2 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายวิรัช พงศ์ฉบับนภา เจ้าของธุรกิจโรงแรมระดับสามดาวบนเกาะสมุย ว่าต้องแบกรับภาระที่หนักในการประกอบธุรกิจโรงแรมในขณะนี้ เนื่องจากผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ธุรกิจท่องเที่ยวทุกอย่างต้องปิดกิจการลงชั่วคราวรวมถึงโรงแรมของตนเองด้วย
จากการที่ต้องปิดโรงแรมชั่วคราวดังกล่าวผู้ประกอบการโรงแรมหลายรายต่างมีการปรับปรุงโรงแรมเพื่อเตรียมความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการต่างคาดหวังว่าจะได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคาร และการช่วยเหลือจากภาครัฐ แต่กลับตรงข้ามสิ่งที่ผู้ประกอบการได้รับคือเงื้อนไขและขั้นตอนที่ยุ่งยาก สุดท้ายก็ไม่ได้รับวงเงินจากสินเชื้อเพื่อมาปรับปรุงโรงแรม หลังจากที่ธนาคารได้ให้ความหวังว่าจะอนุมัติวงเงินสินเชื่อเพิ่มวงเงินช่วงวิกฤตวิรัสโควิด-19 เพื่อใช้ปรังปรุงโรงแรม โดยเฉพาะธนาคารจากต่างประเทศที่มีสาขาในประเทศไทย ที่ได้ร่วมกับกลุ่มทุนต่างชาติที่จ้องจะซื้อกิจการโรงแรมในราคาถูก หากเจ้าของโรงแรมไม่สามารถมีเงินหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ จึงเป็นการบีบผู้ประกอบการให้ขายธุรกิจในที่สุด ขณะนี้ธุรกิจโรงแรมบนเกาะสมุยยังไม่มีแนวโน้มที่จะเปิดให้บริการหลายแห่งถึงแม้รัฐบาลจะประกาศคลายล็อคแล้วก็ตาม สำหรับบรรยากาศทั่วไปของเกาะสมุยยังคงเงียบถึงแม้เที่ยวบินเพิ่มขึ้น
ในเรื่องนี้นายวิรัช พงศ์ฉบับนภา ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะสมุย กล่าวว่า ขณะนี้ปัญหาของนักธุรกิจท่องเที่ยวก็คือปัญหาเรื่องเงิน ซึ่งแบงค์ชาติได้มีแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการในรูปแบบของซอฟท์โลนให้รายละยี่สิบล้านบาท แต่ปรากฏว่าธนาคารของต่างชาติที่มีสาขาในประเทศไทย ใช้แผนสูงด้วยการสร้างความยากลำบากให้กับผู้ประกอบการด้วยการมีเงื่อนไขที่มากสุดท้ายก็ไม่อนุมัติวงเงินให้
ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนเองก็ประสบปัญหาเนื่องจากธนาคารต่างชาติพวกนี้รู้ว่าผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวของไทยอยู่ในสภาพลำบากขาดเงินหมุนเวียนในการปรับปรุงโรงแรม หรือใช้ในการเปิดโรงแรมให้บริการ ซึ่งตนเองพบว่าธนาคารต่างชาติได้มีการร่วมมือกับนักธุรกิจชาติเดียวกันเตรียมเข้ามาตักตวงผลประโยชน์ หรือเข้ามาขอซื้อธุรกิจโรงแรมในราคาที่ถูก ด้วยการสร้างสถานการณ์ให้เกิดปัญหาในการใช้หนี้ที่กู้มาก่อนหน้า จากนั้นก็จะฟ้องศาลก่อนที่กลุ่มทุนจะเข้ามาร่วมหุ้น โดยกลุ่มทุนต่างชาติจะถือหุ้นใหญ่ก่อนเข้ายึดธุรกิจโรงแรมไปในที่สุดเพื่อปลดหนี้สินที่มี
จึงอยากฝากถึงธนาคารแห่งประเทศไทย และรัฐบาล ให้มีการพิจารณาที่ดีก่อนอนุญาตให้ธนาคารจากต่างประเทศเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย โดยเฉพาะธนาคารที่มาจากประเทศมหาอำนาจหน้ากลัวมาก ที่สำคัญธนาคารต่างชาติพวกนี้มีเบื้องหลังเพราะเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทุนต่างชาติที่มีอำนาจทางการเงินที่สูงกว่าเรา และนี่คือจุดอันตรายที่ประเทศปล่อยให้มีธนาคารต่างชาติเปิดสาขาในประเทศไทยมาเกินไป ซึ่งหากธนาคารแห่งประเทศไทยจะช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมควรที่จะต้องประกาศหยุดส่งเงินต้นพร้อมด้วยดอกเบี้ย
เนื่องจากขณะนี้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมต่างไม่มีรายได้ ต้องแบกรับภาระรายจ่ายพนักงานตามกฏหมายแรงงาน และภาระเรื่องดอกเบี้ยธนาคารซื้อเป็นเรื่องใหญ่ของผู้ประกอบการอยู่ขณะนี้ สุดท้ายโรงแรมใหญ่เหล่านี้จะตกเป็นเหยื่อของกลุ่มทุนต่างชาติ มาฮุบทรัพย์สินที่อยู่ในจุดสำคัญของประเทศไป จึงขอฝากถึงธนาคารแห่งประเทศไทยปรับลดเกณฑ์การช่วยเหลือเสียที ซึ่งตนเองเคยเสนอธนาคารแห่งประเทศไทยให้มีการจัดตั้งธนาคารเพื่อการท่องเที่ยวขึ้น เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการคนไทยให้ยังคงรักษาทรัพย์สินไว้ให้ลูกหลานต่อไปได้ จึงอยากฝากถึงธนาคารแห่งประเทศไทยช่วยพิจารณาในเรื่องนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี