พายุ‘นูรี’มาแล้ว กระทบไทยทั่วประเทศ เตือนฝนกระหน่ำหนัก

พายุ‘นูรี’มาแล้ว กระทบไทยทั่วประเทศ เตือนฝนกระหน่ำหนัก

วันอาทิตย์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 06.00 น.

พายุ‘นูรี’มาแล้ว

กระทบไทยทั่วประเทศ

เตือนฝนกระหน่ำหนัก

หวั่นน้ำท่วมฉับพลัน

เมืองชาละวันแล้งจัด

กล้วยน้ำว้ายืนต้นตาย

กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือน พายุโซนร้อน “นูรี” กระทบทั่วประเทศ มีฝนตกหนักอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ด้านพิจิตรแล้งจัดกล้วยน้ำว้ายืนต้นตาย

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน พายุโซนร้อน“นูรี” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.0 องศาตะวันออก กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 20 กม/ชม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กม/ชม คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิถุนายน 2563 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ในช่วงวันที่ 13-16 มิถุนายน 2563 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก


จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้

วันที่ 13 มิถุนายน 2563 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ยโสธร และอุบลราชธานี ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

ในช่วงวันที่ 14 - 15 มิถุนายน 2563 ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต

วันที่ 16 มิถุนายน 2563 ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม ภาคตะวันออก: จังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตร ว่า สถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดพิจิตรยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง คลองทองหลาง ในตำบลห้วยเกตุ อำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ที่เป็นคลองโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำ ของกรมทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม ระยะ ทาง 5 กิโลเมตร ต้องมีสภาพภายในคลองน้ำแห้งจนเห็นผืนดินกลางลำคลองที่แห้งแตกระแหงไม่มีน้ำเหลืออยู่ในคลอง ส่งผลกระทบ กับ สัตว์น้ำ โดยเฉพาะแหล่งเพาะพันธุ์ปลา เขตอภัยทาน หน้าวัด แหล่งน้ำแห้งขอด จนทำให้สัตว์น้ำสูญพันธุ์

โดย คลองทองหลาง ถือว่าเป็นแหล่งน้ำสำคัญของเกษตรกรในพื้นที่ตำบลห้วยเกตุ อำเภอตะพานหิน เป็นคลองที่ ทางกรมทรัพยากรธรรมชาติ และ สิ่งแวดล้อม ทำการปรับปรุง และ พัฒนาอนุรักษ์ฟื้นฟู เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ และ ส่งมอบให้กับชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อ วันที่ 18 มิถุนายน 2558 เป็นคลองสวยน้ำใสที่เป็นแหล่งน้ำสำคัญในการหล่อเลี้ยงการทำการเกษตร แต่หลังจากประสบปัญหาภัยแล้งน้ำในคลองแห้งขอดลงส่งผลต่อการผลิตพืชผลทางการเกษตร และระบบนิเวศน์ที่เคยอุดมสมบูรณ์มาอย่างยาวนาน

ขณะที่ คลองวังไร่ ตำบลดงป่าคำ อำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งเป็นคลองสายหลัก ผ่านหมู่บ้านและ พื้นที่เกษตร ได้แห้ขอดลง ส่งผลทำให้ สวนกล้วยน้ำว้าของเกษตรกร ที่อยู่ตามริมคลองวังไร่ ที่กำลังอยู่ในช่วงกำลังออกผลผลิต มีลักษณะใบเหี่ยวเฉา ลำต้นหักกลาง ผลกล้วยที่ออกมาเสียหาย เนื่องจากขาดน้ำ เป็นเวลานาน จากฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานาน และ ปัญหาภัยแล้ง เกษตรกรชาวสวนกล้วยต้องปล่อยให้ยืนต้นตายจากภัยแล้ง เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกลแหล่งพื้นที่น้ำในระบบชลประทาน ทำให้ส่งผลกระทบกับเกษตรกร ที่ทำการปลูกกล้วยเพื่อหวังสร้างรายได้ในช่วงหน้าแล้ง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top