ทั่วไทยคึกคัก
คลายล็อก9กิจการเฟส3วันแรก
ขนส่ง-แหล่งท่องเที่ยวแน่น
สธ.ลุยตรวจร้านนวด-สปา
ย้ำเข้ม5มาตรการสาธารณสุข
หวั่นรีล็อกถ้าคนไทยการ์ดตก
ศบค. แถลงพบผู้ป่วยใหม่ 1 ราย เป็นหญิงกลับจากรัสเซีย เผย 7 วันผ่านมาไม่พบติดเชื้อในประเทศ แต่ยังวางใจไม่ได้ ต้องอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ ย้ำปชช.การ์ดอย่าตก เพื่อนำไปสู่ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แจงเหตุยังห้ามนวดหน้า เพราะเสี่ยงกว่าสถานเสริมความงาม ด้าน สธ.หวั่นรีล็อก หากประชาชนไม่เข้ม 5 มาตรการสาธารณสุข เสี่ยงระบาดรอบสอง ชี้คลายล็อกสำเร็จหรือไม่ขึ้นกับความมีวินัยของคนไทย ขณะที่อธิบดีสบส.-กรมอนามัย ตรวจร้านนวด-สปาดูระบบป้องกันโควิด-19 ระบาด หลังผ่อนปรนระยะ 3 วันแรก พบ 9กิจกรรม-กิจการที่ได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการได้ มีผู้ใช้บริการคึกคัก
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศไทยประจำวันว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 43 ปี เดินทางกลับมาจากรัสเซียเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม และพักอยู่ในสถานกักตัวของรัฐที่จ.ชลบุรี ตรวจเชื้อครั้งแรกเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมไม่พบเชื้อ แต่ตรวจซ้ำอีกครั้งวันที่ 31 พฤษภาคม พบเป็นโควิด-19 โดยไม่แสดงอาการ ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ จ.ชลบุรี ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสม 3,082 ราย หายป่วยสะสม 2,965 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังอยู่ที่ 57 ราย
อย่าวางใจ7วันไม่พบติดเชื้อในปท.
อย่างไรก็ตาม นับจนถึงวันนี้เป็นวันที่ 7 แล้วที่พบผู้ป่วยรายใหม่ในสถานกักตัวของรัฐ แต่ไม่พบการติดเชื้อภายในประเทศ แต่ 7 วัน ยังไม่น่าไว้วางใจ ต้องไม่พบการติดเชื้อในประเทอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ โดยวันนี้เราเข้าสู่การผ่อนปรนระยะที่ 3 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เพราะกิจการ/กิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายเป็นกิจการ/กิจกรรมที่มีความเสี่ยงปานกลางไปถึงสูง มันจะมีความตรึงกับความหย่อนเกิดขึ้น เราเพิ่งไม่มีผู้ติดเชื้อในประเทศได้แค่ 7 วัน ประชาชนจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลเหมือนเดิม เพราะความเสี่ยงยังอยู่กับท่าน และ 5 มาตรการหลักยังต้องเข้มข้นเหมือนเดิม
ลุยตรวจหาเชื้อได้แล้ว4.2แสนราย
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ปัจจัยความเสี่ยงของผู้ติดเชื้อใน 2 สัปดาห์ล่าสุด พบว่าเป็นอาชีพรับจ้างทั่วไป ฟรีแลนซ์ มากที่สุด รองลงมาคือ นักเรียน นักศึกษา และพนักงาน ส่วนใหญ่กลับมาจากต่างประเทศ ขณะที่ยอดตรวจเชื้อถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีการตรวจไปแล้ว 420,529 ตัวอย่าง โดยพยายามปิดช่องว่างหรือข้อสงสัยที่ว่าเราตรวจน้อย โดยพยายามเข้าไปตรวจในกลุ่มสงสัยต่างๆ นอกจากนี้ วันที่ 1 มิถุนายนมีผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ 3 เที่ยวบิน 355 คน และวันที่ 2 มิถุนายนมี 3 เที่ยวบิน 455 คน เราพยายามปรับเพื่อรองรับให้ได้วันละ 500 คน
ไทยชนะทางรอดที่ต้องทำเพื่อเฟส4
สำหรับการลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะ.com มีร้านค้าลงทะเบียนแล้ว 133,694 ร้าน มีผู้ใช้งาน 18,587,269 คน ส่วนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ มีผู้ดาวน์โหลดแล้ว 120,076 คน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยระบุว่า แอปพลิเคชั่นดังกล่าวดี ใช้สะดวก จะให้ฝ่ายปกครองระดับจังหวัดนำมาใช้งาน การผ่อนคลายระยะที่ 3 เมื่อมีความเสี่ยงสูง ประชาชนสามารถดูแลตัวเองได้ เมื่อไปไหนมาไหนหากเช็กอิน ถ้ามีผู้ติดเชื้อในพื้นที่นั้นๆ จะมีเจ้าหน้าที่โทรศัพท์มาสอบถาม นี่ถือเป็นทางรอดที่ต้องทำ แล้วมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 4 จะตามมา
แจงเหตุยังห้ามนวดหน้าเพราะเสี่ยงสูง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดยังห้ามนวดหน้า แต่สถานเสริมความงามใบหน้าทำได้แล้ว นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เป็นความห่วงใยด้านสาธารณสุข เพราะโรคนี้ติดต่อผ่านทางเดินหายใจ ประกอบกับเรื่องของทักษะ การป้องกันส่วนบุคคล ความรู้ในการจัดการ ซึ่งในสถานเสริมความงามนั้น เป็นการดำเนินการทางเวชกรรม เกี่ยวข้องกับบุคลากรทางการแพทย์ ที่มีวิธีการและถูกฝึกอบรมมา เราค่อนข้างจะมั่นใจระบบนี้ แต่เรื่องการนวดหน้ายังมีหลายระดับที่เกี่ยวโยงกับชุดพฤติกรรม มีการใกล้ชิด ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน เป็นความเสี่ยงสูงมากๆ จะเห็นได้ว่า มีผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศหลายคนที่ทำอาชีพนวดและติดเชื้อ จึงเป็นความห่วงใย กลัวว่าท่านจะติดเชื้อ ไม่ได้มีประเด็นอื่นเลย
ย้ำห้ามการ์ดตกเพื่อยกเลิกพรก.เดือนกค.
ถามว่า มีข่าวว่า ศบค.หารือเรื่องวันหยุดชดเชยสงกรานต์ที่เลื่อนมาจากเดือนเมษายน โดยจะให้หยุดชดเชยในเดือนกรกฎาคม ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า เรื่องช่วงเวลาในอนาคตถูกกำหนดโดยปัจจุบัน เดือนกรกฎาคมจะยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ อยู่ที่ผลการผ่อนคลายระยะที่ 3 และ 4 จึงต้องขอความร่วมมือดูแลสุขลักษณะของประชาชน การ์ดต้องไม่ตกเหมือนก่อนการผ่อนคลายระยะที่ 1 และ 2 แต่ปัจจุบันหลายคนใส่หน้ากากน้อยลง รถเริ่มกลับมาติด มีแนวโน้มเรื่องป้องกันลดลงทุกด้าน อีกทั้ง ยังจะมีโรคตามฤดูกาลเข้ามาอีก เราจึงหวังให้เดือนมิถุนายนผ่านพ้นไปด้วยดี ถ้าผ่านการผ่อนคลายระยะที่ 3 และ 4 ไปอย่างเรียบร้อย เดือนกรกฎาคมจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมีวันหยุด ขอให้เราผ่านเดือนนี้ไปให้ได้ ทุกอย่างจะกลับคืนมา
หวั่นรีล็อคเหตุปชช.การ์ดตก
ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า หลังศบค.ผ่อนคลายมาตรการระยะที่ 3 ให้เดินทางข้ามจังหวัดได้ และลดเวลาเคอร์ฟิว ปัจจัย 3 สถานการณ์เสี่ยงที่จะทำให้ถูกรีล๊อคอีก ได้แก่ 1.พฤติกรรมประชาชนในการสวมหน้ากากอนามัย 2.ผู้ประกอบการทำตามมาตรการของรัฐในการคัดกรองคน วัดไข้ จัดวางเจลแอลกฮอล์ 3.ข้อมูลการควบคุมโรค ซึ่งมีการติดตามจากโรงพยาบาล ทั้งนี้ ประชาชนการ์ดตกไม่สวมหน้ากากอนามัย มือไม่ล้างบ่อยๆ เข้าอยู่ในที่แออัดอันตรายสัมผัสเสี่ยงสูง ขณะที่ผู้ประกอบการย่อหย่อน ขาดความเข้มข้นในการจัดการเรื่องคัดกรอง ภายในห้างไม่กำกับระยะห่าง ซึ่งหากประชาชนและผู้ประกอบการต่างการ์ดตก จะเข้าสถานการณ์โรคคลื่นลูกที่ 2 ทำให้กลับมาล๊อคประเทศอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม พบว่าเมื่อรัฐผ่อนปรนการล๊อคดาวน์ ประชาชนก็เริ่มการ์ดตก ทำให้เสี่ยงสูง
ทั้งนี้ จากข้อมูลการปฏิบัติผู้ประกอบการ พบว่า ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์ 81แห่ง ผ่านเกณฑ์ 90% โดยในส่วนร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ 1ใน 4 มีปัญหา ขณะที่ร้านเสริมสวยบุรุษ สตรีส่วนใหญ่ปฎิบัติตามมาตรการรัฐได้ดี แต่ 1ใน 6 ที่มีปัญหา
ห่วงเปิดรร.-กิจการเสี่ยงแพร่เชื้อ
“ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ การที่กรมอนามัยให้หลายโรงเรียนทดสอบรายการที่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำสาธารณสุขพบว่าจำนวนมากครึ่งต่อครึ่งที่มีปัญหา ดังนั้น หากเปิดโรงเรียนจริงและสถานประกอบการที่ได้รับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ เมื่อ 2 ปรากฏการณ์เกิดขึ้นก็จะเสี่ยงสูง เมื่อคนที่บ้านไปเที่ยวกลับมาพ่อบ้าน พี่เอาเชื้อมาคิดคนในบ้าน ติดน้องที่ไปโรงเรียน และน้องก็เอาเชื้อไปติดเชื้อแพร่ต่อคนครอบครัวอื่น ทั้งนี้ การชี้ชะตาประเทศไทยคลายล๊อคสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับวินัยใหม่ของคนไทยทุกคน ร่วมกันป้องกันไม่ให้โรคแพร่กระจายในกิจการ บ้าน และโรงเรียน”นพ.บัญชา กล่าว
สธ.ตรวจร้านนวดไทย-สปารับเปิดเฟส3
วันเดียวกัน นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อมพญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ลงพื้นที่ “let’s relax” สาขาสุขุมวิท 39 ซึ่งประกอบกิจการสปา และนวดแผนไทย ตรวจสอบความพร้อม ตามมาตรการผ่อนคลายระยะ 3 สำหรับกิจการประเภทนวดเพื่อสุขภาพ สปาเพื่อสุขภาพ ป้องกันโควิด-19 พบว่า มีขั้นตอนการป้องกันโรคอยู่ในเกณฑ์พร้อมเปิดให้บริการคือ มีการลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะให้สามารถติดตามตัวได้กรณีต้องสอบสวนโรค กำหนดจุดคัดกรองของพนักงานและผู้มาใช้บริการ สอบถามประวัติการเดินทาง บันทึกชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ จำกัดจำนวนผู้มารับบริการ ซึ่งร้านนี้จำกัดจำนวนอยู่ที่ 30 คน และไม่ให้นั่งรอ ต้องนัดหมายล่วงหน้า ให้บริการลูกค้าแต่ละรายไม่เกิน 2 ชั่วโมง ห้องนวด 1 คนต่อ 1 ห้อง มีจุดล้างมือเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาด
โดยอธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า อุปกรณ์และระบบการรักษาความสะอาดอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ มีการเปลี่ยนผ้าทั้งเซตเมื่อใช้บริการกับลูกค้าเสร็จทุกราย และยังมีเครื่องอบฆ่าเชื้อด้วยแสงยูวีเพิ่มเติมด้วย ขณะเดียวกันได้ย้ำให้พนักงานและผู้มาใช้บริการสวมใส่หน้ากากอนามัยระหว่างรับบริการตลอดเวลา รวมทั้งสังเกตอาการผู้มาใช้บริการและตัวเองอย่างใกล้ชิด หากมีไข้ไอมีน้ำมูกควรหยุดให้บริการทันที ขณะเดียวกันไม่ควรทำการพูดคุยระหว่างให้บริการ
เบรกรับคนไทยกลับจากตปท.เข้าทำงาน
อธิบดีกรม สบส.กล่าวเพิ่มเติม ขอให้สถานบริการนวดสปาทุกแห่งยังไม่ควรรับพนักงานคนไทยที่เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศเข้าทำงานช่วงนี้ เพราะสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ยังมีอยู่ในต่างประเทศ ส่วนผู้มาใช้บริการหากผ่านการคัดกรองประวัติการเดินทาง สามารถเข้ามาใช้บริการได้ทุกคน พร้อมกันนี้ ยังได้ย้ำให้ทุกกิจการต้องทำให้ได้ 100%คือ ลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์ม ไทยชนะ เพราะสิ่งนี้จะทำให้รู้ที่มาที่ไปประวัติผู้ใช้บริการสำหรับระบบประเมินตัวเองที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพนำมาใช้ประเมิน สถานประกอบการทุก 7 วันนั้น ก็จะลดความเสี่ยงของประชาชนจากโควิด-19 ได้ในที่สุด
ผ่อนเฟส3วันแรกกิจการทั่วปท.คึกคัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันแรกที่เริ่มผ่อนคลายระยะ 3 ทำให้หลายกิจการกิจกรรมทั่วประเทศกลับมาเปิดให้บริการ เปิดดำเนินการอีกครั้ง รวมทั้งการเดินทางข้ามจังหวัดทางภาคเหนือ เริ่มกลับมาคึกคัก ซึ่งส่วนใหญ่มีการคัดกรองและเฝ้าระวังป้องกันโควิด-19 ระบาดซ้ำ อย่างที่จ.เชียงใหม่ สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ ตลอดทั้งวันมีผู้โดยสารที่จะเดินทางข้ามจังหวัดหนาแน่น ร้านจำหน่ายตั๋วโดยสารของรถโดยสารกลับมาเปิดให้บริการทั้งหมดแล้ว รวมทั้งร้านจำหน่ายสินค้าในสถานีขนส่งที่กลับมาค้าขายตามปกติ โดยในวันนี้ มีกลุ่มทหารที่มาประจำการอยู่ที่เชียงใหม่ ซึ่งทางกรมกองอนุญาตให้กลับภูมิลำเนาเป็นวันแรก ทำให้มีกำลังพลมารอซื้อตั๋วโดยสารกลับบ้าน ทั้งภาคอีสานและกรุงเทพฯ ค่อนข้างคึกคัก รวมทั้งผู้ที่เดินทางมาทำงานที่เชียงใหม่ บางส่วนเริ่มเดินทางกันมากขึ้น หลังจากไม่ได้กลับบ้านมานานหลายเดือน
อย่างไรก็ตาม การเดินทางมายังที่สถานีขนส่งอาเขตเชียงใหม่ ยังมีมาตรการคัดกรอง ส่วนใหญ่ผู้คนยังสวมใส่หน้ากากอนามัย รวมทั้งการขึ้นรถจะมีการวัดอุณหภูมิ สวมใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่างของเบาะที่นั่งบนรถ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ขนส่งคอยตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับ ร้านอาหารตามสั่ง ที่ให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกันได้ สอบถามแม่ค้าแต่ละรายบอกตรงกันว่า ดีใจที่ได้มาเปิดร้านอีกครั้ง เพราะช่วงที่หยุดขายไปสองเดือนลำบากมาก
ส่วนร้านนวดแผนไทยในเชียงใหม่ ซึ่งมีมากกว่า 650 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ระหว่างเตรียมเปิดร้าน แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของสาธารณสุข ทั้งการจัดสถานที่ การรักษาความสะอาด และการเว้นระยะห่างสำหรับเตียงนวด โดยต้องถ่ายภาพการจัดเตรียมต่างๆ ตามระเบียบ ส่งให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดตรวจสอบและออกใบรับรองก่อนจึงจะสามารถเปิดรับลูกค้าได้
ตราดเปิดเมืองวันแรก!นทท.อื้อ
ที่ด่านท่าจอด ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด จุดตั้งด่านคัดกรองโควิด-19 เริ่มเปิดให้บุคคลภายนอกและนักท่องเที่ยว เดินทางเข้าจังหวัดได้แล้ว ตามข้อกำหนด มาตรา 9 ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ประชาชนเดินทางข้ามจังหวัดได้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่ประจำด่านคัดกรองยังเป็นไปตามปกติ แต่ลดขั้นตอนสอบประวัติของบุคคลภายนอกที่มีเหตุจำเป็นต้องแจ้งเข้าจังหวัดกับเจ้าหน้าที่ด่านคัดกรอง เหลือเพียงใช้เครื่องเทอร์โมสแกน วัดอุณหภูมิร่างกายของคนขับรถและผู้โดยสารทุกคน หากตรวจพบจะเรียกสอบประวัติทันทีพร้อมมาตรการควบคุมโรคที่จังหวัดตราดยังคงถือปฎบัติอยู่ ขณะการจราจรบริเวณด่านคัดกรองวันนี้สะดวกขึ้น การจราจรลื่นไหล เพราะไม่มีการคัดกรองที่เข้มงวดแล้ว
เปิดหาดบางแสน-หาดวอนนภาวันแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณชายหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่เทศบาล ตำรวจ รื้อรั้วแผงจราจร เชือกกั้นไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าชายหาดบางแสนและชายหาดวอนนภาออก เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้าไปพักผ่อน เล่นน้ำได้ หลังปิดชายหาดมานานกว่า 2 เดือน ซึ่งหลังจากนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวก็พาครอบครัวเดินทางมาพักผ่อนเล่นน้ำกันบ้างแล้ว แต่ทางจังหวัดยังไม่อนุญาตร้านค้า เตียงผ้าใบ เปิดบริการ โดยจะให้เปิดดำเนินการได้วันที่ 5 มิถุนายน ที่สำคัญห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มานั่งดื่มเด็ดขาด เพราะคำสั่งจังหวัดชลบุรียังไม่อนุญาต หากพบจะจับกุมดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี