ลุ้นผ่อนปรนเฟส5
ตัวแทนผับบาร์พอใจผลหารือ
จี้ศบค.ไฟเขียวเปิด1ก.ค.
เยียวยาเพิ่มมากกว่า5พัน
27วันไทยติดเชื้อเป็นศูนย์
ป่วย1ราย-เด็กมาจากตปท.
สธ.แถลงไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1 ราย เป็นเด็กอายุ 6 ขวบ กลับมาจากแอฟริกาใต้ อยู่ในสถานที่กักตัวรัฐส่วนติดเชื้อในประเทศเป็นศูนย์ต่อเนื่องวันที่ 27 ย้ำข้อเสนอ WHO เตือนทุกประเทศกำชับพลเมืองสวมหน้ากากอนามัยป้องกันตนเองต่อไป หลังหลายประเทศที่คลายล็อกแล้วโควิด-19 กลับมาระบาดระลอก 2
ด้านคณะทำงานผ่อนปรนกิจกรรมกิจการฯหารือตัวแทนสถานบันเทิง รับฟังความเห็นข้อเรียกร้องให้คลายล็อคเปิดธุรกิจกลางคืน พร้อมแนวทางเยียวยาเพิ่มเติมที่ชัดเจน โดยเร่งช่วยนักดนตรีอิสระกลุ่มแรก ขณะที่นายกฯสมาคมสถาบันเทิงพอใจศบค.รับข้อเสนอทั้งหมดไปหารือชุดใหญ่ ยันผู้ประกอบการเตรียมพร้อมมาตรการสาธารณสุข สกัดโควิด-19 ระบาด ลุ้นได้รับคลายล็อคเฟส5 ที่ศบค.จะแยกพิจารณารายธุรกิจ เนื่องจากเสี่ยงสูง และเป็นไปได้ที่จะได้รับอนุญาตให้เปิดดำเนินการได้ต้นก.ค.
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19 ) ประจำวันว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อในประเทศไทยวันนี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เป็นผู้เดินทางกลับจากประเทศแอฟริกาใต้และเข้ารับการเฝ้าระวังในสถานที่รัฐจัดให้ ไม่มีผู้ป่วยกลับบ้านได้ ทำให้ผู้ป่วยกลับบ้านสะสม 3,018 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 95.90 ของผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล 72 ราย หรือร้อยละ 2.29 ของผู้ป่วยทั้งหมด ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รวมผู้เสียชีวิตสะสมยังอยู่ที่ 58 ราย ผู้ป่วยสะสมทั้งสิ้น 3,148 ราย
ติดเชื้อ1ราย6ขวบมาจากแอฟริกา
ด้านนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อํานวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันนี้ เป็นเพศชาย อายุ 6 ปี กลับมาจากประเทศแอฟริกาใต้พร้อมมารดา เดินทางมาถึงเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ตรวจหาเชื้อตามระบบการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรค ผลตรวจพบเชื้อแต่ไม่มีอาการ ได้นำส่งเข้าระบบรักษาในโรงพยาบาลทันที สำหรับมารดาได้ตรวจหาเชื้อเช่นกันแต่ไม่พบเชื้อ และยังคงต้องเข้ารับการกักตัวให้ครบ 14 วัน เพื่อตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ซึ่งจะทำการตรวจระหว่างวันที่ 11-13 หลังจากที่เข้าพัก เพื่อสร้างความมั่นใจว่าผู้ที่เข้ารับการกักตัวปลอดเชื้อจริง และไม่นำเชื้อไปแพร่สู่คนในครอบครัวหรือชุมชน สะท้อนให้เห็นว่าการติดเชื้อในเด็กอาจไม่มีการแสดงอาการป่วยได้ ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่งที่ทำให้เกิดการแพร่เชื้อในครอบครัว เนื่องจากการเว้นระยะห่างระหว่างเด็กเป็นเรื่องยาก ดังนั้น คนในครอบครัวควรเลี่ยงการแสดงความรักด้วยการกอด จูบ และถ้าในครอบครัวมีผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวด้วยแล้ว กลุ่มนี้หากป่วยจะมีอาการรุนแรงและมีอัตราการเสียชีวิตสูง
ย้ำใส่แมสป้องกันระบาดรอบ2
นพ.โสภณกล่าวต่อว่า ในส่วนองค์การอนามัยโลก (WHO) ออกมาแถลงเรียกร้องให้ทุกประเทศและประชาชนทุกคนยังคงต้องระมัดระวังและป้องกันตนเองอย่างต่อเนื่อง หลังมีรายงานหลายประเทศกลับมาระบาดระลอกที่ 2 อีกครั้ง พบจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น หลังมีการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในหลายประเทศทั่วโลก ดังนั้น ขอย้ำเตือนประชาชน ไม่ควรประมาท หลังจากรัฐบาลผ่อนปรนมากขึ้นจนเกือบเข้าสู่สถานการณ์ปกติ เริ่มมีการเดินทางมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้บริการรถขนส่งสาธารณะ ต้องสวมหน้ากากอนามัย/ผ้าตลอดการเดินทาง งดพูดคุยและรับประทานอาหารบนรถ ล้างมือบ่อย ๆ รวมถึงหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น หลีกเลี่ยงการพบปะหรือการชุมนุมกันเป็นกลุ่มก้อน จำกัดเวลาในการอยู่สถานที่ใดสถานที่หนึ่ง และออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันตนเองและคนรอบข้าง ที่สำคัญเมื่อใช้บริการในสถานที่ต่าง ๆ ขอให้ลงทะเบียนเข้า-ออกสถานที่ ผ่านแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ทุกครั้งสำหรับผู้ประกอบการต้องเคร่งครัดมาตรการ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อ ต้องทำความสะอาดสถานที่ สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ จัดการพื้นที่เพื่อลดความแออัด เว้นระยะห่าง 1-2 เมตร จัดระบบคัดกรองผู้เข้ารับบริการ และจุดบริการล้างมือ หากเป็นสถานที่ปิด เช่น ห้องประชุม ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ ต้องเช็คระบบระบายอากาศให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก ส่วนผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัย/ผ้าตลอดเวลา
ยังไม่สรุปแรงงานพม่าติดเชื้อ
ขณะที่นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)กล่าวถึงกรณีกระทรวงสาธารณสุข เมียนมาระบุแรงงานชาวเมียนมาผิดกฎหมาย 23 คนที่เดินทางกลับจากไทยติดไวรัสโควิด-19ว่า กรณีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ทั้งนี้ ในฝั่งประเทศไทยได้รับรายงานจากทีมสอบสวนโรคว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนลงพื้นที่ด่านกักกันระหว่างพรมแดนที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อสอบสวนผู้ที่อยู่ในด่านฯ แล้ว เนื่องจากแรงงานกลุ่มนี้เป็นแรงงานผิดกฎหมาย และถูกเจ้าหน้าที่ไทยส่งตัวกลับประเทศตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายนแต่ขณะที่ส่งตัวกลับไม่มีอาการป่วยเข้าเกณฑ์การสอบสวนโรค จึงไม่ได้ตรวจหาเชื้อแต่เมื่อกลับไปถึงประเทศแล้วระยะหนึ่ง จึงตรวจพบเชื้อภายหลัง นอกจากนี้ ไทยยังต้องทราบว่าทางการเมียนมามีมาตรการกักกันโรคของคนกลับเข้าประเทศอย่างไร เพื่อความสบายใจของไทยเอง ฉะนั้น กรณีแรงงานกลุ่มนี้จึงยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าติดเชื้อจากไหน เพราะต้องรอผลสอบสวนโรคทั้งในไทยและเมียนมา ส่วนการค้นหาผู้ป่วยนั้น ยืนยันว่าไทยตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อมากกว่า 50,000 รายต่อสัปดาห์ เฉลี่ยประมาณ 7,000 รายต่อวัน โดยรายงานล่าสุดเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รายงานไปยังกรมควบคุมโรคว่า ไทยตรวจสะสมไปแล้วกว่า 520,000 ตัวอย่าง และการตรวจค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 ของไทยนั้น ดำเนินการเข้มข้น ที่ผ่านมาตรวจไปแล้วแต่ไม่พบผู้ป่วย ส่วนกรณีแรงงานเมียนมากลุ่มนี้ ยังเร็วไปที่จะสรุป เพราะอยู่ระหว่างสอบสวนโรคทั้งในไทยและเมียนมา
ชงหารือเข้าศบค.เคาะคลายล็อค
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะทำงานกลั่นกรองกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 และในฐานะกรรมการ ศบค.ชุด เล็ก หารือร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการผับ บาร์ และคาราโอเกะ ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เพื่อพูดคุยและรับฟังข้อเสนอในการวางแนวทางการผ่อนคลายมาตรการสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าว
พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อนำมติเข้าที่ประชุมศูนย์บริหาร สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือศบค.ชุดใหญ่ โดยนายกรัฐมนตรีสั่งมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือเยียวยาประชาชน อีกทั้ง ขณะนี้เป็นการผ่อนคลายระยะที่ 4 ซึ่งการผ่อนคลายจะต้องให้ความสำคัญ 2 ข้อใหญ่ คือ กิจการกิจกรรม ต้องคำนึงถึงความจำเป็นและความเสี่ยง รวมถึงผลกระทบของเศรษฐกิจและสังคมว่า อะไรจำเป็นมากกว่ากัน ต้องทำเปรียบเทียบกัน ความพร้อมในส่วนผู้ประกอบการ ผู้ใช้บริการ หน่วยงานที่กำกับดูแล ซึ่งการแก้ปัญหาที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีย้ำว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีขึ้น เกิดจากความร่วมมือของคนไทยทุกคนทำตามมาตรการภาครัฐ และผ่อนคลายระยะเวลาที่ผ่านมา ภาครัฐได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ ส่วนตัวยอมรับว่า ศบค. ไม่สามารถติดตามได้ทุกธุรกิจ และวันนี้มารับทราบปัญหาที่ผู้ประกอบการมาพูดคุยกันถึงข้อปัญหาทุกอย่าง แล้วนำมาเป็นข้อสรุปผ่อนคลายกิจการ-กิจกรรมต่อไป
สถานบันเทิงวอนเปิดบางประเภท
นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร ในฐานะตัวแทนของผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิง เปิดเผยว่า ความลำบากที่ผู้ประกอบการถนนข้าวสารพบคือ ก่อนผ่อนคลายระยะที่ 4 ผู้ประกอบการไม่ได้รับอนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงมาตรการเคอร์ฟิว ทำให้ผู้มาใช้บริการไม่สามารถใช้บริการได้เกินกำหนดระยะเวลาที่ภาครัฐจะกำหนดไว้ แต่ทั้งนี้ ยังมีธุรกิจชนิดอื่นที่ไม่ใช่ ผับ บาร์หรือสถานบันเทิง เช่น ร้านอาหารเป็นธุรกิจที่ผ่อนปรนได้ เพราะร้านค้าแต่ละร้านทำตามมาตรการที่รัฐกำหนดไว้ ส่วนตัวเชื่อว่า ผู้ประกอบการทุกคนเชื่อมั่นการทำงานของ ศบค. ที่ทำให้ไม่เกิดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศ 27 วัน แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการคือ ภาครัฐจะมีนโยบายช่วยเหลืออย่างไร หากยังไม่ปลดล็อกให้ธุรกิจสถานบันเทิง ภาครัฐจะช่วยยังไง ส่วนตัวขอแค่ให้ภาครัฐช่วยผ่อนคลาย เพราะผลกระทบกระทบนั้น ส่งผลให้กลุ่มนักดนตรี ที่ไม่ใช่พนักงานประจำ ไม่มีรายได้ ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนต่อครั้ง ในการมาแสดงดนตรี ตนจึงอยากจะเสนอให้ภาครัฐหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลคลายล็อกธุรกิจกลางคืนบางประเภท เช่น ร้านที่แยกกันนั่งเฉพาะกลุ่มคนที่มาด้วยกัน ให้กลับมาเปิดกิจการได้ แต่หากรัฐยังไม่ปลดล๊อก ก็ควรมีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและอาชีพธุรกิจกลางคืน เพราะมาตรการเยียวยาอาชีพอิสระ 5,000 บาท ไม่เพียงพอต่อรายจ่าย
ร้องเยียวยาธุรกิจมากกว่าจ่าย5พัน
นายสง่ากล่าวต่อว่า กลุ่มผู้ประกอบการและอาชีพในธุรกิจกลางคืน ยังเรียกร้องขอให้มีมาตรการเยียวยาเพิ่มเติม อาทิ ขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟท์โลน 5 ปี ขอยกเว้นภาษีสรรพสามิต 5 ปี หรือจนกว่าเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด19 ฟื้นตัว ยืดระยะเวลาพักชำระหนี้บ้าน รถ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อระยะสั้น อีก 3 เดือน โดยมาตรการเหล่านี้ เพื่อเป็นข้อเสนอให้ที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่พิจารณา
พอใจศบค.รับข้อเสนอ-ลุ้นผ่อนเฟส5
นายสง่าให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังการหารือกับศบค.ชุดเล็กว่า การหารือครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจ เราเสนอให้ภาครัฐพิจารณาหากไม่ยังไม่คลายล็อก จะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมถึงพนักงานในกลุ่มต่างๆ ซึ่งเป็นที่น่ายินดีที่ ศบค.ชุดนี้จะรับข้อเสนอทั้งหมดไปเสนอที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ โดยข้อเสนอทั้งหมด ประธานคณะทำงานฯเห็นด้วย และรับไปพิจารณา สำหรับการผ่อนคลายระยะที่ 5 ศบค.ชุดเล็กจะแบ่งพิจารณาเป็นธุรกิจๆไปในส่วนสถานบันเทิง โดยไปดูในรายละเอียดอีกครั้ง จากนั้นจะแยกเป็นรายธุรกิจ ทั้งนี้ การพบกันวันนี้เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการในเรื่องข้อเสนอเพิ่มเติมต่างๆ โดยทั้งหมดได้มีการศึกษารายละเอียดมาก่อนแล้ว
ช่วยนักดนตรีอิสระเล่นร้านอาหาร
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากการพูดคุยเป็นไปได้หรือไม่ที่จะได้รับการปลดล็อกภายในวันที่ 1 กรกฎาคม นายสง่ากล่าวว่าเป็นไปได้ ซึ่งพล.อ.ณัฐพล บอกว่าจะรีบนำข้อมูลไปพิจารณาใน ศบค. ชุดใหญ่ โดยบางธุรกิจของสถานบันเทิงจะปลดล็อก อาทิ ร้านอาหารจะผ่อนคลายให้นักดนตรีเข้าไปเล่นได้ ตามข้อเสนอที่สมาคมฯเสนอไป เพราะไม่ติดขัดอะไร เนื่องจากมีใบอนุญาตให้เปิดได้ถึงเวลาเที่ยงคืนอยู่แล้ว ที่สำคัญ อย่าลืมว่าคนเหล่านี้ไม่มีประกันสังคม รัฐจึงควรช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ก่อนในเบื้องต้น
ยันมีมาตรการป้องกันพร้อมเปิด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนผู้ประกอบการเองยืนยันในมาตรการรักษาความปลอดภัย ป้องกันการแพร่ระบาดของโลกตามมาตรการสาธารณสุข ซึ่งทุกร้านค้าระมัดระวัง และดำเนินการตามมาตรการเหล่านี้อยู่แล้ว ผู้ประกอบการทั้งหมดเตรียมความพร้อมที่จะเปิดให้บริการ และมั่นใจว่าหลังเปิดบริการแล้วทุกธุรกิจมีความพร้อม ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุขยังเป็นห่วงกรณีอาจมีผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการมาให้บริการแล้วทำให้เกิดการแพร่เชื้อนั้น ผู้ประกอบการต้องการความมั่นใจว่า อุปกรณ์ที่ใช้ตรวจวัด โดยเฉพาะอาการของปอด และอุปกรณ์ทางการแพทย์จะยืนยันอาการของผู้ติดเชื้อได้ชัดเจน ซึ่งสาธารณสุขยอมรับว่าเป็นโรคใหม่ ใช้ระยะเวลาฟักตัวนาน ไม่สามารถกำหนดได้เป็นวัน และศบค. บอกว่าเป็นเรื่องใหม่ ต้องใช้เวลาอีกระยะ
ชงศบค.ชุดเล็กถกก่อนเสนอชุดใหญ่
ด้านตัวแทนชมรมสถานบันเทิงไทย ที่มีเครือข่ายทั่วประเทศกล่าวว่า การหารือวันนี้ เราสบายใจขึ้นและมีความหวังว่าจะได้กลับมาเปิดกิจการ แต่สิ่งที่ยังเป็นกังวลคือ แต่ละจังหวัดต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัด (ผวจ.) ซึ่งไม่เหมือนคำสั่งในกรุงเทพฯที่ยึดตามหลัก ศบค. ชุดใหญ่ ดังนั้น ถ้าศบค. มีคำสั่งใดออกมา ผู้ประกอบการเเต่ละพื้นที่อาจต้องรวมตัวไปขอเข้าพบผวจ.เพื่อหารือแนวทางผ่อนคลายอีกครั้ง
ทั้งนี้มีรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะทำงานกลั่นกรองกิจการและกิจกรรมฯ จะนำข้อมูลความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าว ไปรายงานต่อคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งมีพล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาและนำเข้าสู่การขอความเห็นชอบจากที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี