วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.๑ บก.ป., พ.ต.ท.พิเชฐ จันทร์ขำ, พ.ต.ท.ศราวุธ จันต๊ะวงค์, พ.ต.ท.ภัทรพล ปัทมวงศ์, พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว, พ.ต.ท.ก่อเกียรติ วุฒิจำนงค์ รอง ผกก.1 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.กฤษณะ เชิงยุทธ์ สว.กก.สนับสนุน ปรท.สว.กก.1 บก.ป., ว่าที่ ร.ต.อ.ธีรพงศ์ ตาบัวตูม รรท.รอง สว.(สอบสวน) กก.2 ปรก.รอง สว.กก.๑ บก.ป., ร.ต.ท.รัฐชิน เจริญรัมย์ รรท.รอง สว.กก.1 บก.ป., ด.ต.จิรภัทร ยิ่งยง, ส.ต.อ.เดชฤทธิ์ สงวนพรรค, ส.ต.อ.อำนาจ กลิ่นขจร, ส.ต.อ.ไตรภพ จันทนุปาน, ส.ต.อ.จิรายุ สิงห์ป้อง, ส.ต.อ.นคร สาครสุคนธ์, ส.ต.ท.หัสนัย สาธรสุทธิ์, ส.ต.ท.ณัฐชนน คนชม, ส.ต.ท.กิตติพงษ์ พ่วงแม่กลอง, ส.ต.ท.ฐิติพล ศรีเมืองช้าง ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป.
ได้ร่วมจับกุมตัว น.ส.นารี (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี ที่ 54/2555 ลงวันที่ 28 ธันวาคม ๒555 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ความผิดต่อ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง, พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (เนื่องจากจำเลยไม่มาศาลในวันนัด โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง แสดงว่ามีพฤติการณ์จงใจหลบหนี)
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 63/2 ถ.ศรีสรรเพชญ์ ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ๒๕๖3 เวลาประมาณ 19.00 น.
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2542 ขณะที่ผู้ต้องหาอายุประมาณ 16 ปี ผู้ต้องหาได้เดินทางไปเที่ยวกับเพื่อนที่ประเทศลาว ด้วยการโดยสารเรือข้ามฝั่งแบบไป-กลับ (เป็นท่าเรือของชาวบ้านที่ลักลอบทำแบบผิดกฎหมาย) โดยในขณะเดินทางกลับเข้ามายังประเทศไทย มีผู้โดยสารรวมกับผู้ต้องหาด้วยจำนวน ๔ คน เมื่อข้ามฝั่งมาถึงประเทศไทยแล้ว ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวและได้ทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบว่า มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย หลังจากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย และภายหลังที่คดีถึงชั้นพิจารณาคดีของศาล ผู้ต้องหาไม่ได้แจ้งเหตุขัดข้องและไม่เดินทางไปยังศาลตามนัด จึงมีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหา
จนกระทั่ง วันที่ 20 พ.ค. 63 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ประกอบอาชีพขายส้มตำอยู่ในร้านส้มตำแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้วางแผนและลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหาจึงได้แสดงตนและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาอ่านดูจนเป็นที่พอใจ แล้วจึงควบคุมตัวส่งศาลศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อดำเนินการต่อไป
จากการสอบถาม ผู้ต้องหาให้การว่า ตามวันเวลานัดหมายของศาล พี่ชายของผู้ต้องหา ได้บอกกับตนว่าจะพาไปศาลเพื่อฟังคำพิพากษา แต่ต่อมาพี่ชายของตนได้แจ้งให้ทราบว่าศาลมีคำสั่งยกฟ้อง ตนจึงไม่ได้ไปฟังคำพิพากษาตามกระบวนการแต่อย่างใด จากนั้นจึงได้ดำเนินชีวิตตามปกติเพราะคิดว่าทางคดีเสร็จสิ้นแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี