ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่สำคัญคือ พันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์พืช หรือ พันธุ์สัตว์ หากได้พันธุ์ดีในการทำการเกษตรก็สามารถรับประกันเป็นขั้นต้นว่า มีโอกาสประสบความสำเร็จในอาชีพการเกษตรสูง และในทางกลับกัน หากได้พันธุ์ที่ไม่ดี ยิ่งอายุในการให้ผลผลิตของพืชหรือสัตว์ยาวนาน ก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้กับเกษตรกรผู้ที่ใช้พันธุ์ดังกล่าว หมดโอกาสในการเปลี่ยนแปลง และอาจรุนแรงถึงขั้นต้องออกไปจากอาชีพการเกษตร หรือแม้ว่าอายุของพืชหรือสัตว์ที่จะให้ผลผลิตนั้นไม่ยาวนาน แต่ด้วยข้อจำกัดของสิ่งแวดล้อมดินฟ้าอากาศทำให้สามารถทำการผลิตได้เพียงปีละ 1 ครั้ง ความเสียหายก็ไม่ต่างกัน ดังนั้น เกษตรกรมืออาชีพจึงให้ความสำคัญต่อการคัดเลือกและเลือกใช้พันธุ์ดีในการเพาะปลูกหรือเพาะเลี้ยงเสมอผู้นำเกษตรกรบางรายถึงกับเอ่ยปากว่า ความยากจนของเกษตรกรบางส่วนมีปัจจัยมาจากการไม่สามารถเข้าถึงแหล่งพันธุ์ดีได้ ไม่ว่าจะเป็นต้นทุนของพันธุ์ดีที่มีราคาสูง หรือมีจำนวนน้อยจนหาได้ยากก็ตาม
พันธุ์ดี ในความหมายของเกษตรกรแต่ละรายอาจไม่เหมือนกัน แต่โดยหลักแล้ว จะต้องเป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูง ต้านทานต่อโรค-แมลง และอาจมีคุณสมบัติเฉพาะตามความต้องการของตลาด จึงมีโอกาสที่เกษตรกรจะถูกหลอกลวงให้ใช้พันธุ์ที่ไม่มีคุณภาพ ไม่ตรงตามพันธุ์ได้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้พูดคุยกับประธาน ศพก. หรือ ศูนย์เรียนรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร และประธานแปลงใหญ่ข้าว ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลายราย ทั้งสองกลุ่มให้ข้อมูลตรงกันว่า สำหรับปีการผลิตนี้ปัญหาการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพเป็นปัญหาสำคัญของเกษตรกร เนื่องจากมีการปลูกข้าวไปแล้วเมื่อต้นฤดู แต่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ทำให้ต้องไถทิ้งเพื่อปลูกใหม่ เป็นเหตุให้สูญเสียเมล็ดพันธุ์ไปในรอบแรก อันที่จริงแล้วก็มีการเตือนกันตลอดว่าอย่าเพิ่งรีบปลูกให้รอฝนก่อน แต่ก็เตือนกันได้บ้างไม่ได้บ้าง พอฝนชุดใหญ่มา จำเป็นต้องไปหาเมล็ดพันธุ์ชุดใหม่มาปลูกแทนเมล็ดพันธุ์ชุดเดิมที่ไถกลบไป รอบนี้เมล็ดพันธุ์คุณภาพจึงหายากมากขึ้นไปอีก สบโอกาสที่ฝ่ายนโยบายจะสร้างความชอบธรรมในการให้หน่วยงานของรัฐจัดหาเมล็ดพันธุ์ข้าวจ่ายแจกให้เกษตรกรที่ขาดแคลนในพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยอาจไม่เข้าใจว่า เมล็ดพันธุ์ กับ เมล็ดปกติ มันไม่เหมือนกัน
ปัญหาที่ตามมาในเวลานี้คือ คุณภาพของเมล็ดพันธุ์ข้าวที่หน่วยงานของรัฐจัดหามาให้เกษตรกร ไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานเมล็ดพันธุ์ การตรวจรับ-ส่งมอบ คุณภาพคงผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่เมื่อเมล็ดพันธุ์ชุดนั้นไปถึงมือเกษตรกร ปรากฏว่า ไม่เป็นไปตามนั้น เมล็ดพันธุ์ข้าวที่เกษตรกรได้รับ เป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีสิ่งเจือปนเกินมาตรฐาน มีการพบข้าวปนเป็นจำนวนมากกว่าที่จะยอมรับได้ เกษตรกรกลุ่มนี้ไม่ใช่เกษตรกรที่ไม่รู้เรื่องมาตรฐานเมล็ดพันธุ์ข้าว ไม่ใช่กลุ่มที่เห็นว่าเป็นของฟรีก็รับมา เกษตรกรกลุ่มนี้จึงปฏิเสธที่จะรับเมล็ดพันธุ์ข้าวที่หน่วยงานของรัฐนำมาแจกจ่ายตามโครงการของฝ่ายนโยบาย เพราะเล็งเห็นความล้มเหลวในอาชีพหากจะต้องนำเมล็ดพันธุ์ชุดนี้ไปเพาะปลูก
ประเด็นดังกล่าวสะท้อนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เป็นผู้เชื่อมระหว่างฝ่ายนโยบายและเกษตรกร การยืนหยัดในความถูกต้องตามหลักวิชาการเป็นประเด็นที่เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องมีจิตสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่ บางทีความถูกต้องอาจไม่ถูกใจ แต่สามารถให้ความสง่างามต่อการเป็นข้าราชการยังคงอยู่ อย่าถึงกับให้เกษตรกรปฏิเสธการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐในเรื่องอื่นๆ อีกเลย
วิธีการคิดและทำโครงการแบบนี้ของนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐที่ไร้จิตสำนึกความเป็นข้าราชการที่ดีหายไปนาน ผมไม่คาดคิดว่าจะกลับมาได้อีกในยุคนี้ แต่ผมก็ดีใจที่ยังมีเกษตรกรที่รู้ทันไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มคนเหล่านี้ สังคมจะดีเราต้องช่วยกัน
สมชาย ชาญณรงค์กุล
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี