วันพฤหัสบดี ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ศธ.เผยโรงเรียน3.1หมื่นแห่งเปิดเรียนพร้อมกัน  แจงรร.ขนาดใหญ่ต้องออนไลน์สลับมาเรียน

ศธ.เผยโรงเรียน3.1หมื่นแห่งเปิดเรียนพร้อมกัน แจงรร.ขนาดใหญ่ต้องออนไลน์สลับมาเรียน

วันจันทร์ ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 13.33 น.
Tag : เปิดเรียน โรงเรียน ศธ. ออนไลน์
  •  

22 มิถุนายน 2563  ที่ทำเนียบรับบาล นายวราวิช กำภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แถลงว่า กรมอนามัยร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการออกคู่มือการปฏิบัติของสถานศึกษา เพื่อเป็นมาตรการเตรียมความพร้อมตามข้อกำหนดกรมอนามัย 20+24 ข้อ ซึ่งสถานศึกษาจะต้องมีกาคัดกรองสุขภาพ ตรวจสอบการสวมหน้ากาก ล้างมือ จัดเตรียมสบู่ แอลกอฮอล์ ทำความสะอาด เว้นระยะห่าง  และลดความแออัด 

ทั้งนี้โรงเรียนที่สามารถจัดห้องเรียนเว้นระยะห่างไม่ต่ำกว่า 1.5 เมตร นักเรียนมาเรียนพร้อมกันได้ทั้งหมดมี 31,000 โรงเรียนทั้งรัฐบาล นานาชาติและอาชีวศึกษา  ส่วนโรงเรียนขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถมาเรียนพร้อมกันได้และต้องจัดให้สลับกันมาเรียนมีจำนวน 4,500 โรงเรียน ซึ่งในส่วนนี้คนที่ไม่มาเรียนที่โรงเรียน ก็ให้เรียนทางออนแอร์หรือออนไลน์ที่บ้าน โดย 4,500 โรงเรียน จะมีการจัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน 5 รูปแบบ 1.เรียน 5 วัน หยุด 9 วัน 2.สลับวันคี่/คู่ 3.เรียนผสม 4.สลับเรียนและ 5.สลับเช้า-บ่าย   


นายวราวิช กล่าวว่า ทั้งนี้มี 7 ประเด็นที่มีข้อห่วงใย 1.รถโรงเรียน ที่กระทรวงศึกษาธิการได้มอบงบประมาณให้โรงเรียนไปจัดหาซื้อรถโรงเรียนเพิ่มเติม 2.เด็กเล็ก ทั้งนี้โรงเรียนขนาดเล็กนอกจากมีครูประจำแล้วก็จะมีครูผู้ช่วยในการดูแล รวมการจัดให้เด็กนอนห่างกัน 1.5 เมตร หันเท้าชนกัน และไม่สวมหน้ากากระหว่างนอน 3.การรับประทานอาหารกลางวัน ให้แบ่งเป็น 4 ผลัด โดยผลัดละ 30 นาที 4. ในเรื่องการสอบ  กระทรวงศึกษาฯ จะมีการประกาศภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ว่าจะต้องสอบหรือไม่ แต่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จะต้องสอบ 5.กรณีปิดโรงเรียน ให้มีการคัดแยกคนที่มีอาการ แจ้งผู้ปกครอง แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขเข้าไปตรวจสอบ 

โดยหากไม่พบก็สามารถเปิดโรงเรียนได้ตามปกติ แต่หากพบว่ามีคนติดเชื้อให้ปิดโรงเรียน 3 วันเพื่อทำความสะอาด ผู้ใกล้ชิดหยุด 14 วัน 6.ศบค.ได้ประสานกับกระทรวงศึกษาฯ อยากให้มีการใช้ ไทยชนะ ซึ่งส่วนหนึ่งทำได้ อีกส่วนหนึ่งจะให้ครูจดรายชื่อเด็กที่มาเรียนและ7.โรงเรียนชายขอบ ที่เด็กจะข้ามชายแดนเข้ามาเรียน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เปิดให้เข้ามาเรียน ซึ่งปัญหานี้โรงเรียนตามชายขอบได้มีการประสานกับตม.เพื่อเอาใบงานไปใส่ในกล่อง และเด็กนักเรียนมาเอาใบงานและทำการบ้านมาใส่กล่องโดยไม่ต้องเจอกัน ส่วนการเรียนการสอนก็เรียนทางโทรทัศน์

ด้านนายอำนาจ วิชยานุวัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียน ในวันที่ 1 ก.ค.2563 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ว่า ขณะนี้ สพฐ.มีโรงเรียนที่มีความพร้อมสามารถเปิดเรียนที่โรงเรียนได้ ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จำนวน 21,000 โรงเรียน และมีโรงเรียนอื่นๆที่ค่อนข้างมีความพร้อม อีกกว่า 2,000 โรงเรียน ที่ต้องจัดการเรียนการสอนตามห้องประชุมหรือห้องอื่นๆ ซึ่งรวมแล้วมีโรงเรียนที่สามารถเปิดเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติประมาณ 34,000 โรงเรียน

ส่วนที่เหลืออีก 5,000 กว่าโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนนาดใหญ่ ซึ่งมีนักเรียนจำนวนมาก ส่วนใหญทางโรงเรียนจะจัดการเรียนแบบผสมผสานกัน ทั้งแบบออน์ไซต์บวกออนไลน์ ในจำนวนมีทั้งทั้งโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาและระดับประถมศึกษา -ระดับอนุบาล ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ประจำอำเภอ ก็ขอให้ทางโรงเรียนและคุณครูดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดระหว่างเรียน เพราะเน้นให้เด็กมาโรงเรียน ส่วนเด็กที่มาโรงเรียนไม่ได้ก็ขอให้ผู้ปกครองดูแล

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวต่อถึงโรงเรียนที่มีเด็กนักเรียนพักนอนที่โรงเรียน และโรงเรียนที่มีที่พักนอนที่มีมาตรฐาน คือโรงเรียนการศึกษาพิเศษ โรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย โรงเรียน ภปร.ราชวิทยาลัย ซึ่งมีหอพักที่ได้มาตรฐาน และสามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามมาตรการ ศบค.

ส่วนโรงเรียนที่มีข้อจำกัดของที่พักนอน คือโรงเรียนที่มีห้องพักนอนที่สร้างขึ้นมาเอง หรือสพฐ.สร้างให้ แต่มีเด็กอยู่ในลักษณะแออัด ซึ่งโรงเรียนประเภทนี้มีอยู่ประมาณ 500 โรง ใน 39 เขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งเป็นโรงเรียนทั้งระดับประถมฯและมัธยมฯ สพฐ.จึงให้ทางโรงเรียนและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเข้าไปดูแลเป็นการเฉพาะเพื่อให้เด็กที่บ้านอยู่ไกลได้มาเรียนครบทุกคน ซึ่งอาจจะให้เด็กไปพักนอนช่วงกลางคืนตามห้องเรียน หรือห้องประชุมเพื่อลดความแออัดและเพื่อให้เด็กปลอดภัยจากโควิด-19

เลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า หากเปิดเรียนวันแรกโรงเรียนพบมีเด็กติดเชื่อโควิด-19 ก็ให้ทางโงเรียนส่งเด็กไปให้กับทางสาธารณสุขทันที ไม่ให้พักรักษาที่ห้องพยาบาลภายในโรงเรียน หรือมาตรวจในโรงเรียนเพราะจะเป็นการแพร่เชื้อ หากกรณีพบหลังเปิดเทอมไปแล้ว ก็ให้ตรวจสอบเส้นทางเด็กที่ติดเชื้อว่ามาจากที่ใด ถ้าเด็กที่ติดเชื้ออยู่แต่ห้องเรียนก็ให้ปิดเฉพาะห้องเรียนนั้น แต่ถ้าไปสัมผัสเพื่อนๆนักเรียนคนอื่นๆในโรงเรียนด้วย ก็ให้ปิดทั้งโรงเรียน ซึ่งต้องปฏิบัติตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด และหากมีการปิดการเรียนการสอนั้โรงรียนก็ให้ทำการเรียนการสอนผ่านระบบออน์แอร์ และออนไลน์ ซึ่งเป็นระบบที่ สพฐ.เตรียมความพร้อมไว้รองรับอยู่แล้ว 

ส่วนกรณีเด็กนักเรียนชายขอบทางภาคเหนือที่จะดินทางเข้ามาเรียนคงเข้ามาไม่ได้เนื่องจากยังมีการล็อคดาวน์ แต่ถ้าเป็นเด็กไทยจึงจะอนุญาตให้เข้าได้ สำหรับกรณีภาคใต้คือเด็กไทยที่ไปอยู่กับพ่อแม่ที่มาเลเซีย ได้รับอนุญาตให้เข้าได้ แต่ต้องมีการกักตัวในสถานที่ของรัฐ ส่วนเด็กที่อยู่กับพ่อแม่ที่มาเลเซียไม่กลับมาไทย แต่อยากเรียนหนังสือ ก็ให้เรียนทางออนไลน์และมีการส่งใบงานที่ครูประจำชั้นได้

“จากที่ผมลงสำรวจพื้นที่ และจากการสอบถาม ผอ.เขตพื้นที่ฯ และ ผอ.โรงเรียน รวมถึงส่งตัวแทนลงไปสำรวจพื้นที่แล้ว พบว่าโรงเรียนส่วนใหญ่มีความเข้าใจในการป้องกันโควิด-19 และมีความพร้อมตั้งแต่หน้าโรงเรียนที่จะต้องมีการคัดกรอง วัดอุณภูมิเด็ก และในโรงเรียนจะต้องมีมาตรการอย่างไร เช่น การเว้นระยะห่างทางสังคม การล้างมือ โดยทางโรงเรียนจะต้องให้ความรู้แก่เด็กที่จะดูแลป้องกันตัวเองได้ และทางส่วนกลางก็พยายามสนับสนุนในการดำเนินการของโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ศธ.พลิกโฉม 42 โรงเรียน จ.ศรีสะเกษ มุ่งสู่สตาร์ทอัพตั้งแต่วัยเรียน ศธ.พลิกโฉม 42 โรงเรียน จ.ศรีสะเกษ มุ่งสู่สตาร์ทอัพตั้งแต่วัยเรียน
  • ศธ.จัดพิธีต้อนรับครูอาสาสมัครสอนภาษาจีน รุ่นที่ 23 ศธ.จัดพิธีต้อนรับครูอาสาสมัครสอนภาษาจีน รุ่นที่ 23
  • ‘ศธ.’ให้อำนาจ‘ผอ.โรงเรียน’ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งหยุดเรียนได้ทันที หากรู้สึกเสี่ยง ‘ศธ.’ให้อำนาจ‘ผอ.โรงเรียน’ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา สั่งหยุดเรียนได้ทันที หากรู้สึกเสี่ยง
  • รัฐบาลย้ำโรงเรียนทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติช่วงฤดูฝน รัฐบาลย้ำโรงเรียนทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติช่วงฤดูฝน
  • ศธ.จัดมหกรรมการศึกษาไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต สร้างเครือข่ายมั่นคงสู่อนาคต ศธ.จัดมหกรรมการศึกษาไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต สร้างเครือข่ายมั่นคงสู่อนาคต
  • ศธ.เล็งตั้งสหกรณ์กลางระดับภูมิภาค ทางเลือกให้ครูกู้เงินสหกรณ์ดอกเบี้ยต่ำ ศธ.เล็งตั้งสหกรณ์กลางระดับภูมิภาค ทางเลือกให้ครูกู้เงินสหกรณ์ดอกเบี้ยต่ำ
  •  

Breaking News

ชำแหละ 4 ข้อ 'ทักษิณ'โชว์วิสัยทัศน์! 'หลงยุค หลงตัวเอง ขายฝัน แก้ตัว'

'ยุน ซอกยอล'อดีตปธน.เกาหลีใต้ติดคุกอีกรอบ ศาลอนุมัติหมายจับหวั่นหลักฐานถูกทำลาย

'วัส ติงสมิตร'ชี้'หมอ-พยาบาล-จนท.ราชทัณฑ์'ไม่รอด เตรียมรับวิบากกรรม ป่วยทิพย์ชั้น 14

นักธุรกิจการเมืองทำรัฐล้มเหลว! 'สมชาย'ชี้คอร์รัปชันเชิงนโยบาย บ่อนทำลายพลังอำนาจแห่งชาติ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved