26 มิถุนายน 2563 นายมนตรี คำใหญ่ อายุ 58 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ นายทรงศักดิ์ จุรีมาศวินิจกุล อายุ 65 ปี หรือตี๋เคี๊ยะ ที่พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 150 หมู่ 2 บ้านหนองกระทุ่ม ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เพียงลำพังคนเดียว ซึ่งมีฐานะยากจน บ้านพักที่อยู่อาศัยมีสภาพทรุดโทรมผุพังตามกาลเวลา บ้านมีหลังคามุงจากเพียงครึ่งหลัง ส่วนที่มีหลังมุงอยู่ก็ยังรั่ว พอฝนตกลงมาไม่สามารถหลบฝนได้ ต้องใช้ถุงพลาสติกและนำป้ายไวนิลเก่าๆ มาขึงกั้นใต้หลังคาเหนือมุ้งที่กางอยู่ เพื่อรองรับน้ำฝนที่หยดลงมาตามรูรั่วของหลังคา เพื่อเป็นการบรรเทาน้ำฝนที่ตกลงมาจากฟ้า เพื่อไม่ให้หยดลงมุ้งจนเปียกแฉะ ส่วนพื้นที่ใช้เป็นทางเข้าออกจากบ้าน ก็มีน้ำท่วมขังตลอดทั้งปี ต้องทนใช้ชีวิตอย่างน่าสงสาร

นายมนตรี คำใหญ่ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ได้สำรวจภายในบ้านที่พบเห็นมีเพียงตู้ใส่กับข้าวเก่าๆ เตาฟืน หม้อ ไห กระทะ กะละมัง จาน ชามข้าวเพียงไม่กี่ใบ แถมยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ เนื่องจากโดนตัดกระแสไฟฟ้าไปนานหลายสิบปี ต้องอาศัยจุดเทียนไข ตะเกียง และใช้ไฟฉายให้แสงส่องสว่างในยามค่ำคืน ส่วนน้ำประปาหมู่บ้านก็ไม่มีใช้เหมือนกับเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง น้ำที่กินใช้ต้องตักใส่ถังหาบน้ำมาจากลำรางริมถนนข้างทาง ซึ่งเป็นน้ำที่ไหลระบายออกมาจากค่ายทหาร ส่งผลให้น้ำมีสภาพขุ่น สกปรก และไม่ใสสะอาด แต่ก็ต้องตักมาใส่โอ่ง

สำหรับไว้ใช้อาบ ดื่มกิน หุงข้าว รวมถึงปรุงเป็นอาหาร เพื่อบริโภคในชีวิตประจำวัน ในเบื้องต้นได้เตรียมประสานงานไปยัง กลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ อบต.บ่อสุพรรณ และนักพัฒนาชุมชนอำเภอสองพี่น้อง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รีบเร่งเข้าให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน เนื่องจากช่วงระยะนี้ก้าวย่างเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว

คุณลุงทรงศักดิ์ กล่าวว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไป รายได้หลักมาจากเงินเบี้ยผู้สูงอายุ 600 บาท และเงินสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนอีก 300 บาท ส่วนงานรับจ้างที่ทำมีทั้งตัดหญ้า ขุดดินไถนา ปลูกอ้อย ตัดอ้อย ฉีดยาฆ่าหญ้า ฉีดปุ๋ย เพื่อหาเลี้ยงชีวิตตัวเอง ซึ่งอยู่เพียงคนเดียวตามลำพัง รายได้ต่อวันไม่แน่นอน 100-200 บาท บางวันก็ไม่มีรายได้ เนื่องจากไม่มีคนจ้างให้ทำงาน นายจ้างส่วนใหญ่จะเป็นชาวบ้านหนองเขมร หมู่ 2 ต.บ่อสุพรรณ ซึ่งในแต่ละวันต้องปั่นรถจักยานสองล้อ เพื่อไปรับจ้างทำงานที่บ้านหนองเขมร ระยะทางไปกลับ 12-15 กิโลเมตร ตั้งแต่จำความได้เกิดมาชีวิตลำบากทุกอย่าง รวมถึงค่าใช้จ่าย ค่าอาหาร การกินอยู่ในแต่ละวันก็แทบจะไม่พอกิน พอใช้อยู่แล้ว เรื่องจะเอาเงินมาซ่อมแซมบ้านที่อยู่อาศัย นั้นคงเป็นไปได้ยาก แต่ก็ต้องทนอยู่ เพราะเราอยู่บ้านหลังนี้มาเกือบทั้งชีวิต

ภายในบ้านหลังนี้ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ให้สะดวกสบายเหมือนบ้านทั่วไป ทั้งที่นอน ห้องครัวไม่เป็นสัดส่วน โดยสภาพบ้านที่พักโดยรวม นั้นมีห้องน้ำ-ห้องสุขา ที่แยกออกมาจากตัวบ้าน ครัวก็ต้องใช้ไม้ฝืนหุงหากินกันบนพื้นดิน ที่กิน ที่นอน แทบจะเป็นที่เดียวกัน ต้องทนทุกข์ยากได้รับความลำบากมาก ทีวี พัดลม ตู้เย็น รถจักรยานยนต์ ที่มีอยู่ก็เป็นแค่เศษซากขยะ ที่เสียใช้งานไม่ได้มานานหลายสิบปี ที่เป็นได้เพียงแค่กองขยะประดับประจำบ้านเท่านั้นเอง ส่วนตัวอยากได้รับการช่วยเหลือให้ได้มีหลังคาบ้านที่ให้ได้พออาศัยหลบแดดหลบฝน และมีห้องน้ำที่ถูกสุขลักษณะไว้ได้ใช้ในการดำรงชีวิต จึงวอนขอผู้ใจบุญมาช่วยซ่อมแซมบ้าน หลังคาบ้าน และทางเข้าออกบ้านให้อยู่ในสภาพที่ดีขึ้นกว่าเก่า ให้นึกว่าสงสาร และทำบุญกับผู้ยากไร้