กองปราบปราม เรียกสอบเพิ่มอีก 5 ปากพยานบุคคล หาหลักฐานมัดขบวนการวางแผนชิงตัว ”บรรยิน”สอบสวนคืบไปกว่าร้อยละ 80 เผยพยาน3ปากที่ถูกออกหมายเรียกได้แจ้งวันให้ปากคำคดี คาดภายใน 2 สัปดาห์ จะสามารถสรุปสำนวนคดีได้
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. 63 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ ว่า จากการสอบปากคำพยาน 2 ปาก ในเรือนจำเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน เบื้องต้น ให้การค่อนข้างเป็นประโยชน์และเป็นไปตามประเด็นที่คาดไว้ ขณะที่ในส่วนของการสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆทั้งหมดของคดีดังกล่าวขณะนี้มีการไปแล้วเกือบ 10 ปาก ถือว่ามีความคืบหน้าไปมากกว่าร้อยละ 80
สำหรับผู้ถูกหมายเรียกสอบในฐานะพยานทั้ง 3 ราย ได้แก่ นายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ ลูกชาย พ.ต.ท.บรรยิน, พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ อดีต ส.ส.เขต 4 จังหวัดนครสวรรค์ และนายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความที่ประกันตัวนายสุธน มาเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกในวันที่ 29 -30 มิ.ย. และ 1 ก.ค.นี้
ซึ่งจะดูว่าพยานทั้ง 3 คนจะให้ถ้อยคำอย่างไร หากให้การตรงไปตรงมา อาจจะไม่ถูกดำเนินคดี แต่หากพบว่ามีความพยายามปกปิดหรือปิดบังซ่อนเร้นซึ่งเข้าข่ายกระทำผิดตามกฎหมายก็จะพิจารณาอีกครั้ง
หลังจากนั้นภายใน 2 สัปดาห์ คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้
พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ในวันนี้ พนักงานสอบสวน จะมีการออกไปสอบปากคำพยานสำคัญ 1 ปาก และยังมีพยานอีก 5 คนที่จะเรียกสอบเพิ่มในสัปดาห์หน้าอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำหรับ นายกรณ์ ทนายความนั้น เบื้องต้นพบว่าเคยเป็นทนายความให้กับ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์ ซึ่งปัจจุบันชื่อ น.ส.วัชรียา หรือ น้ำมนต์ วัชรประยงค์วุฒิ จากคดีโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี