นายกฯเปิดผลศึกษาเตรียมพร้อม 2 สถานการณ์‘เรียนทางไกล’ ชี้นับเวลาเรียน 1 ก.ค.-16 พ.ค.
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 2 มิถุนายน 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ถึงเรื่องการศึกษา ว่า ต้องเข้าใจว่าขณะนี้เรามีปัญหาจากโควิด-19 ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เสนอมาตรการต่างๆมามากมาย เพื่อไม่ให้เกิดประเด็นความขัดแย้งหรือไม่เข้าใจกันต่อไปในเรื่องของการนับเวลาเรียน เรายังคงนับเวลาเรียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป และไปสิ้นสุดในวันที่ 16 พฤษภาคม 2564 ซึ่งถือเป็นเวลาที่ปกติ และหากจะพอหรือไม่พออย่างไรก็เป็นเรื่องของสถานศึกษาที่จะไปบริหารจัดการด้วยวิธีการที่เหมาะสมเพื่อเปิดสอนชดเชยให้ครบตามโครงสร้างเวลาเรียน
ส่วนเรื่องการสอนชดเชย ขอให้บริหารจัดการตามบริบทและความเหมาะสม ทั้งปฐมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย สถานศึกษาต่างๆ หากจะเรียน จะสอนทางไกลก็ต้องจัดตารางสอนให้ชัดเจนเพื่อนำมาใช้นับชั่วโมงการเรียนได้
นายกฯ กล่าวอีกว่า สำหรับการอนุมัติการจบการศึกษา ให้อนุมัติภายในภายในวันที่ 9 เมษายน 2564 หากมีผลการเรียนไม่สมบูรณ์ให้สามารถดำเนินการวัดประเมินผลให้เสร็จสิ้นอนุมัติจบการศึกษาภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2564
ส่วนในเรื่องการจัดการเรียนการสอนทางไกลในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้นำผลจากการดำเนินการในระยะที่ 1 และที่ 2 ไปปรับปรุงพัฒนาเพื่อดำเนินการในระยะที่ 3 ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563-30 เมษายน 2564 เพื่อใช้สำหรับ 2 สถานการณ์นี้ คือ
1.หากสถานการณ์ไม่คลี่คลาย ก็จำเป็นต้องไปหาวิธีการที่จะสอนระดับปฐมวัย ถึงมัธยมศึกษาตอนต้นด้วยระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ระบบดิจิตอล ดาวเทียม เคเบิ้ลทีวีและไอพีทีวี 15 ช่อง ต้องหาวิธีการที่เหมาะสม เตรียมความพร้อมต่างๆ ตอนนี้เป็นช่วงของการทดลอง แน่นอนว่าต้องมีอุปสรรคอะไรที่ไม่เคยทำ เพราะสถานการณ์ที่เกิดมันฉุกเฉินและมีกรณีเร่งด่วน
2.หากสถานการณ์คลี่คลาย การจัดการเรียนการสอนในโรงเรียนก็จะเป็นปกติ แต่ตอนนี้ยังไม่ 100% ต้องเว้นระยะห่างทางสังคมและมีมาตรการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ โดยจะต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดและคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด
นายกฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับการวัดและการประเมินผล ต้องร่วมมือกันหลายฝ่าย หลายมาตรการ ทั้งการสังเกต การสัมภาษณ์ ให้ข้อมูล ตรวจเยี่ยมบ้าน ประสานข้อมูลจากผู้ปกครองใช้การทดสอบรูปแบบต่างๆ ส่งผลการประเมินจากอีเมล การจัดทำตารางนัดหมายเป็นกลุ่มเล็กๆ ซึ่งแนวทางเหล่านี้เสนอมาโดยกระทรวงศึกษาธิการ และทาง สพฐ.เห็นชอบในการเสนอนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม มีรายการที่จะเป็นภาระในกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเพิ่มเติมในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็จะต้องเพิ่มเติมจากการดำเนินการตามโครงการกำหนดค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐานซึ่งมีอยู่แล้ว เอามาปรับดูกันว่าจะทำอย่างไร ครูจะมีเบี้ยเลี้ยงหรือค่าน้ำมัน ที่ไปติดตามหรือเยี่ยมบ้านนักเรียนหรือไม่ ซึ่งถ้าจำเป็นขนาดนั้นก็ต้องทำ ต้องดูแลทั้งครูและนักเรียนด้วย หากสถานการณ์ไม่ยุติ แต่ถ้าสถานการณ์ยุติก็จบหมด ทุกอย่างก็มาที่โรงเรียน
ส่วนการดูแลเด็กนักเรียนที่พิการและเด็กด้อยโอกาส จะมีคณะกรรมการดำเนินการอยู่ ซึ่งส่วนนี้อาจจะต้องมีการจ่ายเงินสดให้กับผู้ปกครองไปดูแล เป็นงบประมาณจากกระทรวงศึกษาที่ดูแลนักเรียนประจำหรือไป-กลับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี