กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการสำรวจและรวบรวมข้อมูลปัญหาการเลี้ยงช้างจากจังหวัดที่มีปางช้างทั้งหมด 22 จังหวัด พบว่า มีปางช้าง 91 ปาง จากปางช้างทั้งหมด 235 ปาง พบประสบปัญหาอาหารสำหรับเลี้ยงช้างไม่พอเพียง โดยกรมปศุสัตว์ได้ให้คำแนะนำและช่วยเหลือปางช้างที่ขาดแคลนอาหารด้วยการแนะนำให้ปางช้างหาแหล่งอาหารตามธรรมชาติ ใช้วัตถุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่ ย้ายช้างไปเลี้ยงที่มีแหล่งอาหารพอเพียง รวมถึงประสานขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิ หรือองค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ หรือปางช้างอื่น ทั้งนี้ ผู้เลี้ยงช้างที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถสอบถามหรือขอรับความช่วยเหลือเรื่องเสบียงอาหารสัตว์ได้ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพื้นที่
เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2563 นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ในช่วงเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการสำรวจและรวบรวมข้อมูลปัญหาการเลี้ยงช้างในช่วงเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากจังหวัดที่มีปางช้างทั้งหมด 22 จังหวัด พบว่ามีปางช้าง 235 ปาง ช้าง 2,459 เชือก แบ่งเป็นปางช้างที่ประสบปัญหาอาหารเลี้ยงช้างไม่พอเพียง 91 ปาง ช้าง 989 เชือก กระจายอยู่ทุกภูมิภาคยกเว้น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และปางช้างที่ไม่ประสบปัญหาอาหารเลี้ยงช้างเลย 144 ปาง ช้าง 1,470 เชือก โดยสามารถแบ่งกลุ่มจังหวัดออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1.จังหวัดที่ปางช้างไม่มีปัญหาอาหารสำหรับเลี้ยงช้าง 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ นครราชสีมา สุรินทร์ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เพชรบุรี นครปฐม พังงา และสุราษฎร์ธานี
2.จังหวัดที่มีปางช้างบางปางประสบปัญหาอาหารสำหรับเลี้ยงช้างไม่พอเพียง จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี เชียงใหม่ กาญจนบุรี กระบี่ และภูเก็ต
3.จังหวัดที่มีปางช้างประสบปัญหาอาหารสำหรับเลี้ยงช้างไม่พอเพียงทุกปางทั้งจังหวัด จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ตราด สุโขทัย ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสงขลา
อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สาเหตุปัญหาอาหารเลี้ยงช้างไม่พอเพียงส่วนใหญ่เกิดจากช่วงนี้เป็นฤดูแล้งทำให้แหล่งอาหารขาดแคลน พืชอาหารช้างมีราคาสูงขึ้น การขาดรายได้จากการท่องเที่ยวทำให้ไม่มีเงินทุนดำเนินกิจการและซื้ออาหารเลี้ยงช้าง กรมปศุสัตว์จึงได้ให้คำแนะนำและช่วยเหลือปางช้างที่ขาดแคลนอาหารดังนี้
1.แนะนำให้ปางช้างหาแหล่งอาหารจากธรรมชาติในพื้นที่ เช่น การนำช้างไปผูกล่ามไว้ในป่า และให้ควาญช้างเกี่ยวหญ้าในพื้นที่ใกล้เคียงมาให้ช้างกิน และปล่อยช้างลงแม่น้ำหรือแหล่งน้ำ
2.ใช้วัตถุเหลือใช้ทางการเกษตรในพื้นที่สำหรับเลี้ยงช้าง เช่น เปลือกและกากสับปะรด ฟางข้าว กากมันสำปะหลัง
3.ย้ายช้างไปปางอื่นหรือจังหวัดอื่นที่มีแหล่งหญ้าอาหารช้างสมบูรณ์
4.ประสานขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิ หรือองค์กรจัดสวัสดิภาพสัตว์ หรือปางช้างอื่น
ทั้งนี้ กรมปศุสัตว์จะสนับสนุนหญ้าแห้งจากศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์ใกล้เคียง เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนอาหารชั่วคราว ส่วน ผู้เลี้ยงช้างที่ได้รับความเดือดร้อนสามารถสอบถามหรือขอรับความช่วยเหลือเรื่องเสบียงอาหารสัตว์ได้ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพื้นที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี