วันอังคาร ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
สมช.เสนอศบค.ชี้ขาด  ต่อพรก.1เดือน  ยืนยันจำเป็นใช้คุมโควิด  ถกปรับเคอร์ฟิว27พค.

สมช.เสนอศบค.ชี้ขาด ต่อพรก.1เดือน ยืนยันจำเป็นใช้คุมโควิด ถกปรับเคอร์ฟิว27พค.

วันศุกร์ ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 06.00 น.
Tag :
  •  

สมช.เสนอศบค.ชี้ขาด

ต่อพรก.1เดือน

ยืนยันจำเป็นใช้คุมโควิด

ถกปรับเคอร์ฟิว27พค.

ไทยติดเชื้อเพิ่ม3ราย

ไปร้านตัดผม-เดินห้าง

สธ.เร่งค้นหาผู้สัมผัส

 

มติสมช.ต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 1 เดือน มุ่งสกัดโควิด-19 ระบาดล้วนๆ ไม่เกี่ยวการเมือง แจงซ้ำเพื่อรองรับคลายล็อกเฟส 3-4 ที่ต้องทำอย่างระวัง เพราะถ้าระบาดระลอก 2 หนักกว่าเดิม เตรียมเสนอให้ศบค.พิจารณา 22 พฤษภาคม ก่อนชงเข้าครม.สัปดาห์หน้า จ่อถกกรอบเวลาเคอร์ฟิว 27 พฤษภาคม ย้ำยังจำเป็นช่วยคุมการแพร่เชื้อได้ดี ด้านโฆษก ศบค.
แถลงพบป่วยใหม่ 3 ราย ไปร้านตัดผม-รพ.-เดินห้างและในที่กักตัวของรัฐ เร่งสอบสวนโรคหาผู้สัมผัส ปิ๊งไอเดียดึงรพ.
6 ดาว-รพ.ชั้นดี ทำสถานที่กักตัวทางเลือกใหม่ สำหรับคนกลับจากตปท.


ที่ต้องการกักตัวแบบสะดวกสบาย ยันลงทะเบียน’ไทยชนะ’ไม่ล้วงข้อมูลส่วนตัว มุ่งควบคุมโรคทันเวลา

เมื่อวันที่ 21พฤษภาคม พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยหลังเป็นประธานประชุมส่วนราชการ เพื่อประเมินความเหมาะสมในการขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อแก้ปัญหาแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด – 19 ว่า ในการประชุมได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคง ข่าวกรอง สาธารณสุข รวมถึงหน่วยงานอื่นมาหารือ โดยพยายามชั่งน้ำหนักทุกมิติ ความมั่นคงเป็นแกนหลัก แต่เห็นความสำคัญด้านสาธารณสุขเป็นหลักเช่นกัน นั่นคือแนวคิดที่ทำมาตั้งแต่ต้น ให้ความสำคัญเรื่องนี้สำคัญที่สุด

สมช.ชงต่อพรก.ฉุกเฉิน1เดือน

ทั้งนี้ ปัจจุบันดูเหมือนสถานการณ์ดีขึ้น แต่สถานการณ์โลกยังน่าเป็นห่วง มีตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน ไทยเองแม้จะประสบความสำเร็จในการควบคุมโรค แต่ต้องระวังอย่างยิ่ง การผ่อนคลายต้องทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ต้องการให้เกิดติดเชื้อระลอกสอง ด้วยเหตุผลความจำเป็น ทุกหน่วยจึงเห็นพ้องต้องกันให้ขยายประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯอีก 1 เดือน เพื่อให้ครอบคลุมระยะเวลาเดือนมิถุนายนทั้งเดือน โดยจะเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือศบค.พิจารณาวันที่ 22 พฤษภาคม ถ้าเห็นด้วยจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาสัปดาห์หน้า

ชี้ยังจำเป็นต้องใช้ช่วงผ่อนเฟส3-4

พล.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถือเป็นเจตนารมณ์ตั้งแต่แรกที่เราต้องการเอาเครื่องมือทั้งหลายหรือกฎหมายหลายฉบับมารวมไว้ที่เดียวกัน จะเห็นว่าเมื่อประกาศใช้ เราตั้งศบค.และใช้กฎหมาย 40 ฉบับอยู่ภายใต้กำกับนายกรัฐมนตรี ทำให้การสั่งการเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเป็นเอกภาพ ส่วนสาเหตุต้องต่ออีก 1 เดือน เพราะในเดือนมิถุนายน เป็นช่วงการผ่อนคลายระยะที่ 3 และ 4 ต้องยอมรับว่าการผ่อนคลายทุกระยะมีความเสี่ยงทุกขณะ ถ้าผ่อนคลายอย่างไม่ระมัดระวังการแพร่ระบาดอาจจะกลับมาอีกและหนักกว่าเดิม เราจึงเห็นว่าการมีเครื่องมือกำกับดูแลอย่าง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือเป็นการกำหนดตัวที่ดีอยู่แล้ว

ยันไม่เกี่ยวการเมือง-มุ่งคุมโควิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า บางฝ่ายมองการต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเคลื่อนไหวทางการเมือง พล.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า ตั้งแต่วันแรกที่นายกรัฐมนตรีตัดสินใจใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด เราไม่เคยคำนึงถึงเรื่องการเมืองเลย จนถึงวินาทีนี้ในฐานะที่ตนร่วมแก้ปัญหานี้มาตั้งแต่ต้นกล้ารับประกันว่า เราไม่ได้เอาเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง การใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังคงใช้เพื่อป้องกันการแพร่ะระบาดของโควิด ไม่มีนัยยะทางการเมือง อาจจะมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหว ของคนบางกลุ่ม แต่ทั้งหมดนี้เพื่อให้เกิดผลทางด้านสาธารณสุขเป็นสำคัญ

ถกเคอร์ฟิว27พค.คุมระบาดได้ดี

ส่วนการตัดสินใจเกี่ยวกับการมาตรการเคอร์ฟิว พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้คุยกันเรื่อง พ.ร.ก. ฉุกเฉินอย่างเดียว แต่เรื่องผ่อนคลายระยะที่ 3 จะพูดถึงเรื่องเคอร์ฟิวด้วย จะประชุมอีกครั้งวันที่ 27 พฤษภาคม ตนเข้าใจว่าเรื่องนี้กระทบชีวิตประชาชน อาจผ่อนคลายระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะปรับเหลือระยะเวลาเท่าไร

“ทั้งนี้ มาตรการเคอร์ฟิว ทำให้การควบคุมการแพร่ระบาดดีขึ้น จำกัดความเคลื่อนไหวของคนบางประเภทที่ไม่ยอมใช้ชีวิตแบบสมถะ และทำให้การอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ทำได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องดูอีกครั้งว่าการผ่อนคลายระยะที่ 3 อาจพิจารณาให้ห้วงเวลาลดน้อยลงหรือเท่าเดิม ขึ้นอยู่กับเหตุผลความจำเป็น”พล.อ.สมศักดิ์กล่าว

ก่อนเปิดเรียนวางมาตรการเข้ม

ส่วนมาตรการผ่อนคลายเกี่ยวกับโรงเรียนนั้น เลขาฯสมช.กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วว่าจะเปิดเทอมวันที่ 1 กรกฎาคม ดังนั้น เดือนมิถุนายนจะคุยกันมากขึ้น เพื่อกำหนดมาตรการต่างๆ เพราะสถานการณ์ในต่างประเทศ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ และฝรั่งเศส หลังเปิดโรงเรียนแล้วทำให้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนั้น ดังนั้น ก่อนเปิดเรียนต้องคุยกันเข้มข้นว่าจะเปิดลักษณะไหน แต่เท่าที่ฟังรมว.ศึกษาธิการ การเปิดเทอมยังอยู่ที่วันที่ 1 กรกฎาคมและจะยึดถือกำหนดนั้นต่อไป แต่ถ้าจะเปิดเทอมก่อนหน้านั้น ต้องมาคุยกันว่ามาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และ สมช.แจะดำเนินการอย่างไร

ส่วนการพิจารณากรอบเวลาเปิดสนามบินนั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เป็นเรื่องพิจารณาของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นมาตรการสอดคล้องกับมาตรการภาพรวม

ติดเชื้อ3ไปตัดผม-เดินห้าง-ที่กักตัว

ต่อมานพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดในประเทศไทยว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,037 ราย หายป่วยสะสม 2,897 ราย เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 56 ราย รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 84 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่ 3 รายอยู่ใน กทม. 2 ราย สถานที่กักกันของรัฐ 1 ราย ซึ่งผู้ป่วยรายแรก เป็นชายไทยอายุ 72 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวาน มะเร็งปอด มีประวัติรักษาตัวที่โรงพยาบาลของรัฐในกทม.เมื่อ 4 วันก่อน และมีประวัติไปตัดผมที่ร้านย่านประชาชื่น ต่อมาวันที่ 18 พฤษภาคมพบมีไข้ ไอ และมีเสมหะ จึงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน ก่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลของรัฐ และวันที่ 20 พฤษภาคมตรวจพบเชื้อโควิด-19 ฉะนั้นจะเห็นว่ามีการไปโรงพยาบาล ซึ่งมีความเสี่ยง รวมถึงไปร้านตัดผมสองแห่งจึงเป็นพื้นที่ที่มีปัจจัย เสี่ยงสำหรับรายนี้

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า รายที่ 2 เป็นชายอายุ 42 ปี สัญชาติเยอรมัน ไม่มีโรคประจำตัว ไม่แสดงอาการ แต่พบว่ามีประวัติไปเยี่ยมญาติที่จ.ชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน-16 พฤษภาคมโดยอาศัยอยู่ประมาณครึ่งเดือน ซึ่งวันที่ 8 พฤษภาคมพบว่า มีญาติ 1 คนมีอาการไข้ ไอ และคอแห้ง แต่ไม่ไปรักษา ขณะเดียวกันยังพบว่าชายคนดังกล่าวเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าจ.ชัยภูมิ หลังกลับมาได้ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานวันที่ 18 พฤษภาคม ผลตรวจเชื้อพบติดเชื้อโควิด-19 เข้ารับรักษาโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งสงสัยว่าที่จ.ชัยภูมิอาจเป็นส่วนหนึ่งที่เกิดปัจจัยเสี่ยง ทำให้ชายคนดังกล่าวติดเชื้อมา

ดังนั้น มาตรการผ่อนคลายทั้งหลายยังจำเป็น หากไปห้างสรรพสินค้า ไปร้านตัดผม หรือไปทำอะไรก็แล้วแต่ เกิดขึ้นในช่วงที่มีแพลตฟอร์มไทยชนะ แล้วหรือยัง ถ้ามีแล้ว ไปลงทะเบียนแล้ว ทำให้เกิดประโยชน์ สามารถติดตามตัวกลุ่มเสี่ยงได้ง่ายขึ้น ส่วนรายที่ 3 เป็นผู้หญิงอายุ 25 ปี เดินทางกลับจากเรียนภาษาที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม และเข้าสถานกักกันตัวของรัฐ และมาตรวจพบเชื่อ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมแต่ไม่มีอาการใดๆ

เล็งผุดรร.-รพ.ชั้นนำกักตัวแบบใหม่

นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้หารือเรื่องสถานที่กักกันตัวของรัฐแล้ว จะมีอีกศัพท์หนึ่ง ที่เรียกว่า ออลเทอร์นาทิฟ สเตท ควอรันทีน เป็นสถานที่กักกันตัวทางเลือก เนื่องจากรัฐอนุญาตให้ต่างชาติเดินทางเข้ามา เช่น เจ้าของธุรกิจใหญ่ ที่มีใบอนุญาตให้เข้าที่ทำงานในประเทศไทย เจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ซึ่งนักธุรกิจเมื่อเข้ามาแล้ว ไม่อนุญาตให้เข้าที่ทำงานเลย แต่ให้เข้าสถานที่ที่รัฐจัดให้ แต่เขามีเงินและขอสถานที่กักกันตัวแบบดีขึ้นมาหน่อย เช่น โรงแรมชั้นดี และโรงพยาบาลชั้นดี และขอจ่ายเงินเอง

“ศบค.ทดลองทำระบบดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว โดยให้โรงพยาบาลและโรงแรมของเอกชนจับมือกัน และมีกระทรวงสาธารณสุขไปดูแลระบบ เมื่อครบ 14 วัน มีบุคลากรทางการแพทย์เข้าไปตรวจและออกใบรับรองแพทย์ให้ สามารถกลับไปทำงานได้ ปรากฎว่า มีผู้นิยมใช้บริการลักษณะนี้จำนวนมาก และไอเดียนี้จะมีการพัฒนาต่อไป ถ้าหมดพ.ร.ก. ฉุกเฉิน หากมีคนเดินทางเข้าประเทศ และสถานการณ์การติดเชื้อโควิดยังพุ่งขึ้นอยู่ ภาครัฐคงอุ้มอย่างเดียวไม่ไหว การจะมารับรองเหมือนเดิมคงไม่เกิดภาพนั้นแล้ว ถ้าเดินทางเข้ามาอาจให้เลือก ตั้งแต่โรงแรม 6 ดาว เป็นต้นร่วมกับโรงพยาบาล ที่จะมาจับคู่กัน ฉะนั้นโรงแรมและโรงพยาบาลที่สนใจดูแลคนกลับจากต่างประเทศ ก็ถือเป็นโอกาส หากยังมีการแพร่ระบาดของโรค หรืออาจมีนักท่องเที่ยวอยากเดินทางเข้าประเทศไทย”โฆษก ศบค.กล่าว

ร้านอาหาร-เสริมสวยตกเกณฑ์

และว่า สำหรับตัวเลขการลงทะเบียนเว็บไซต์ www.ไทยชนะ.com เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 20 พฤษภาคม มีร้านค้าลงทะเบียน 73,295 ร้าน จำนวนผู้ใช้งาน 6,333,746 คน ส่วนผลตรวจกิจการ/กิจกรรม ประจำวันที่ 21 พฤษภาคม ตรวจทั้งสิ้น 21,697 กิจการ/กิจกรรม พบผู้ที่ปฏิบัติตามมาตรการแต่ไม่ครบ มี 31 กิจการ/กิจกรรม ซึ่งสูงสุดเป็นเรื่องเว้นระยะห่าง ขณะที่สายด่วนศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) พบว่า มีเรื่องร้องเรียนการไม่ปฏิบัติตามมาตรการผ่อนคลายวันที่ 21 พฤษภาคม มีเรื่องร้องเรียนทั้งหมด 84 เรื่อง สูงสุดเป็นร้านอาหาร 58% รองลงมาร้านเสริมสวย 23%

ยันไทยชนะไม่ล้วงข้อมูลส่วนตัว

โฆษก ศบค.ยังชี้แจงเรื่องการลงทะเบียนเว็บไซต์ไทยชนะว่าไม่มีการล้วงข้อมูลส่วนตัว ไม่ไปตามเรื่องการเงิน จึงอยากให้ประชาชนร่วมมือ พร้อมยกตัวอย่างผู้ป่วยใหม่ 2 ราย ถ้าใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ ก็สามารถติดตามตัวได้ง่าย จากคนที่เข้าไปสแกนเช็คอิน เช็กเอาท์ เมื่อพบจะเชิญตัวมาตรวจโรคโดยเร็ว รวมถึงประหยัดงบประมาณและเวลา ควบคุมโรคได้ทัน ไม่ใช่จะไปดูธุรกิจการค้า การใช้จ่าย ไม่มีตัวเลขเงินอะไรในฐานข้อมูลให้เราได้รับรู้ ไม่ต้องกังวลใจ สิ่งที่เราต้องการคือความปลอดภัยและควบคุมโรคโดยเร็ว หากไม่ใช้แพลตฟอร์มไทยชนะต้องใช้ทีมสอบสวนโรคเข้า ทำให้หาตัวค่อนข้างยาก

แนะร้านนวดคิดวิธีสกัดระบาดเสนอมา

ผู้สื่อข่าวถามถึงกลุ่มผู้ประกอบการร้านนวด เตรียมเปิดให้บริการวันที่ 31 พฤษภาคมนี้ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เห็นใจมากๆ ร้านนวดเป็นหนึ่งในอีกหลายกิจการรอผ่อนปรนระยะที่ 3 หรือต่อไป ตนยังไม่สามารถให้คำตอบได้ทั้งหมด ถ้-าตัวเลขต่างๆดีจะเกิดขึ้นได้ ถ้าพรุ่งนี้ หรืออีก 9 วันข้างหน้าเราการ์ดตก ตัวเลขเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ ก็จะไม่ใช่ภาพนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นผู้ประกอบการร้านนวด ถ้าอยากจะเปิดในระยะที่ 3 ขอให้ใช้ระยะเวลา 9 วันนี้ อาจจะต้องคิดภาพใหญ่ให้ละเอียดกว่ารัฐบาลคิด เพื่อดูแลคนของท่าน หากมีข้ออเสนอมาถึงศบค.ว่าหากเปิดแล้วมั่นใจว่าไม่ทำให้เกิดการระบาดจากธุรกิจของท่าน นี่คือการบ้านที่ต้องไปทำ ต้องเตรียมตัวให้พร้อม ถ้ามีใครมาตรวจต้องผ่านตามมาตรการที่รัฐกำหนด

ชะลอเปิดรร.เด็กกลุ่มเปราะบาง

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเปิดห้างสรรพสินค้าได้ แต่เปิดโรงเรียนไม่ได้ นพ.ทวีศิลป์ชี้แจงว่า การศึกษาจำเป็น แต่กลุ่มนักเรียนเปราะบางและเสี่ยงติดเชื้อ หากมีการแพร่ระบาด เพราะโดยลักษณะนิสัยของเด็กชอบเล่นสัมผัสกัน มีการติดเชื้อได้บ่อย รวมถึงเป็นฤดูฝน เป็นห่วงเรื่องการระบาดไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเด็ก ซึ่งเด็กมีโอกาสติดเชื้อ ถ้ามีบางคนเอาเชื้อมาติดเด็ก หรือเด็กเอาเชื้อกลับไปติดผู้สูงอายุคนที่บ้าน ก็จะทำให้เกิดการระบาด ฉะนั้น มาตรการที่ผ่อนปรน คณะกรรมการวิชาการ ศึกษาข้อมูลอย่างดี จุดที่มีความเสี่ยง เราอาจชะลอเปิด ไม่ใช่ไม่เปิด แค่ชะลอ เมื่อมั่นใจก็จะเปิด อย่างไรก็ตาม ห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่เดินทางไปซื้อของ มีมาตรการต่างๆที่ผู้ประกอบการดูแลอยู่

หมอยงแนะรร.-นร.ปรับตัววิถีใหม่

มีความเห็นจาก ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กระบุ โควิด-19 เราต้องอยู่ด้วยกันได้ถึงแม้ว่า ขณะนี้ประเทศไทยติดเชื้อน้อยมาก จะพบติดเชื้อ ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ มาตรการควบคุมทำได้ดีมาก แต่ยังมีโรคนี้ระบาดอยู่ทั่วโลก มีผู้ป่วยใหม่วันละเป็นแสนคน จึงยากที่จะกวาดล้างไวรัสนี้ให้หมดไป ทุกคนจึงจำเป็นที่ต้องปรับตัว ให้เข้ากับวิถีชีวิตใหม่ พร้อมเสนอแนะเรื่องการเรียนการสอนที่จะเปิดเทอมวันที่ 1 กรกฏาคมว่า การระบาดระลอก 2 ถ้าเกิดในหน้าฝน อย่างไข้หวัดใหญ่ ก็ยากควบคุม ต้องเริ่มต้นปิดบ้านปิดเมืองใหม่ หรือ ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น การเรียนการสอนปีนี้ จึงต้องอยู่ในวิถีชีวิตใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดของโรคได้ เด็กนักเรียนต้องเรียนได้ทั้งที่บ้าน และ ที่โรงเรียน การเรียนการสอน ไม่ควรยกให้เป็นภาระของโรงเรียนเท่านั้น ที่บ้านก็จะต้องมีบทบาท แม้กระทั่งท้องถิ่น ก็มีปราชญ์ชาวบ้านมากมาย ที่พร้อมจะสอนได้

“การประสบความสำเร็จในชีวิตของเด็ก ไม่ได้เกิดจากแข่งขันเข้าเรียน การกวดวิชา โรงเรียนกวดวิชาไม่สามารถกำหนดระยะห่างของบุคคลได้ เด็กเรียนกวดวิชาจ่ายค่าเล่าเรียนแพง แล้วนั่งเรียนกับครูตู้ นั่งติดกัน ก็ไม่เห็นมีใครบ่น คุณครูเองก็ต้องเปลี่ยนวิธีการสอนใหม่ เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส การเรียนเชิงภาคปฏิบัติ ปฏิบัติงานจริง ไปทำได้จริง ถึงอยู่ที่บ้านก็ทำได้ การศึกษาในปีนี้ จึงต้องเตรียมการเรียนการสอนแบบวิถีชีวิตใหม่ ให้เด็กไทยประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ใช่เกิดความเครียดในการเรียน ตั้งแต่เช้าจนเย็น นอกเวลาต้องไปกวดวิชาวิถีชีวิตใหม่ อาจทำให้เด็กมีความสุขมากขึ้นก็ได้”ศ.นพ.ยงกล่าว

สธ.ค้นหาผู้สัมผัสผู้ป่วยโควิด

วันเดียวกัน ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค แถลงถึงสถานการณ์เฝ้าระวังการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย โดย 2 รายเกิดจากการไปชุมชนว่า 2 รายใน 3 ราย น่าสนใจ เพราะเป็นกลุ่มที่ไปในสถานที่ชุมชน โดยรายที่ 1 ชายไทยอายุ 72 ปี เคยไปโรงพยาบาล ซึ่งถือเป็นสถานที่เสี่ยงและไปร้านตัดผม ส่วนอีก 1ราย เป็นชายชาวเยอรมันอายุ 42ปี รายนี้ อยู่กทม.มีภรรยาเป็นคนไทย แต่มีประวัติเดินทางไปจ.ชัยภูมิ เบื้องต้นพบไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.ชัยภูมิ ซึ่งขณะนี้ทั้งสองราย อยู่ระหว่างสอบสวนโรคทั้งสถานที่ที่ไปและคนร่วมบ้าน เพื่อค้นหาผู้สัมผัส ต้องติดตามเก็บตัวอย่างตรวจว่า ยังมีใครบ้างที่มีโอกาสรับเชื้อจากผู้ป่วยคนนี้ อย่างร้านตัดผมก็ไม่น่าจะมีคนใช้บริการรายอื่นอีก เพราะเราห้ามไปนั่งรอที่ร้าน อย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่บอก หากโรงพยาบาลหรือร้านตัดผมลงทะเบียนในระบบไทยชนะ เมื่อเช็คอินเช็คเอ้าท์ จะทำให้ตรวจสอบได้ว่าใครเสี่ยงสูงในห้วงเวลานั้น

เตรียมรับคนไทยกลับ6พันคน

ขณะที่นพ.สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลผู้กักตัว ในสถานที่กักตัวของรัฐรองรับผู้เดินทางจากต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้มีโรงแรม 21 แห่งทั่วประเทศได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานที่กักตัวของรัฐ อยู่ในเขตสุขภาพที่ 6 จำนวน 10 แห่ง คือที่ จ.สมุทรปราการ 3 แห่ง และจ.ชลบุรี 7 แห่ง มีห้องพักรวม 3,811 ห้อง อาทิ อาคารรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา โดยตั้งแต่วันที่ 4 กุมภารพันธ์ถึง 20 พฤษภาคม มีผู้เข้ารับการกักตัวสะสม 4,655 ราย กลับบ้านแล้ว 2,447 ราย เป็นผู้เข้าข่ายสอบสวนโรค 38 ราย ผู้ป่วยยืนยัน 18 และอยู่ระหว่างกักตัว 2,408 ราย

ทั้งนี้ คนไทยทยอยเดินทางกลับจากต่างประเทศวันละ 400 คน จำนวนผู้เข้ากักตัวจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าในเวลา 1 เดือน เขตสุขภาพที่ 6 จะมีผู้มากักตัวกว่า 6,000 คน ซึ่งต้องเก็บสิ่งส่งตรวจจำนวนรวมถึง 12,000 ตัวอย่างต่อเดือน หรือเฉลี่ยวันละ 400 คน จึงจัดเตรียมทีมเก็บสิ่งส่งตรวจไว้วันละ 8 ทีม โดยเขตสุขภาพที่ 6 มีห้องปฏิบัติการตรวจ COVID-19 จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จ.ชลบุรี, รพ.ชลบุรี, รพ.ระยอง, รพ.สมุทรปราการ, รพ.พุทธโสธร, รพ.พระปกเกล้า, รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร และ รพ.สระแก้ว โดยระหว่างวันที่ 21-22 พฤษภาคม จะมีผู้เดินทางกลับจากเวียดนาม ออสเตรเลีย อินเดีย จีน กาตาร์ เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ เข้ารับการกักตัวอีก 800 ราย

กาฬสินธุ์ไม่ใส่หน้ากากปรับ2หมื่น

นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงนามประกาศจังหวัดกาฬสินธุ์ว่า เนื่องจากยังมีประชาชนจำนวนมากไม่สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดฉบับที่ 4 จึงมีประกาศให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกคนในท้องที่ จ.กาฬสินธุ์ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจาเคหะสถาน ผู้ฝ่าฝืนต้องมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท มีผลวันนี้เป็นต้นไป

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สร้างคุณภาพชีวิต! ฉะเชิงเทรามอบอุปกรณ์ช่วยผู้พิการ สานต่อโครงการเฉลิมพระเกียรติ สร้างคุณภาพชีวิต! ฉะเชิงเทรามอบอุปกรณ์ช่วยผู้พิการ สานต่อโครงการเฉลิมพระเกียรติ
  • \'ธรรมศาสตร์\' จับมือ \'อบจ.ปทุมธานี\' ยกระดับคุณภาพชีวิต \'คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ\' 'ธรรมศาสตร์' จับมือ 'อบจ.ปทุมธานี' ยกระดับคุณภาพชีวิต 'คนทำงานดูแลผู้สูงอายุ'
  • จบแล้วใบอนุโมทนาบัตร!! \'สรรพากร\'ร่อนหนังสือสำนักพุทธฯ บริจาควัดต้องผ่านระบบ e-Donation จบแล้วใบอนุโมทนาบัตร!! 'สรรพากร'ร่อนหนังสือสำนักพุทธฯ บริจาควัดต้องผ่านระบบ e-Donation
  • อาลัย นนส.พายุ เสียชีวิตจากโรคประจำตัว ติดเชื้อในปอด อาลัย นนส.พายุ เสียชีวิตจากโรคประจำตัว ติดเชื้อในปอด
  • สดุดีทหารกล้า นักรบชุดดำทหารพราน 23 ที่ได้รับเหรียญบางระจัน สดุดีทหารกล้า นักรบชุดดำทหารพราน 23 ที่ได้รับเหรียญบางระจัน
  • อุตุฯเตือนฝนถล่ม  6จังหวัดตกหนัก  แม่ฮ่องสอนอ่วม  สั่งรับมือน้ำหลาก อุตุฯเตือนฝนถล่ม 6จังหวัดตกหนัก แม่ฮ่องสอนอ่วม สั่งรับมือน้ำหลาก
  •  

Breaking News

'มาริษ'เผย ประธาน ICRC ร่วมปาฐกถา'สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร'

'ธีรรัตน์'ลงพื้นที่ตรวจสร้างทางเดินริมคลองแสนแสบระยะทาง 9 กม.

'กรมชลฯ'เตือน! เตรียมระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในช่วง 3 วันข้างหน้า

1 เดือนแห่งการขับเคลื่อนการศึกษาไทย ยกระดับหลักสูตร และการสอนเพื่อพัฒนาครู สกร.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved