‘ครูตั้น’ แย้มเปิดเทอม 1 ก.ค.เล็งเรียน‘ผสมผสาน’ ติวเข้มผู้บริหาร ศธ.เดินเครื่องยกกำลังสองการศึกษาไทยในสถานการณ์โควิด-19
8 มิถุนายน 2563 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) บรรยายพิเศษในหัวข้อ “Roadmap การศึกษาไทย : การศึกษายกกำลังสอง” โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ รองเลขาธิการฯ ผู้อำนวยการสำนัก ผู้เชี่ยวชาญ ข้าราชการระดับ 9-11 ในส่วนกลาง เข้าร่วมรับฟัง ที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ
นายณัฏฐพล กล่าวว่า วันนี้ได้พูดถึงการทำงานของกระทรวงศึกษาธิการ ในช่วงก่อนและหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และพูดถึงการเตรียมความพร้อมในการทำงานช่วงหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเราได้เห็นถึงการแก้ปัญหาในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่ง ศธ.ได้ปลดล็อกอะไรหลายๆอย่าง และเคยคิดไว้ว่าหาก ศธ. มีกลไกลที่แข็งแรง จะสามารถขับเคลื่อนการศึกษาไปในแนวทางที่เราต้องการได้จริง และ ศธ. ได้ใช้วิกฤตินี้เป็นโอกาสที่จะให้ทุกคนได้เห็นแนวทางการขับเคลื่อนการศึกษา แต่ก่อนที่จะให้คนทั่วไปเห็นนั้น ผู้บริหารในกระทรวงศึกษาฯจะต้องเห็นก่อนและมีความเข้าใจก่อน ซึ่งการศึกษายกกำลังสองนี้ ไม่ได้มีอะไรมากมาย เพียงแต่เป็นการเอาสิ่งที่มีการทำกันมาในกระทรวงศึกษาฯ ที่อาจจะเป็นการทำที่กระจัดกระจายไม่ได้รวบรวมมาเป็นพลังในการขับเคลื่อนการศึกษาอย่างแท้จริง
“วันนี้ผมได้เอาสิ่งต่างๆมาเชื่อมโยงเพื่อให้ผู้บริหารเห็นภาพ และก็หวังว่าในอนาคต ทั้งในกระทรวงรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจะเห็นภาพนี้ เพื่อให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำหน้าที่ในแต่ละภาคส่วน ซึ่งจริง ๆแล้วการเกิดวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ ก็ทำให้เราเห็นศักยภาพ โดยเฉพาะในส่วนของคุณครู หากมีการช่วยเหลือร่วมมือกัน ถึงแม้จะมีความยากลำบาก ก็สามารถปรับตัวได้ เราสามารถสร้างกลไกล หรือสร้างการขับเคลื่อนให้คุณครูและนักเรียนรวมถึงผู้บริหารเกิดการพัฒนาได้จริงหรือไม่นั้น ถือเป็นความท้าทาย และผมก็หวังว่าเราน่าจะทำได้” รมว.ศธ. กล่าว
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า การศึกษายกกำลังสอง ในเรื่องของสาระการเรียนรู้นั้น ซึ่งแต่ก่อนนี้สาระการเรียนรู้จะผ่านตำราเรียนเท่านั้น แต่วันนี้เราได้เห็นแล้วว่าที่ที่เรียนไม่ใช้มีเพียงสถานศึกษาที่เดียวเท่านั้น แต่สามารถเรียนรู้ได้ทั้งทางออนไซต์ ออนไลน์ ออนแอร์ และออนดีมานด์ ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ จึงเป็นการยกระดับการศึกษาอย่างหนึ่ง ที่ผู้เรียนสามารถค้นคว้าหาความรู้ได้ เราต้องผสมผสานความรู้ด้วยไม่ใช่ทำสาระผ่านตำราเรียนเพียงอย่างเดียว จึงเป็นการขับเคลื่อนที่ชี้ให้เห็นเป็นตัวอย่าง ว่าเราต้องปลดล็อกจากสิ่งที่เราทำอยู่
นายณัฏฐพล กล่าวถึงการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ว่า อาจจะเป็นการเรียนแบบผสมผสาน เพราะวันนี้เราเห็นแล้วว่าโรงเรียนขนาดใหญ่มีความไม่คล่องตัวในการจัดการเรียนการสอนตามมาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุข จึงต้องให้โรงเรียนมีอำนาจในการตัดสินใจใช้แนวทางที่เหมาะสม ซึ่งบางโรงเรียนอาจจะใช้การสลับวันมาเรียน บางโรงเรียนอาจจะสลับเวลามาเรียนเป็นช่วงเช้า-บ่าย หรือสลับชั้นเรียนกันมาเรียน หากให้ความยืดหยุ่นเชื่อว่าทางโรงเรียนจะสามารถจัดการเรียนได้อย่างแน่นอน ทางโรงเรียนก็อาจจะมีความหนักใจบ้างเพราะกำลังทำในสิ่งที่ไม่คุ้นเคย หรือทำในสิ่งที่ยากสำหรับการบริหารจัดการ จึงต้องทำความเข้าใจกับทุกภาคส่วน ไม่ใช่ทำความเข้าใจภายในโรงเรียนเพียงอย่างเดียว จะต้องทำความเข้าใจกับคุณครู ผู้บริหารโรงเรียน ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียนด้วย เด็กบางคนต่อให้มีการสลับเวลาเรียน ก็ยังอยากจะมาเรียนที่โรงเรียนเพราะอาจจะไม่เข้าใจสถานการณ์ หรืออาจจะไม่ระมัดระวังตัวเองในการป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งอาจจะมีผลกระทบในเรื่องความปลอดภัยในอนาคต จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายในการให้ความรู้และการสร้างความเข้าใจกับทุกฝ่าย
รมว.ศธ. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางโรงเรียนเห็นมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขในการป้องกันต่าง ๆแล้วว่ามีอะไรบ้าง ก็ให้ทางผู้บริหารโรงเรียนพิจารณาตัดสินใจ ซึ่งทางโรงเรียนก็มีการปรับแนวทางของตัวเอง เช่น การเว้นระยะห่างทั้งขณะนั่งเรียน นั่งรับประทานอาหารของนักเรียน และในแต่ละโรงเรียนก็ไม่เหมือนกันเพราะสถานที่ต่างกัน ส่วนการจัดการเรียนการสอนก็ชัดเจนว่าจะจัดผ่านระบบออนแอร์ ผสมผสานด้วยระบบออนไลน์ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในโรงเรียนและกลุ่มนักเรียนที่มีอุปกรณ์ ส่วนที่ไม่มีอุปกรณ์ก็เรียนผ่านตำรา
“ดังนั้น 1 ก.ค.นี้เราสามารถจัดการศึกษาได้อย่างแน่นอน ขณะนี้จึงลดความกังวลลง เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมาได้มีการทดลองจัดการเรียนผ่านออนแอร์และออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่อง ก็เห็นแล้วว่าเรามีศักยภาพทำอะไรได้บ้าง และเห็นปัญหาอยู่บ้าง เช่น การใช้เครื่องมือดิจิทัลในการรับรู้สาระการเรียน และมีค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองและนักเรียนอย่างแน่นอน หากทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอก็คงเป็นภาระ วันนี้ ศธ.ได้พยายามสร้างกลไกลให้มีภาระน้อยที่สุดทั้งคุณครู ผู้ปกครอง นักเรียน ผู้บริหารในการปฏิบัติหน้าที่หลาย ๆอย่าง โดยลดกิจกรรมต่างๆลงเพื่อให้ครูมุ่งไปสู่สาระการเรียนรู้ของเด็กมากขึ้น และมีข้อมูลเบื้องต้นว่ามีนักเรียนกลุ่มไหนที่อาจจะไม่มีความพร้อมในเรื่องใด เราก็จะปรับการเรียนการสอนไปตามสภาพ” รมว.ศธ. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี