วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ฝรั่งถูกตร.จับหลังเดินเล่นหาดพัทยา โดนยึดพาสปอร์ต-วางค้ำประกันครึ่งแสนแต่เงียบ

ฝรั่งถูกตร.จับหลังเดินเล่นหาดพัทยา โดนยึดพาสปอร์ต-วางค้ำประกันครึ่งแสนแต่เงียบ

วันจันทร์ ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 11.34 น.
Tag : ฝรั่งถูกตร.จับหลังเดินเล่นหาดพัทยา โดนยึดพาสปอร์ต-วางค้ำประก
  •  

 

ชาวต่างชาติสูงอายุผวา หลังถูกจับเดินเล่นชายหาดฝืนประกาศปิดหาดกันโรคโควิด-19 ยอมถูกดำเนินตามกระบวนการ จ่าย 5 หมื่นเป็นเงินหลักทรัพย์ค้ำประกันตามที่นายประกันร้องขอ แต่ไม่ได้ใบเสร็จหรือหลักฐานใด ๆ บอกให้รอขึ้นศาลแล้วเงียบหาย แถมโดนร้อยเวรยึดพาสปอต ทั้งที่ทั่วโลกปิดน่านฟ้าหนีไปไหนไม่ได้และไม่คิดหนีเพราะอยู่เมืองไทยมานาน ขอถ่ายสำเนาก็ไม่ยอม หวั่นวีซ่าหมด 15 พ.ค.นี้มีปัญหา งงถูกจับตั้งแต่ 5 โมงเย็น ดำเนินการเสร็จตี 1 อยู่ในเวลาเคอร์ฟิว รถตราโล่ ตร.สภ.เมืองพัทยา ไปส่งโดนเรียกอีก 2 พัน


4 พฤษภาคม 2563 จากกรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จนที่ผ่านมาภาครัฐได้ออกมาตรการควบคุมอย่างเข้มข้น ส่งผลให้หลายพื้นสถานการณ์เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดี ตัวเลขและปริมาณผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยในส่วนของจังหวัดชลบุรีได้มีการประกาศห้ามใช้พื้นที่ชายหาดทั่วทั้งจังหวัด ซึ่งเมืองพัทยาก็ได้ทำการออกมาตรการปิดหาดเพื่อป้องกันโรคระบาด ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ได้ส่งกำลังออกกวาดล้างและจับกุมผู้ฝ่าฝืนและกระทำผิดไปแล้วอย่างต่อเนื่องนั้น

ล่าสุด น.ส.พิมพ์ (นามสมมุต) อายุ 42 ปี เปิดเผยว่า ตนเองเป็นภรรยาอยู่กินกับสามีชาวฝรั่งเศสอายุ 80 ปี ซึ่งจะมีกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติผู้สูงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันเป็นชาวฝรั่งเศสรวม 5 คน และชาวเบลเยียม 1 คน ทั้งหมดอาศัยอยู่กินในเมืองพัทยามานานหลายปี และมักนัดหมายออกไปทำกิจกรรมผ่อนคลายและกิจกรรมออกกำลังกายตามประสาคนสูงวัยริมชายหาดพัทยา ก่อนในช่วงเย็นเวลาประมาณ 17.00 น.กว่า ๆ ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถกระบะมาจอดและจับกุมตัวไปที่สถานีตำรวจในความผิดฝ่าฝืนมาตรการปิดชายหาดพัทยาเพื่อป้องกันโรคระบาด

เมื่อตนเองได้เดินทางไปช่วยเหลือพบว่าร้อยเวรหรือพนักงานสอบสวนได้ตรวจยึดเอาหนังสือเดินทางหรือพาสปอตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนจะมีการแจ้งรับทราบความผิด ซึ่งสามีก็ได้ยินยอมถูกดำเนนคดีตามกระบวนการกฎหมายเพื่อไม่ให้มีปัญหาในการต่อวีซ่าที่จะหมดในวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 นี้ ส่วนตัวแล้วไม่มีความคิดที่จะหลบหนีเพราะสามีอยู่เมืองไทยมานานและเป็นผู้สูงอายุ ช่วงนี้ทั่วโลกก็ประกาศปิดน่านฟ้าไม่สามารถบินไปต่างประเทศได้ ซึ่งตนเองก็ได้สอบถามเรื่องนี้กับร้อยเวร แต่กลับถูกพูดจาไม่ดีใส่ ไม่มีน้ำใจบริการประชาชน แม้ว่าตนเองจะขอถ่ายสำเนากลับถูกต่อว่า ทั้งที่ถามด้วยความสงสัย เพื่อจะได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง

ทั้งนี้ในส่วนของกระบวนการนั้น มีนายประกันได้แนะนำให้วางเงินสดจำนวน 5 หมื่นบาท เพื่อให้เป็นเงินหลักทรัพย์ในการใช้ประกันตัวได้ดำเนินการต่อในชั้นศาล ซึ่งก็ได้ส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้กับนายประกันไป เพราะบอกว่าจะช่วยเร่งรัดการดำเนินการให้มีความรวดเร็วมากขึ้น และเงินส่วนนี้จะไม่ได้คืน ตนเองและสามีก็ยอมรับและพร้อมจ่าย แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ใบเสร็จหรือหลักฐานการจ่ายเงินใด ๆ ทั้งสิ้น ได้รับเพียงคำตอบให้รอขึ้นศาล สุดท้ายเรื่องก็เงียบ ยังไม่มีการติดต่อกลับมา ทางสามีก็วิตกกังวลจนเครียดเพราะหนังสือเดินทางถือเป็นเอกสารสำคัญของนักท่องเที่ยว และกลัวว่าจะไม่มีหนังสือเดินทางไปต่อวีซ่าที่ใกล้จะหมดอายุการอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย

น.ส.พิมพ์ (นามสมมุต) อายุ 48 ปี ยังเปิดเผยต่อว่า หลังจากดำเนินการเสร็จสิ้นในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันถัดมา ตนเองก็ได้ขอหลักฐานจากสถานีตำรวจเพราะต้องขับขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านพักย่านหาดจอมเทียน เนื่องจากอยู่ในเวลาเคอร์ฟิวห้ามออกนอกเคหะสถาน เพื่อไว้ใช้แสดงหากมีการตรวจค้น ป้องกันไม่ให้ถูกจับซ้ำซ้อน แต่ก็ไม่ได้รับเอกสาร ทางร้อยเวรบอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่ไปส่ง ให้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามรถกระบะตราโล่ของตำรวจที่จะนำไปส่ง ขณะนั้นมีตนเอง สามีและเพื่อนรวมทั้งสิ้น 4 คน และเมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายได้เรียกรับเงินจำนวน 2,000 บาท ตนเองจึงได้รวบรวมเงินกันคนละ 500 บาท มอบให้เจ้าหน้าที่ที่มาส่ง ซึ่งก็ยังสงสัยว่ามีค่าดำเนินการทำนองนี้ด้วยหรือ ซึ่งขณะนี้ทางสามีและกลุ่มเพื่อน ๆ มีความหวาดกลัวและหวาดวิตกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

พบศพนักท่องเที่ยวอินเดีย ถูกถุงดำรัดคอลอยทะเลเกาะเสม็ด ตร.เร่งสอบสวน

'มิลลิ'สู้ยิบตารัวแข้งรัวหมัด ก่อนแพ้คะแนนคู่ชกชาวจีน ศึก'Fairtex Fight'

(คลิป) แนวหน้าTAlk : ตีแผ่!! การเมืองภาคใต้ ยุคที่ต้องใช้ทั้งเงินและปืน

คนร้ายยิงสองผัวเมียดับคาที่หน้าบ้าน ในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved