มีคำถามว่า พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 32 (วรรคหนึ่ง) ที่ระบุว่า ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือทางอ้อม “ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่?” เรื่องนี้มีข้อสังเกตอยู่บ้างบางประการเนื่องจากเมื่อเทียบเคียงกับบทบัญญัติใน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ในบางมาตรา อาทิ
1.มาตรา 26 (วรรคหนึ่ง) ระบุว่าการตรากฎหมายที่มีผลเป็นการจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญในกรณีที่รัฐธรรมนูญมิได้บัญญัติเงื่อนไขไว้ กฎหมายดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อหลักนิติธรรม“ไม่เพิ่มภาระหรือจำกัดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ” และจะกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของบุคคลมิได้ รวมทั้งต้องระบุเหตุผลความจำเป็นในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพไว้ด้วย
2.มาตรา 34 (วรรคหนึ่ง) ระบุว่า “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การโฆษณา และการสื่อความหมายโดยวิธีอื่น การจำกัดเสรีภาพดังกล่าวจะกระทำมิได้” เว้นแต่โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ตราขึ้นเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ เพื่อคุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น “เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน”
และ 3.มาตรา 61 ระบุว่า รัฐต้องจัดให้มีมาตรการหรือกลไกที่มีประสิทธิภาพในการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภคด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น “ด้านการรู้ข้อมูลที่เป็นจริง” ด้านความปลอดภัย ด้านความเป็นธรรมในการทำสัญญา หรือด้านอื่นใดอันเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค ซึ่งข้อสังเกตตาม รธน.2560 ทั้ง 3 มาตราข้างต้นนั้น สำหรับมาตรา 26 มาจากกรณีที่มีประชาชนทั่วไปโพสต์รูปภาพและ/หรือเรื่องเล่าว่าตนเองดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พร้อมภาพภาชนะเครื่องดื่ม (หรือภาพงานตั้งวงกินเลี้ยงสังสรรค์) ผ่านสื่อออนไลน์
แล้วมีเจ้าหน้าที่บางท่านออกมาเตือนว่าอาจเข้าข่ายความผิดฐานโฆษณาชักจูงให้ดื่ม ทั้งที่หลายคนยืนยันว่าตนมิได้รับผลประโยชน์ตอบแทนใดๆ จากธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยก็ตาม จึงเป็นคำถามว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพเกิดเหตุหรือไม่? ส่วนมาตรา 34 นั้น หากจะอ้างในแง่ศีลธรรมอันดี ก็เป็นคำถามว่า ในเมื่อรัฐไทยอนุญาตให้ขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การโฆษณาหรือกล่าวถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะกระทบต่อศีลธรรมอันดีได้อย่างไร? หรือหากจะอ้าง ศีลห้าของศาสนาพุทธก็ต้องถามต่อไปว่าอ้างได้จริงหรือ?
เพราะรัฐธรรมนูญไทยนั้นมิได้บัญญัติให้ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ รัฐไทยจึงมิใช่รัฐศาสนา และหากจะอ้างเรื่องปกป้องสุขภาพ การกล่าวถึงคุณภาพของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือชวนเพื่อนฝูงมาดื่ม จะทำให้คนแห่ไปซื้อมาดื่มจนสุขภาพเสียได้จริงหรือไม่?เพราะอย่างไรเสียก็มีกฎหมายอื่นๆ ควบคุมอยู่แล้ว เช่น การจำกัดอายุขั้นต่ำของผู้ซื้อ การจำกัดเวลาและสถานที่จำหน่าย สุดท้ายมาตรา 61 ก็มีคำถามว่า การห้ามโฆษณา หรือห้ามให้ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์สุรา ย่อมทำให้ผู้บริโภคเสียสิทธิในการรับทราบข้อมูลที่เป็นจริงหรือไม่?
ทั้งหมดนี้น่าส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเพื่อให้เกิดความชัดเจน!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี