10 กรกฏาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่รายการช่องส่องผี กล่าวหาว่า ย่าบุญเหลือซึ่งเป็นลูกสาวบุญธรรมของคุณย่าโม เป็นภรรยาของปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมา ส่วนคุณย่าโมเป็นภรรยาหลัก ย่าบุญเหลือเป็นภรรยาสอง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมาเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่มีการตำหนิวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา สั่งการให้วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ไปประสานกับลูกหลานของคุณย่าบุญเหลือ เพื่อให้แจ้งความดำเนินคดีกับรายการดังกล่าวในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งต่อมาสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จ.นครราชสีมา พร้อมสภาทนายความจ.นครราชสีมาได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ กรณีกล่าวอ้างดูหมิ่นย่าโม-ย่าบุญเหลือ และบิดเบือนประวัติศาสตร์ สร้างความโกรธเคืองแก่ชาวโคราชกับผู้บริหารช่องส่องผีแล้วตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ที่สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ตำบลมะเริง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมประชุมกับวัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมเปิดเผยถึงผู้บริหารช่องส่องผีและคุณบ๊วยติดต่อประสานมาเพื่อขอขมาพี่น้องชาวโคราช ว่า เรื่องที่เกิดปัญหาขึ้นตนให้วัฒนธรรมจังหวัดฯไปพูดคุยกับญาติคุณย่าโมคุณย่าบุญเหลือ ซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้ว และบอกกับเราว่า ท่านเองซึ่งเป็นส่วนของญาติก็ไม่ประสงค์ที่จะแจ้งความในฐานะหมิ่นประมาทหรืออะไรการดำเนินใดๆ ก็อยากจะให้คนโคราชหรือชาวโคราชหรือพี่น้องชาวโคราชเป็นผู้ดำเนินการเอง
ในส่วนจังหวัดเองเราก็รับฟังความรู้สึกของพี่น้องชาวโคราช ก็อยากจะให้เรื่องทุกอย่างจบด้วยความเรียบร้อย ด้วยความสมานฉันท์ในบ้านในเมือง ไม่ให้เกิดความรู้สึกที่แตกแยกกันและทุกคนก็มีจิตใจอันเดียวกัน ก็คือว่ารักและเคารพวีรกรรมท่านท้าวสุรนารีและคุณย่าบุญเหลือ
ซึ่งพี่น้องชาวจ.นครราชสีมา ก็ไม่ได้เรียกร้องมากเกินไป เพียงแต่ว่าขอให้ทางรายการได้มาแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยการมาขอขมาลาโทษให้เป็นกิจลักษณะกับอนุสรณ์สถานคุณย่าบุญเหลือ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี แต่นั้นเอง ตนคิดว่าน่าจะเป็นข้อเสนอที่ดีก็จะทำให้ความรู้สึกของพี่น้องชาว จ.นครราชสีมา หรือลูกหลานย่าโม ย่าบุญเหลือมีความรู้สึกที่ดีขึ้น และทุกอย่างก็จะจบด้วยความเรียบร้อย ตนอยากสื่อสารไปยังคณะผู้จัดว่า อันนี้ไม่น่าจะเป็นที่เหลือบ่ากว่าแรง และให้ให้ความร่วมมือมันจะได้จบไป
นายวิเชียว กล่าวว่า จนถึง ณ วันนี้เรายังไม่ได้รับการประสานมาโดยตรง ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่ทราบอาจจะมีการประสานไปกับพระชั้นผู้ใหญ่ของวัดศาลาลอยหรือเปล่าอย่างไร ตนทราบจากสื่อมวลชน ว่าทางผู้ดำเนินรายการพร้อมที่จะมาขอขมาคุณย่าโมและคุณย่าบุญเหลือ แต่เขาขอดูวันเวลาที่เหมาะสมก่อน สำหรับจังหวัดเองก็ยินดี เพราะว่าอยากให้เร่งมาขอขมาเพราะเรื่องราวต่างๆจะได้จบด้วยดีและจบด้วยความสมานฉันท์กัน
ส่วนพิธีการการขอขมาทางจังหวัดจะดำเนินการหรือให้ทางผู้บริหารช่องส่องผีและคุณบ๊วยจัดพิธีกรรมนั้น เรื่องนี้แล้วแต่ผู้ดำเนินรายการ แต่ทางจังหวัดจะช่วยดูในเรื่องของความเรียบร้อย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอะไรต่างๆ ตนก็คิดว่าคนนครราชสีมา ปกติก็เป็นคนใจดีอยู่แล้ว ใจกว้างและให้อภัยคนอยู่เสมอ ฉะนั้นถ้าคิดว่าทางผู้ดำเนินรายการมาขอขมาตนก็คิดว่า ทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและจะจบด้วยดี และเกิดความสมานฉันท์ ปรองดองในสังคม ส่วนสถานที่ที่จะไปขอขมานั้น เรื่องนี้จริงๆแล้วพี่น้องชาว จ.นครราชสีมา อยากให้มีทั้งที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ที่วัดศาลาลอย รวมทั้งที่อนุสรณ์สถานคุณย่าบุญเหลือที่โรงเรียนบุญเหลือวิทยานุสรณ์ ตำบลโคกสูง ทั้ง 3 จุดอยู่ในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา
ส่วนการที่ผู้บริหารออกมาชี้แจงขอโทษชาวโคราชมีความตั้งใจทำเพื่อชาวโคราช กระตุ้นให้มาท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจและให้ผู้คนรู้จักจ.นครราชสีมา เกียรติภูมิของคุณย่าโมและคุณย่าบุญเหลือนั้น เรื่องนี้ตนดูว่ารายการก็อาจจะมีเนื้อหาแบบนั้น จังหวัดเองก็เข้าใจทางรายการ แต่เพียงแต่ว่ารูปแบบหรือการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ชัดเจนหรือไปขัดแย้งกับความรู้สึก ซึ่งรายการก็พูดถึงคุณย่าโมอยากให้คนในจ.นครราชสีมาลูกหลานรักกัน ซึ่งตนดูรายการก็พยามยามสื่อไปในเรื่องที่ดี แต่เรื่องที่มัดขัดความรู้สึกของพี่น้องประชาชนคือ เรื่องที่อาจจะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียกับบุคลในประวัติศาสตร์ บุคคลที่ชาว จ.นครราชสีมา เคารพนับถือ ซึ่งตรงนี้มันเป็นบทเรียนเลยว่าจะต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้
ขณะที่ พล.ต.ต.สุจินต์ นิจพานิชย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า คดีนี้กระแสสังคมให้ความสนใจอย่างมาก ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุมทุกด้าน ทั้งเนื้อหาคำกล่าวอ้างที่เผยแพร่สู่สาธารณะ รวมถึงข้อมูลอ้างอิงทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะประเด็นข้อพิสูจน์เนื้อหาทางประวัติศาสตร์จากผู้เชี่ยวชาญ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่รับผิดชอบ ต้องนำมาเป็นหลักฐานในการพิจารณาดำเนินคดี ซึ่งในชั้นนี้ยังต้องรอผลสรุปจากคณะกรรมการหลายฝ่าย ทั้งกระทรวงวัฒนธรรม กสทช. ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ และฝ่ายาจัดรายการ ซึ่งจะพูดคุยชี้แจงกันในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ หลังจากนั้นจะรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเป็นหลักฐาน จากนั้นจะเรียกสอบพยานผู้เกี่ยวข้อง และผู้ถูกกล่าวหา ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย โดยจะเร่งรัดสรุปสำนวนคดีให้เร็วที่สุด
ล่าสุด พระครูธรรมธรสมพงษ์ จิระวังโส พระเลขานุการวัดศาลาลอย เปิดเผยว่า นายเชษฐวุฒิ วัชรคุณ หรือบ๊วย พิธีกรรายการช่องส่องผี โทรศัพท์มาขอขมากับทางวัดแล้ว และรับปากว่าจะพาทีมงานมาขอขมาย่าโม ย่าบุญเหลือ ที่วัดศาลาลอย และลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เพื่อความสบายใจของชาวโคราช แต่ไม่ได้ระบุว่าจะมาวันไหน พร้อมยอมรับผิดกับสิ่งที่นำเสนอออกไป ในวันถ่ายทำรายการ ทีมงานขออนุญาตเข้าถ่ายทำด้วยวาจา แต่ไม่มีหนังสือแจ้งล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษร ทางวัดก็อนุญาตเพราะเข้าใจว่าเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์วัดศาลาลอย ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ขณะถ่ายทำตั้งแต่ช่วง 1 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม อาตมาก็ได้ร่วมเป็นวิทยากรบอกเล่าประวัติที่มาของวัด รวมทั้งเรื่องราวของย่าโม ย่าบุญเหลือ พระยาปลัดทองคำ
แต่หลังจากนั้นพิธีกรผู้หญิงก็กล่าวถึงย่าบุญเหลือที่ผิดเพี้ยนไปจากประวัติศาสตร์เดิม จึงรู้สึกหวั่นใจกับคำกล่าวอ้างที่นำเสนอออกไป ไม่คิดว่าจะมีการกล่าวอ้างในลักษณะนี้ แต่พิธีกรชายก็บอกว่า เป็นประวัติศาสตร์นอกตำรา ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม กระทั่งเกิดกระแสต่อต้านดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเรื่องก็ยังมีประชาชนแวะเวียนมากราบสักการะขอพรอัฐิคุณย่าโม ที่วัดศาลาลอยตามปกติ เพราะความเชื่อความศรัทธาต่อย่าโม ย่าบุญเหลือ วีรสตรีของชาวโคราช ที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี