เหยื่อเต็นท์รถบุรีรัมย์ฉ้อโกง 22 ล้าน บุกโรงพักสตึกวอนตำรวจเร่งรัดคดี
19 มิถุนายน 2563 ผู้เสียหายจากหลายพื้นที่ทั้ง จ.บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ และนครราชสีมา ที่ถูกเต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่งใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ฉ้อโกงในการซื้อขายเปลี่ยนรถทั้งรายเก่าและรายใหม่กว่า 20 ราย จากจำนวนผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 130 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 22 ล้านบาท ได้รวมตัวกันถือป้ายที่มีข้อความว่า “พวกเรากลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน คดีความไม่คืบหน้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม จากคดีเต็นท์รถรายใหญ่อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์” ที่หน้า สภ.สตึก พร้อมมอบกระเช้าเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยติดตามเร่งรัดคดีและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหาย
สืบเนื่องจากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุมเต็นท์รถดังกล่าวโดยได้ทำการอายัดรถกว่า 200 คัน จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย ยึดทรัพย์กว่า 200 ล้านบาท และพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และอดีตผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น ได้เดินทางมาแถลงข่าวการจับกุมด้วยตัวเอง แต่จนถึงขณะนี้คดีก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งยังมีผู้เสียหายรายใหม่ตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่บางรายก็ถูกทางเต็นท์รถฟ้องกลับทั้งที่ตัวเองเป็นผู้เสียหาย จึงได้พากันมาเร่งรัดติดตามคดีและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายด้วย โดยตัวแทนผู้เสียหายกลุ่มดังกล่าวจะพากันเดินทางไปยื่นหนังสือที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 นครราชสีมาเพื่อให้ช่วยเหลือในอีกทางหนึ่งด้วย
หนึ่งในผู้เสียหายรายเก่าที่เคยแจ้งความร้องทุกข์ไว้ กล่าวว่า ตนเองเป็นผู้เสียหายในคดีถูกเต็นท์รถฉ้อโกง นอกจากจะไม่ได้รับความเป็นธรรมสูญทั้งเงินทั้งรถแล้ว ยังถูกเต็นท์รถฟ้องกลับอีก ทั้งครอบครัวต้องมาเดือดร้อนด้วยที่เซ็นเอกสารค้ำให้เพราะเล่ห์กลโกงของเต็นท์ ทุกวันนี้เดือดร้อนมาก จึงได้พากันมาร้องขอความเป็นธรรมและเร่งรัดให้ตำรวจเร่งทำคดีด้วย เพราะนอกจากรายเก่าที่คดีจะไม่คืบหน้าแล้ว ยังมีประชาชนรายใหม่ที่ไม่รู้เล่ห์กลโกงของเต็นท์ตกเป็นเหยื่ออีกเป็นจำนวนมาก
ด้านผู้เสียหายรายใหม่รายหนึ่ง กล่าวว่า ตนเองไม่เคยรู้ประวัติของเต็นท์แห่งนี้ แต่มีตัวแทนมาติดต่อซื้อขายรถให้ จนสุดท้ายก็ถูกโกงสูญทั้งเงินและรถที่มาติดต่อซื้อขาย จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยเร่งรัดทำคดีให้ด้วย เพราะอยากได้เงินที่สูญไปคืน และไม่อยากให้ใครต้องมาตกเป็นเหยื่อถูกเต็นท์ดังกล่าวหลอกอีก
ด้าน พ.ต.ท.ยศวัฒน์ มณีวงษ์ชัยกิจ รองผู้กำกับการ สภ.สตึก ให้ข้อมูลว่า คดีดังกล่าวมีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้กว่า 130 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 22 ล้านบาท หลังจากที่มีการนำหมายศาลเข้าจับกุมเจ้าของเต็นท์พร้อมพวกรวม 4 คน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา มีการไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายไปแล้วประมาณ 90 ราย เป็นเงินกว่า 10 ล้านบาท แต่ยังมีผู้เสียหายบางรายที่อาจจะยังไกล่เกลี่ยไม่ลงตัวจึงได้มาร้องเรียนอีก ยืนยันว่าทางตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากผู้เสียหายมีเป็นจำนวนมากก็ต้องใช้เวลาสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งขณะนี้ก็รวบรวมเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำหนดจะนำสำนวนพร้อมผู้ต้องหาทั้ง 4 คนส่งพนักงานอัยการวันนี้ แต่หนึ่งในผู้ต้องหาอ้างว่าป่วยจึงขอเลื่อนวันออกไปก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี