นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (กสส.) กล่าวว่า กรมกำกับติดตามการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ (สอ.สรฟ.)ต่อเนื่อง เพื่อให้ดำเนินการตามคำสั่ง นายทะเบียนสหกรณ์ ในการฟ้องร้องดำเนินคดีกรรมการสหกรณ์ในชุด 7,8,9,10 และ11 ทั้งทางแพ่ง และอาญาซึ่งกรณีสอ.สรฟ.นี้ คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออกระเบียบว่าด้วยการให้กู้เงิน ให้สมาชิก โดยกำหนดระเบียบว่าด้วยการให้เงินกู้พิเศษ เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2554 ซึ่งกำหนดวงเงินให้กู้ยืมต่อรายค่อนข้างจะสูงมาก และระยะส่งชำระคืนค่อนข้างนานมาก โดยระเบียบดังกล่าวสอ.สรฟ.ส่งสำเนาระเบียบเงินกู้ให้กรมทราบ เมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2554 โดยขณะนั้นกรมให้ข้อสังเกตและมีคำแนะนำให้ระวังเรื่องปล่อยกู้ที่อาจกระทบสภาพคล่องสหกรณ์ แต่สอ.สรฟ. ยังยืนยันใช้ระเบียบดังกล่าวต่อไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559 ผู้ตรวจการสหกรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมส่งเสริมสหกรณ์ ตรวจสอบพบกรรมการบริหารสอ.สรฟ.ออกเงินกู้ให้สมาชิก 6 ราย 199 สัญญา วงเงิน 2,279 ล้านบาท ซึ่งเป็นการดำเนินการโดยมิชอบด้วยระเบียบดังกล่าว ดังนั้น เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 นายทะเบียนสหกรณ์จึงออกคำสั่งให้คณะกรรมการ แก้ไขข้อบกพร่องสิ่งที่เกิดขึ้น โดยสั่งให้ระงับจ่ายเงินกู้พิเศษ ไปสู่การมีคำสั่งปลดคณะกรรมการฯชุดที่ทำให้สอ.สรฟ.เสียหายทั้งคณะ พร้อมแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวเข้าไปบริหารงานแทนคณะกรรมการชุดเดิมที่ถูกปลด และต่อมาที่ประชุมใหญ่สอ.สรฟ.เลือกกรรมการบริหารชุดใหม่คือ ชุดที่ 13 และชุดที่ 14ขึ้นมาบริหารสหกรณ์ และนำมาสู่การแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลดังกล่าว ทั้งทางแพ่งและอาญา รวมถึงกรมได้ประสานให้สอ.สรฟ.ทำข้อตกลงกับสหกรณ์เจ้าหนี้ทั้ง 14 แห่ง โดยปรับงวดการชำระหนี้กันใหม่
“ปัจจุบัน สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ มีสภาพคล่องจากรายรับทุนเรือนหุ้นและการชำระหนี้เงินกู้ของสมาชิกและดอกเบี้ย ณ เดือนพ.ค. 2563 ประมาณ 45-48 ล้านบาท และสอ.สรฟ. มีภาระชำระหนี้ให้เจ้าหนี้เดือนละ 42-45 ล้านบาท คงเหลือเงินต่อเดือน 2-3 ล้านบาท สามารถจ่ายเงินให้สมาชิกที่ขอถอนได้ อย่างไรก็ตาม กรมยังติดตามผลกระทบต่อสหกรณ์เจ้าหนี้ 15 แห่งด้วย พบว่า เดือนพ.ค. 2563 สหกรณ์เจ้าหนี้ที่มีทั้งให้เงินกู้ยืมและฝากเงินกับสอ.สรฟ. ทั้ง 15 สหกรณ์ ได้ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 เสร็จแล้วทุกสหกรณ์ ปรากฏว่าทุกสหกรณ์มีผลกำไร จ่ายเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนให้สมาชิกได้ ซึ่งมีอัตราสูงกว่าหรือเท่ากับปีที่ผ่านมาจำนวน 8 สหกรณ์ และต่ำกว่าปีที่ผ่านมา 7 สหกรณ์ และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ไม่ได้รับชำระหนี้ โดยตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและหรือทุนรักษาระดับอัตราเงินปันผลหรือทุนสำรองความเสี่ยง 9 สหกรณ์ และไม่ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 6 สหกรณ์ เนื่องจากยังได้รับการชำระหนี้อยู่ จะเห็นได้ว่าสหกรณ์เจ้าหนี้ยังคงไม่ได้รับผลกระทบต่อฐานะทางการเงินแต่อย่างใด ซึ่งความพยายามสร้างกระแสสหกรณ์ล้มนั้น มีแต่จะส่งผลเสียให้ระบบสหกรณ์โดยรวม” นายพิเชษฐ์ กล่าว
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์กล่าวต่อว่า กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์นั้น ยอมรับในอดีตที่ผ่านมามีปัญหาสะสมมาต่อเนื่อง ทำให้กรมต้องแก้ไขพ.ร.บ.สหกรณ์ 2542 โดยมีผลบังคับใช้ช่วงต้นปี 2562 เพื่อให้มีอำนาจเข้าไปกำกับบริหารงานของคณะกรรมการสหกรณ์ได้มากขึ้น ทั้งนี้ ได้เพิ่มเติมว่าด้วยการกำกับความเสี่ยงของสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยน ซึ่งขณะนี้กรมเสนอร่างกฎกระทรวงในการออกเกณฑ์กำกับ 12 เรื่อง ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการเบื้องต้นแล้ว โดยการกำกับครั้งนี้เพื่อป้องกันเกิดความเสี่ยงบริหารงานของคณะกรรมการ เป็นการรักษาประโยชน์ของสมาชิกสหกรณ์โดยรวม ส่วนนายทะเบียนสหกรณ์ต้องทำหน้าที่ด้วยเช่นกัน รวมถึงตั้งคณะกรรมการกำกับการทำงานของผู้ที่ทำหน้าที่นายทะเบียนสหกรณ์ในจังหวัดต่างๆด้วย โดยรองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นประธาน เพื่อติดตามการทำงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศป้องกันปัญหาทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์หากเกิดปัญหาใดที่เกินศักยภาพของจังหวัด ส่วนกลางจะเข้าไปช่วยแก้ไขทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี