“บิ๊กสพฐ.”ลุยดูเรียนผ่านทีวีวันแรก เจอนร.นนทบุรีบ้านไร้ทีวี-มือถือ ประสานชุมชนช่วย ย้ำผู้ปกครองไม่ต้องซื้ออุปกรณ์ หากไม่มีให้บอกโรงเรียน มั่นใจ 1 ก.ค.เปิดเรียนปกติที่โรงเรียนได้
18 พฤษภาคม 2563 นายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) พร้อมคณะผู้บริหารเดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานการเรียนการสอนด้วยการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) ตามแนวทางการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ในสถานการณ์โควิด-19 และเยี่ยมบ้านนักเรียนของโรงเรียนวัดบางไกรนอก (แย้มพร้อมอุปถัมภ์) อ.บางกรวย จ.นนทบุรี โดยมีนายนพพร มากคงแก้ว ผู้อำนวยกาสำนักงานเขตขึ้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 1 กล่าวรายงานการดำเนินงาน และนางสาลินี สุขศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางไกรนอก (แย้มพร้อมอุปถัมภ์) กล่าวสรุปเกี่ยวกับการดำเนินงาน
นายอำนาจ กล่าวว่า เป็นวันแรกของการตรวจสอบการเรียนความพร้อมการจัดการเรียนการสอน เพื่อประเมินระบบที่วางไว้ ทั้งการออนแอร์ ออนไลน์ และออนไซต์ หรือการเรียนที่โรงเรียน เพื่อดูว่ามีปัญหาอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นบ้าง เพื่อไปสู่การจัดการเรียนการสอนในช่วงเปิดเทอมในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้
ส่วนที่โรงเรียนวัดบางไกรนอก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต1 ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดกลาง มีนักเรียน 185 คน ทราบว่านักเรียนส่วนใหญ่มีทีวีดูสามารถเรียนได้ แต่มีนักเรียนอยู่ 20 คน ที่มีความพร้อมน้อย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเด็กต่างด้าว ปัญหาคือโรงเรียนส่งข้อความไปในกลุ่มไลน์ของผู้ปกครองจะอ่านภาษาไทยไม่ออก ครูจึงเดินทางไปบ้านนักเรียนเพื่อไปทำความเข้าใจถึงการเรียนการสอนผ่านทีวี
นอกจากนี้มีเด็กอีกจำนวน 2 คน ที่บ้านไม่มีทีวี และอีกคนไม่มีโทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้เรียนได้ ทางโรงเรียนจึงได้ประสานกับผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ให้นักเรียนชั้น ป.5 และชั้น ป.6 ไปนั่งดูทีวีเรียนที่บ้านผู้ใหญ่ และมีข้าวมีขนมให้กินฟรีด้วย ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียนและผู้นำชุมชน ได้ร่วมกันดูแลนักเรียนเป็นอย่างดี มีการเข้าไปวางระบบและให้คำแนะนำเด็ก ผู้ปกครองแต่ละระดับชั้นว่าจะต้องเปิดดูทีวีช่องไหนดู
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นการทดสอบการเรียนการสอนก่อนเปิดภาคเรียน โดยให้โรงเรียนสำรวจความพร้อมของผู้ปกครองว่านักเรียนทุกคนมีความพร้อมหรือไม่ และเตรียมใบงานไปให้ มีไปเยี่ยมบ้านนักเรียน และในส่วนของโรงเรียนเองก็มีความเข้าใจถึงการเรียนทางไกลจากมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียมฯ(DLTV) จากวังไกลกังวลฯ ผ่านทีวีดิจิตอล ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 1-ม.6 โดยมีเนื้อหาตามหลักสูตร
“เราไม่มีนโยบายให้ผู้ปกครองต้องเสียเงินซื้อทีวีใหม่ หรือซื้อโทรศัพท์ใหม่ หากบ้านใดมีคอมพิวเตอร์ก็สามารถเข้าเว็บไซต์เรียนได้เช่นกัน และถ้ายังมีปัญหาก็ให้มาบอกทางโรงเรียนเพื่อให้โรงเรียนเปิดทีวีดูได้ ทางโรงเรียนจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่” เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
เลขาธิการ กพฐ. กล่าวอีกว่า วันนี้ตนได้ให้นโยบายโรงเรียน ว่า หากหมู่บ้านใด หรือประชาชน และผู้ปกครองที่มีเวลาไม่มาก หรือเด็กไม่มีอุปกรณ์ ก็ให้เด็กมาเรียนออนแอร์ที่โรงเรียนได้ เพื่อแก้ไขปัญหา และหากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ต่ำกว่า 10 ราย และ ศบค.คณะใหญ่ พิจารณาแล้วว่าให้เปิดเรียนที่โรงเรียนได้ และ ศบค.จังหวัดพิจารณาว่าพื้นนี้เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยก็เปิดเรียนปกติที่โรงเรียนได้ ซึ่งขณะนี้ 59 จังหวัด ใน 28 วันไม่มีการแพร่ระบาดของโรค หากเป็นเช่นนี้ คิดว่าในวันที่ 1 กรกฎาคม ก็น่าจะเปิดเรียนปกติที่โรงเรียนได้เลย การสอนออนแอร์ ออนไลน์จะเป็นตัวช่วยและคุณครูใช้เป็นสื่อสอนเพิ่มเติม
ส่วนพื้นที่ในกรุงเทพฯผู้ปกครองยังมีความกังวลใจ ห่วงลูกติดเชื้อ เพราะขณะนี้ต่างประเทศเด็กเล็กติดเชื้อคาวาซากิ ซึ่งอาจจะมาจากไวรัสโควิส-19 ดังนั้นการเรียนในกรุงเทพฯ อาจจะใช้แบบผสม และให้ลดจำนวนนักเรียนต่อห้องลง และเรียนอยู่ที่บ้านบ้าง ดังนั้น นักเรียนสามารถแปลงรูปแบบการเรียนได้ตามความพร้อม ส่วนบางพื้นที่ที่ ศบค.จังหวัดอนุญาตก็เปิดเรียนได้ตามความพร้อม
นายอำนาจ ระบุว่า วันแรกของการทดลองเรียนผ่านทีวี เด็กคงไม่ได้รับความรู้ 100% ต้องมีปัญหาบ้างอย่างแน่นอน แต่เราต้องการดูระบบว่าสอดคล้องอย่างไร ถ้าเด็กได้รับการพัฒนาและมีองค์ความรู้จากระบบที่เรียนนี้แล้ว เมื่อถึงเวลาเปิดเทอมในวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ เด็กจะไปได้เร็วมากขึ้น หากวันนี้เราไม่ทำอะไรเลย เปิดภาคเรียนช่วงนี้เด็กก็ไปเรียนไม่ได้อยู่แล้ว ขบวนการเรียนรู้เด็กก็จะหายไป ซึ่งโรงเรียนหยุดได้ แต่การเรียนรู้เด็กหยุดไม่ได้ตามที่ รมว.ศึกษาธิการ ให้นโยบายไว้ หากวันที่ 1 กรกฎาคม นี้ เปิดเทอม สถานการณ์โควิด-19 รุนแรงหนักขึ้นอีก เราก็ยังมีตัวช่วย แต่ถ้าเราไม่เตรียมความพร้อมนี้ไว้ เชื้อมั่นว่าวันที่ 1 กรกฎาคม จะวุ่นวายมาก จะไม่มีที่เรียนและจะไม่มีระบบรองรับการศึกษาไทยเลย
นอกจากนี้ในวันนี้เรายังได้นวัตกรรมใหม่ คือ คุณครูเข้าใจและเรียนรู้คำว่า DLTV และรู้แหล่งเรียนรู้ รู้เรื่องออนไลน์และการสื่อสารกับผู้ปกครอง ผู้ปกครองรู้เรื่องการเรียนออนไลน์ และการสื่อสารกับครู ที่สำคัญเด็กเรียนรู้ทางออนไลน์ได้ เป็นการวิจัยภาคสนาม ที่มีการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างตัวนักเรียน ครู โรงเรียน ร่วมถึงผู้ปกครอง ฉะนั้น วันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นในปฏิรูปการศึกษารูปแบบใหม่ ที่จะทำให้ทุกคนเข้าสู่การศึกษาได้อย่างแท้จริง
นายอำนาจ กล่าวอีกว่า ส่วนกลางวางการทำงานไว้ 3 ระยะ โดยระยะที่ 1 ในวันที่ 30 พฤษภาคม นี้ จะประเมินความพร้อมของอุปกรณ์ ความพร้อมของคุณครู และความพร้อมของผู้ปกครองและนักเรียน รวมถึงการบริหารจัดการของส่วนกลางคือเขตพื้นที่การศึกษา และ สพฐ.ว่ามีความสอดคล้องและส่งผลต่อกันได้อย่างไรบ้าง หากมีปัญหาอุปสรรคอะไรก็จะพัฒนาแก้ไขปรับปรุงให้เกิดความสมบูรณ์เพื่อให้การจัดการเรียนการทั้งรูปแบบออน์แอร์ ออนไลน์ และออนไซต์ ให้สามารถส่งผลพัฒนาคุณภาพการศึกษาของผู้เรียนได้อย่างเต็มที่
จากนั้น นายอำนาจ และคณะผู้บริหาร และครูโรงเรียนวัดบางไกรนอก ได้นั่งเรือหางยาวเดินทางไปเยี่ยมบ้าน ด.ญ.พีชญา อ้นจิน นักเรียนชั้น ป.4 และ ด.ช.ชญานนท์ อ้นจิน ซึ่งบ้านตั้งอยู่ริมคลองบางกอกน้อยเพื่อไปสอบถึงการเรียนผ่านทีวีว่ามีปัญหาอุปสรรค์อะไรบ้าง โดยนักเรียนทั้ง 2 คนบ้านค่อนข้างมีความพร้อมเพราะมีทีวี 2 เครื่อง และมีพ่อแม่อยู่ให้คำแนะนำ
ด.ช.ชญานนท์ อ้นจิน กล่าวว่า ตนจบชั้น ป.6 แล้ว กำลังจะได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเทพศิรินทร์นนทบุรี และได้เรียนผ่านทีวีอยู่ที่บ้าน โดยมีบิดา-มารดา คอยให้คำแนะนำการเรียนวันแรก การเรียนก็เข้าใจที่ครูสอน แต่ถ้าไม่เข้าใจก็ถามแม่ ซึ่งการเรียนที่บ้านผ่านทีวีนั้นดี แต่จะเหงาเพราะไม่ได้เจอเพื่อนๆ แต่ถ้าเรียนที่โรงเรียนก็จะได้พบเพื่อนและได้ทำกิจกรรม
จากนั้นนายอำนาจ ได้เดินทางไปเยี่ยมเด็กชายนักเรียนชั้น ป.5 บิดาเป็นอัมพาต และเยี่ยมนักเรียนชั้น ป.6 ซึ่งพ่อมีอาชีพ รปภ. ส่วนแม่เป็นชาวกัมพูชา โดยเด็กทั้ง 2 คนไม่มีอุปกรณ์ที่จะใช้เรียน ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี จึงได้อุปการะให้มาดูทีวีที่บ้าน และใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตฟรี และเลี้ยงข้าวขนมในช่วงที่มีเรียนด้วย
ด้านนางสาลินี สุขสิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดบางไกรนอก (แย้มพร้อมอุปถัมภ์) กล่าวว่า โรงเรียนมีนักเรียน 185 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา 20 คน โดยทางโรงเรียนได้เตรียมความพร้อมของครูในการปรับตัวกับการสอนและคอยให้คำแนะนำผู้ปกครองและนักเรียนในการเตรียมสื่ออุปกรณ์การเรียนผ่านทีวีและโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่มีความพร้อมมีเด็กจำนวน 20 คนที่ไม่มีอุปกรณ์และบางคนลูกคนต่างด้าวทางโรงเรียนก็ประสานกับชุมชนและผู้ใหญ่บ้านก็ได้รับความร่วมมือจนทำให้เด็กๆได้เรียนกันทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี