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาเอกชน ให้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปได้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบมาตรการจัดตั้งสินเชื่อเพื่อสวัสดิการ (เงินทุนเลี้ยงชีพ) โครงการ 5 เพื่อขยายสิทธิ์ให้กับสมาชิกที่มีอายุงาน 5 ปี แต่ไม่ถึง 10 ปี ได้มีสิทธิ์กู้สินเชื่อเพื่อสวัสดิการ โดยเพิ่มวงเงินจากร้อยละ 80 เป็นร้อยละ 90 ของเงินสะสม (3%) และส่งเงินสะสม 60 งวดขึ้นไปต่อเนื่อง สำหรับสมาชิกที่มีอายุงาน 10 ปีขึ้นไป กู้ได้ร้อยละ 90 ของเงินสะสมและเงินสมทบ (12%) โดยส่งเงินสะสมและเงินสมทบ 120 งวดขึ้นไป ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระในการชำระค่างวดน้อยลง
นางกนกวรรณ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้โรงเรียนในระบบ และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้ กู้ยืมเงินจากกองทุนส่งเสริมโรงเรียนในระบบ เพื่อช่วยเหลือบรรเทากระทบของโรงเรียนเอกชน จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามที่ สช.เสนอ โดยให้โรงเรียนกู้ยืม รายละไม่เกิน 500,000 บาท ในอัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 4 ตามที่กระทรวงการคลังกำหนดก และให้ผ่อนชำระคืนภายใน 1 ปี หรือ 12 งวด
รมช.ศธ. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้สรุปผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2562 ของนักเรียนโรงเรียนเอกชน ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ผลสอบชั้น ป.6 มีคะแนนเฉลี่ยทุกวิชาสูงกว่าระดับประเทศ เช่นเดียวกับชั้น ม.3 ที่มีคะแนนวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ รวมทั้งภาษาอังกฤษในชั้น ม.6 สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ แต่ก็ยังมีบางสาระวิชาที่จะต้องปรับปรุง โดย สช.ได้วางแนวทางปฏิบัติงานไว้ว่าจะปรับปรุงอย่างไรในสาระวิชาที่ยังมีคะแนน O-NET ต่ำอยู่ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี