เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ แจ้งให้เกษตรกรที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร และเกษตรกรรายใหม่ เพื่อลุ้นรับเงินเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรช่วงโควิด-19 ครัวเรือนละ 15,000 บาท รีบดำเนินการภายในวันที่ 15 พ.ค.นี้ โดยมียอดเกษตรกรสะสมทั้งหมด 247,068 ครัวเรือน
วันที่ 14 พ.ค. 63 นายวันรบ เฮ่ประโคน เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า จากการติดตามการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกรจังหวัดบุรีรัมย์ ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ครัวเรือนละ 15,000 บาท ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทั้ง 23 อำเภอ จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่ามีเกษตรกรเดินทางไปยื่นเอกสารปรับปรุงข้อมูลทะเบียนเกษตรกร และขึ้นทะเบียนเกษตรกรรายใหม่กันอย่างต่อเนื่อง
นายวันรบ กล่าวว่า จังหวัดบุรีรัมย์ได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ตั้งแต่ ปี 2552 และ ปรับปรุงมาถึงปัจจุบัน โดยมียอดเกษตรกรสะสมทั้งหมด 247,068 ครัวเรือน แบ่งเป็น กลุ่มเป้าหมายที่ 1 ได้แก่ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ปี 2562/63 เจ้าหน้าที่ได้พิมพ์รายชื่อเกษตรกรไปติดประกาศในหมู่บ้านชุมชน จำนวน 217,115 ครัวเรือน ซึ่งเกษตรกรกลุ่มนี้ จะเป็นกลุ่มเป้าหมายแรกที่จะส่งรายชื่อไปคัดกรอง ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
“กลุ่มเป้าหมายที่ 2 ได้แก่ เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้แล้วก่อนปี 2562 แต่ไม่ได้มาปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร รวมถึงเกษตรกรรายใหม่ที่กำลังเพาะปลูกพืช ให้นำเอกสารที่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านรับรองว่ามีการทำเกษตรจริง ไปแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ภายในวันที่ 15 พ.ค. 2563 ที่สำนักงานเกษตรอำเภอนั้น ๆ ซึ่งสำนักงานเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประชาสัมพันธ์ และมอบเอกสารแบบคำร้องทะเบียนเกษตรกรฯ ผ่านไปยังสำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอ กำนันทุกตำบล ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านไปแล้วก่อนหน้านี้ และจากนั้น วันที่ 16 พ.ค.2563 สำนักงานเกษตรจังหวัดจะรวบรวมรายชื่อเกษตรกรไปคัดกรอง ตรวจสอบสิทธิ์การเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือเกษตรกรฯ ต่อไป” เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าว และว่า
“นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มเป้าหมายที่ 3 ซึ่งจากการดำเนินงานยังพบว่า ยังมีเกษตรกรรายใหม่บางส่วน ที่ยังไม่ได้เพาะปลูก ในรอบปีการผลิต 2563/64 แต่คาดว่าจะทำการเกษตร ทำการเพาะปลูก ภายในวันที่ 30 มิ.ย. 2563 ก็สามารถไปขอขึ้นทะเบียนและเกษตรกรที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ไว้ล่วงหน้าได้ ภายในวันที่ 15 พ.ค. 2563 เช่นกัน โดยหลังจากนั้น เกษตรกรต้องทำการเพาะปลูกอย่างน้อย 15 วัน และให้ไปแจ้งยืนยันทำการเพาะปลูกอีกครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการบันทึกและตรวจสอบตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 22 ก.ค.63” นายวันรบ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี