‘เชียงใหม่-เชียงราย’อ่วมหนัก

ฝนถล่มเหนือ

‘ลำปาง-พะเยา’โดนด้วย

สะพานขาด/ถนนพังยับ

‘กรมทางหลวง’เข้ากู้

เร่งเปิดเส้นทางจราจร

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือน ประเทศไทยตอนเหนือ ยังมีฝนตกหนัก ในขณะที่ รมว.คมนาคม สั่งเร่งซ่อมสะพาน ถนนเปิดให้บริการตามปกติ หลังฝนกระหน่ำหนักในพื้นที่ เชียงใหม่ เชียงราย และลำปาง จมน้ำหลายครัวเรือน

เมื่อเช้าวันที่ 27 มิถุนายน นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้สั่งการให้ กรมทางหลวง แขวงทางหลวง และหมวดทางหลวงรวมถึงศูนย์สร้างทาง และศูนย์สร้างสะพาน ทั่วประเทศ เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง น้ำป่า ดินถล่ม ทางสไลด์ที่อาจจะเกิดปัญหา หากพื้นที่ใดได้รับผลกระทบจนทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถสัญจรผ่านเข้า-ออกได้ ให้หน่วยงานที่กี่ยวข้องเตรียมพร้อม เจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องจักร สะพานเบลี่ย์ (สะพานเหล็กชั่วคราว) 24 ชม. พร้อมออกปฏิบัติการทันที ให้สามารถกลับมาสัญจรใช้งานได้โดยเร็ว รวมทั้งให้อำนวยความสะดวก บริการประชาชนที่ใช้ทาง และแจ้งเส้นทางเลี่ยงเพื่อให้สามารถเดินทางได้

ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศลาว และเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส

ขณะเดียวกันตลอดทั้งคืนวันที่ 26 มิถุนายน มีฝนตกลงมาอย่างหนักในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ทำให้เช้า มีน้ำป่ากัดเซาะในลำน้ำกวงเพิ่มขึ้นรวดเร็วและไหลแรง กัดเซาะถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย ขาดบริเวณบ้านแม่หวาน กิโลเมตรที่ 33 บ้านป่าแหน กิโลเมตรที่ 35 และบ้านปงอ้อ กิโลเมตรที่ 37 ตำบลป่าเมี่ยง อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ รวม 3 จุด แต่ละจุดถนนถูกน้ำป่ากัดเซาะกว้างกว่า 3 เมตร ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ และส่งผลให้มีรถตกค้างจำนวนมาก

เช่นเดียวกับที่จังหวัดพะเยา ได้เกิดฝนตกหนักนานหลายชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก พัดเอาดินโคลนเข้าท่วมบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตร ได้รับความเสียหาย หลายหมู่บ้านโดยเฉพาะบ้านเรือน หมู่ 1 หมู่ 2 ต.ดงสุวรรณ อ.ดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา มีบ้านเรือนชาวบ้าน เรือกสวนไร่นา ได้รับ ความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เพราะถูกดินโคลนไหลเข้าท่วม

จากการสำรวจพื้นที่พบ บ้านเรือนได้รับความเสียหายมากสุดพื้นที่ตำบลดงสุวรรณ หมู่ 1-2 ในซอย 11 ทางแยก ถนนสายดอกคำใต้-จุน และอีกหลายซอยน้ำป่าและดินโคลนไหลเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนเป็นบริเวณกว้างส่งผลให้บ้านเรือน รถยนต์ สัตว์เลี้ยง และพืชผลทางการเกษตร ได้รับความเสียหายและ ยังพัดเอารถยนต์บรรทุกศพซึ่งจะทำการฌาปนกิจวันนี้ไหล ไปกับสายน้ำ หลายร้อยเมตร จะได้รับความเสียหาย และทำให้ยานพาหนะชาวบ้านไม่สามารถสัญจรไปได้สะดวก หลังจาก ฝนจะตก และน้ำได้แห้งลง ชาวบ้านต่างเร่ง ทำความสะอาดบ้านเรือน ที่ดินโคลนไหลเข้าในบ้าน และขนย้ายทรัพย์สิน ที่เสียหายและถูกดินโคลน ครับผม นำออกมาทำความสะอาด

จากการสอบถามนายอ้วน มหายศ อายุ 64ปีบ้านเลขที่8หมู่ 1 ตำบลดงสุวรรณอำเภอดอกคำใต้ ชาวบ้านกล่าว ว่า เมื่อคืนเวลาประมาณ 02.00 น ขณะที่กำลังหลับอยู่ กับภรรยาและหลาน ชั้นล่างของบ้าน ได้เกิดฝนตกหนักและทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก พัดเอาดินโคลนไหลเข้าท่วมบ้าน อย่างรวดเร็ว เมื่อตื่นขึ้นมาจึงรู้ว่าน้ำไหลท่วมบ้านแล้วจึงได้ทำการ ขนย้ายทรัพย์สินแต่ไม่ทัน ถึงได้อุ้มหลานขึ้นข้างบนของบ้าน และน้ำได้ไหลเอาดินโคลนเข้าห้องนอน และถ่ายคลัทช์รถเครื่องรถจักรยานและอื่นๆที่วางไว้จะหายหมด และข้าวเปลือกที่ใส่ในกระสอบได้ไหลไปตามน้ำและสัตว์เลี้ยงสูญหายด้าย

ขณะเดียวกันก็ยังได้มีชาวบ้านบางคนบอกว่า สัตว์เลี้ยง อาทิ วัวที่มัดผูกไว้ในคอกได้ไหลไปกับน้ำ 4 ตัวยังหาไม่เจอ รวมทั้งเป็ดไก่และทรัพย์สินอื่นๆได้ถูกน้ำพัดหายไปกับสายน้ำก็ยังหาไม่เจอด้วยเช่นกัน นอกนั้นยังพบว่าน้ำกัดเซาะร่องถนน ในซอยและในหมู่บ้าน ได้ถูกน้ำกัดเซาะเสียหายหลายแห่งด้วย

นายสุจินต์ แสงแก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลป่าเมี่ยง บอกว่าฝนตกหนักตั้งแต่เวลา 23.00 น. บนดอยนางแก้ว จนถึงเช้า ทำให้น้ำป่าไหลหลากมาตามลำน้ำกวง ก่อนไหลเข้าเขื่อนแม่กวง แต่ทำให้ถนนขาด สายดอยสะเก็ดไปเชียงราย ทั้งขาขึ้นและขาล่องขาด ทำให้มีรถตกค้าง ขอให้ประชาชนเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน ถ้ามาจากเชียงรายจะไปเชียงใหม่ ให้ไปใช้เส้นทางเลี่ยงไปทางบ้านปางแฟน บริเวณขาหมูภูเก็ต ออกแยกบ้านแม่ตอน เข้ามาเชียงใหม่ ถ้ามาจากเชียงใหม่ไปเชียงราย ให้เข้าตรงป้อมตำรวจโป่งดิน เข้าไปทางวัดโป่งกุ่ม เลี้ยวเข้าบ้านแม่ตอน ออกไปเชียงราย รวมระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ขณะนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังนำเครื่องจักรและรถแบ็กโฮ เพื่อดำเนินการแก้ไข คาดว่าอาจต้องใช้เวลาตลอดทั้งวัน

เช้าวันเดียวกัน นายประภาส อึ้งตระกูล นายอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง นายชัยธวัช ศิวบวร หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง และนายประเสริฐ ต่อเขต หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง สาขาวังเหนือ ลงพื้นที่ติดตามผลกระทบจากฝนตกหนักส่งผลให้น้ำป่าจากอุทยานแห่งชาติดอยหลวงไหลหลากฉับพลันลงสู่ลำห้วยแม่แฝดและล้นตลิ่งท่วมหลายหมู่บ้าน ต.วังทอง ต.วังเหนือ และ ต.วังทรายคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับจังหวัดพะเยาและเชียงราย โดยระดับน้ำบางพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร และไหลเชี่ยว ชาวบ้านเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงไม่ทัน

เบื้องต้นมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมเกือบ 100 หลัง โดยเฉพาะบ้านปงถ้ำ ม.3 และบ้านปงทอง ม.7 ต.วังทอง เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ได้รับผลกระทบมากสุด สิ่งของเครื่องใช้ลอยไปกับน้ำ และรั้วบ้านบางหลังพัง

ล่าสุดระดับน้ำลดลงเป็นปกติแล้ว แต่ทิ้งคราบดินโคลนและกิ่งไม้ใบไม้ที่ไหลมากับน้ำเกาะติดตามพื้นที่ ชาวบ้านต่างเร่งทำความสะอาด ส่วนผลกระทบกับพื้นที่การเกษตรอยู่ระหว่างการสำรวจ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้เดือดร้อน

นายเสน่ห์ ซองดี ผู้ใหญ่บ้านปงถ้ำ ต.วังทอง อ.วังเหนือ เล่าว่า น้ำป่าหลากอยู่นานเกือบชั่วโมง ซึ่งมาจากยอดเขาเขตอุทยานฯ และไหลไปตามลำห้วยก่อนเอ่อท่วมบ้านเรือน ครั้งนี้ถือว่าเกิดขึ้นหนักสุดในรอบ 50 ปี