ศาลแรงงานภาค 9-สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานตรัง จัดกิจกรรมเชิงรุก “ศาลแรงงานเคลื่อนที่” ตั้งโต๊ะอำนวยความสะดวกให้กับลูกจ้าง-นายจ้าง รับรู้-เข้าใจสิทธิตามกฎหมายแรงงาน ช่วงโควิด 19

25 มิถุนายน 2563 ที่ศาลจังหวัดตรัง นายพิสิษฐ นิ่งน้อย อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานภาค 9 มอบหมายให้ นางสาวจิราพร  ศิริพงษ์ เลขานุการศาลแรงงานภาค 9 จัดโครงการ "ศาลแรงงานเคลื่อนที่" ครั้งที่  ภายใต้โครงการพัฒนาระบบการให้ความช่วยเหลือและอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนด้านแรงาน โดยมี นายสุรสิงห์ จุนณศักดิ์ศรี สวัสดิการและคุ้มครองจังหวัดตรัง ข้าราชการเจ้าหน้าที่รวมทั้งลูกจ้างนายจ้างร่วมกิจกรรม

สำหรับศาลแรงงานเคลื่อนที่ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการศาลยุติธรรมห่วงใยฝ่าภัยโควิด โครงการดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อให้บริการเคลื่อนที่ในการสร้างการรับรู้และเข้าใจ ถึงสิทธิสวัสดิการของนายจ้างและลูกจ้างตามกฎหมายแรงงานในเชิงรุก ให้ข้อมูลและคำปรึกษาด้านกฎหมายแรงงานก่อนฟ้อง การไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง การรับฟ้องเคลื่อนที่และการบริการอื่น ๆ แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19ทั่วเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งมีกำหนดการจัดโครงการ เดือนละ 2 ครั้ง รวม 8ครั้ง ตั้งแต่วันที่25 มิถุนายน ถึงวันที่ 11  กันยายน2563 และวันที่26 มิถุนายน ศาลแรงงานภาค 9 จะเดินทางไปจัดกิจกรรมที่จังหวัดพัทลุง

นางสาวจิราพร  กล่าวว่า  สำหรับโครงการศาลแรงงานเคลื่อนที่เป็นนโยบายของนายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ ประธานศาลฎีกา ที่มีดำริที่จะให้ศาลออกบริการให้แก่ประชาชนเชิงรุก ในสถานการณ์ของโรคระบาดโควิด 19 นอกจากจะได้มาพบปะหน่วยงานต่างๆที่เป็นเครือข่ายในพื้นที่แล้วยังมารับฟ้องไกล่เกลี่ยสำหรับผู้ที่จะต้องมาศาลที่ไม่ต้องเดินทางไปยังจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลแรงงานภาค 9 นอกจากนี้ขอประชาสัมพันธ์ไปถึงนโยบายของสำนักงานศาลว่า มีการไกล่เกลี่ยออนไลน์เพื่อสนองนโยบายเว้นระยะห่างทางสังคม และเนื่องจากสำนักงานศาลแรงงานฝากแจ้งว่าผู้ร้องไม่ต้องเดินทางไปศาลทุกกรณี สามารถยื่นฟ้องทางออนไลน์ได้ และสามารถที่จะติดตามผลคดีผ่านระบบCIOS หรือติดตามสำนวนคดีTracking  และจ่ายเงินผ่านระบบอีเพย์เม้นท์ นอกจากนี้เวลาคัดถ่ายคำพิพากษาไม่จำเป็นต้องไปคัดถ่ายที่ศาล สามารถยื่นคำร้องผ่านทางออนไลน์ จากนั้นศาลจะส่งคำพิพากษาทางไปรษณีย์ สำหรับวันนี้มาลูกจ้างแรงงานมาขอคำปรึกษามากพอสมควร เนื่องจากได้รับความร่วมมืออย่างดีจากสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดตรัง ทางศาลแรงงานภาค 9 รู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสมารับใช้พี่น้องประชาชนนอกสถานที่ และมีนโยบายที่จะสัญจรเคลื่อนที่ไปยังจังหวัดทั่วภาค 9

ด้านนายสุรสิงห์ กล่าวว่า กิจกรรมศาลแรงงานเคลื่อนที่ๆจัดขึ้นในวันนี้ ได้รับการประสานจากศาลแรงงานภาค 9 ด้วยการจัดกิจกรรมศาลแรงงานภาค9เคลื่อนที่ทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดตรังซึ่งดูแลกฎหมายคุ้มครองแรงงานในพื้นที่จังหวัดตรัง ได้มีการประสานเชิญชวนกลุ่มเครือข่ายผู้ใช้แรงงานจังหวัดตรัง ถ้าลูกจ้างหรือนายจ้างมีปัญหาสงสัยอยากจะปรึกษากฎหมายด้านแรงงานหรือคดีที่เกี่ยวข้องกับศาลแรงงานให้เดินทางมาปรึกษาได้ ซึ่งวันนี้มีหลายเคสมาขอบริการจากศาลแรงงานภาค 9

“กระบวนการของลูกจ้างที่จะใช้สิทธิได้ 2ทางคือ ใช้สิทธิได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือจะใช้สิทธิทางศาล ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยกระบวนการจริงๆจะมีการมาใช้สิทธิที่สำนักงานคุ้มครองแรงงานจังหวัดตรัง เมื่อเจ้าหน้าที่รับคำร้องแล้วจะมีการสอบข้อเท็จจริงทั้งฝ่ายลูกจ้างและนายจ้าง ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ก็ยุติ แต่ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้พนักงานตรวจแรงงานะออกคำสั่งอย่างใดอย่างหนึ่งไป  ซึ่งคำสั่งมี 2 แนวทางคือสั่งให้นายจ้างจ่ายตามสิทธิที่ลูกจ้างควรได้รับ และสั่งว่าลูกจ้างไม่มีสิทธิอย่างไรก็ตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงงานทั้ง 2 ฝ่ายสามารถอุทธรณ์ได้ด้วยการนำคำสั่งไปขอเพิกถอนที่ศาลแรงงานภายในระยะเวลา 30 วันตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่งกระบวนการก็จะเข้าสู่ศาลแรงงานต่อไป สำหรับลูกจ้างที่เดินทางมาขอคำปรึกษาในวันนี้ ถ้าอยากจะฟ้องคดีกับศาลแรงงานๆก็จะรับเรื่องไปเลย ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้แรงงานให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น”

ทั้งนี้ แรงงานที่ร้องเรียนส่วนใหญ่จะอยู่ในทุกประเภทของกิจการตั้งแต่ภาคอุตสาหกรรม พาณิชย์กรรม และด้านบริการ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของค่าจ้าง ค่าชดเชย ค่าบอกกล่าวล่วงหน้าที่มีปัญหารวมทั้งเรื่องเงินประกัน อย่างไรก็ตามในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด โชคดีที่ส่วนใหญ่จะแนะนำให้นายจ้างลูกจ้างใช้หลักกฎหมายแรงานสัมพันธ์มากกว่าหลักกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ที่สามารถตกลงกันได้เนื่องจากสถานการณ์โควิดเป็นสถานการณ์ชั่วคราว เพราะฉะนั้นนายจ้างไม่สามารถประกอบกิจการได้ชั่วคราวจากรัฐสั่งปิดหรือได้รับกระทบจากการแพร่ระบาดของโรค ที่มีการหยุดกิจการที่มีห้วงระยะเวลา ในส่วนของแรงงานลูกจ้างในจังหวัดตรังขณะนี้มีอยู่กว่า 3 หมื่นราย มีสถานประกอบการกว่า 2,800 กว่าแห่ง เป็นแรงงานต่างด้าวประมาณ 3-4พันคน  ขณะนี้หลายสถานประกอบการบางแห่งกลับมาประกอบการกันอย่างปกติ และบางแห่งยังคงเข้าสู่ภาวะปกติไม่ได้ ก็ได้มีการดูแลให้คำแนะนำเรื่องหลักกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ช่วยเหลือกันอยู่