"ช่องส่องผี" ชีช้ำเจออ่วมอีกระลอก กลุ่มสตรีโคราช 25 ตำบลกว่า 100 คนโร่แจ้งความ พ.ร.บ.คอมฯ 2560 ซ้ำรอยกำนันผู้ใหญ่บ้าน ระบุเพราะพิธีกรช่องส่องผีพูดออกไปแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้
เมื่อบ่ายวันที่ 13 ก.ค.63 กลุ่มสตรีโคราช 25 ตำบล ในอำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา และกลุ่มตรีกาชาดนครราชสีมา นำโดยนางสุทิน ชาติพุดซา ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอเมืองนครราชสีมา 25 ตำบล พร้อมด้วยนางสาวธํญญานุช สุรฉัตร กลุ่มสตรีคนรักย่าโม และสตรีชาวโคราชกว่า 100 คน สวมเสื้อสีเหลืองหน้าอกสกีนคำว่า "เรารักย่าโม" ได้รวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ส่วนหนึ่งกราบสักการะคุณย่าโมก่อนขึ้นนั่งรถราง 2 คันเดินทางไปสมทบกับกลุ่มสตรีที่รออยู่ที่หน้า สภ.เมืองนครราชสีมา พร้อมด้วยนางสาวลภัสรดา ณัฐอาภาพล รองประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาเข้าพบกับ พ.ต.ท.พงษ์พร เกตุพละ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ดำเนินรายการช่องส่องผี ในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมาที่ได้มาแจ้งความก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้สอบปากคำให้การกลุ่มตรีดังกล่าวในฐานะผู้ร้องที่มีจำนวนมากขึ้น ก่อนกลุ่มตรีจะรวมตัวกันหน้าสถานตำรวจพร้อมกันตะโกนอย่างเสียงดังว่า "เรารักย่าโม" 3 ครั้ง ก่อนสลายตัว
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้รายการ "ช่องส่องผี" ได้กล่าวหาว่าย่าบุญเหลือ ซึ่งเป็นลูกสาวบุญธรรมของคุณย่าโม เป็นภรรยาของปลัดทองคำ เจ้าเมืองนครราชสีมา ส่วนคุณย่าโมเป็นภรรยาหลัก ย่าบุญเหลือเป็นภรรยาสอง ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นใน จ.นครราชสีมาอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่มีการตำหนิวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม และนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการนครราชสีมาสั่งการให้วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมาไปประสานกับลูกหลานของคุณย่าบุญเหลือ เพื่อให้แจ้งความดำเนินคดีกับรายการดังกล่าวในข้อหาหมิ่นประมาท ซึ่งต่อมาสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจังหวัดนครราชสีมา พร้อมสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมาได้เข้าแจ้งความดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ กรณีกล่าวอ้างดูหมิ่นย่าโม ย่าบุญเหลือ และบิดเบือนประวัติศาสตร์ สร้างความโกรธเคืองแก่ชาวโคราชอย่างมาก
นางสุทิน ชาติพุดซา ประธานชมรมสตรี 25 ตำบลอำเภอเมืองฯ กล่าว่า สตรีโคราชมีหัวใจเดียวกันและพร้อมใจกันมาร้องทุกข์กล่าวโทษผู้ดำเนินรายการช่องส่องผี ร่วมกับสตรีสภาทนายความ เรารักคุณย่าโมและคุณย่าบุญเหลือ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีกรณีรายการช่องส่องผีมีการหลบหลู่ดูหมิ่นคุณย่าโม คุณย่าบุญเหลือที่เป็นที่เคารพศรัทธาของพวกเราชาวโคราช ที่ได้มาทำรายการที่บิดเบือนประวัติศาสตร์ พวกเราจึงมาขอร้องทุกข์แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับรายการนี้และเพื่อให้ออกมาขอโทษขอขมาและแสดงความรับผิดชอบในสิ่งที่คุทำ ตรงนี้คือวัตถุประสงค์ของพวกเรา พลังของสตรีที่มาวันนี้มากันโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะพวกรารักท่านย่าโม รักคุณย่าบุญเหลือ การที่คุณพูดออกมาอย่างนั้นเป็นการดูหมิ่นในน้ำใจของพวกเราคนโคราช ฉะนั้น ที่มาก็ต้องการความรวดเร็วในการที่จะออกมาแสดงเจตนาให้เราได้เห็น
นางสุทิน กล่าวว่า ทราบว่าเขาจะมาขอโทษขอขมาในวันที่ 19 ก.ค.นั้น ตนคิดว่าคงต้องขออนุญาตดูก่อนว่า เขาจะมาขอขมาแบบไหน และจะทำอบย่างไรบ้าง เพราะที่เขาพูดไปแล้วมันเอากลับคืนมาไม่ได้ มันเหมือนกันออกไปทั่วโลก ทั่วประเทศแล้วมันเอากลับมาคืนไม่ได้ ฉะนั้น วันที่ 19 ก.ค.คุณจะมาขอขมาแบบไหนที่จะถูกใจสตรีชาวนครราชสีมา ตนคิดว่าจริงๆแล้วเขาก็รู้อยู่แล้วว่าประวัติศาสตร์เป็นมาอย่างไร ก่อนที่เขาจะพูดอะไรเขาต้องดูก่อนว่าประวัติศาสตร์ของคุณย่าโม คุณย่าบุญเหลือคืออะไร
"คำพูดที่เขาพูดออกไปแล้วมันกลับมาไม่ได้ การขอขมาเป็นส่วนหนึ่งที่เขามาขอโทษคุณย่าโม คุณย่าบุญเหลือ ขอโทษสตรีเรา แต่ว่ามันก็ยังติดอยู่ในใจเรา เราก็ยังคิดอยู่ว่า การขอขมาจะเพียงพอสำหรับเราหรือไม่ ซึ่งเราก็ต้องหารือกันว่าเราจะเดินหน้าอย่างไร คงต้องขอดูวันที่ 19 ก.ค.นี้ก่อน เราขออนุญาตดูเจตนาที่ได้มาแสดงว่า เขาแสดงด้วยความจริงใจ บริสุทธิ์ใจหรือไม่ เราคนไทยด้วยกันเราก็พร้อมที่จะให้อภัย แต่อยากให้คุณได้รู้ว่า พวกเรากลุ่มนี้รักคุณย่าโม รักคุณย่าบุญเหลือ ชาวจ.นครราชสีมา หรือจังหวัดอื่นๆคน คนไทยทุกคนรักและศรัทธาคุณย่าทั้งสองท่าน การที่รายการคุณและที่คุณพูดออกมามันสร้างความกระทบกระเทือนให้กับพวกเรา" นางสุทิน กล่าว
นางสาวลภัสรดา ณัฐอาภาพล รองประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทนประธานสภาทนายความจังหวัดนครราชสีมา ได้ประสานกับกลุ่มพลังตรีโคราช เพราะได้รับความเดือดร้อนเสียหายต้องการที่จะมาแจ้งความดำเนินคดีกับพิธีกรรายการช่องส่องผีทั้ง 3 คน ในข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 โดยวิธีเผยแพร่นำข้อมูลที่บิดเบือนจากประวัติศาสตร์ของจ.นครราชสีมาที่ได้ทำบันทึกไว้ ซึ่งพิธีกรได้นำข้อมูลดังกล่าวซึ่งเป็นการบิดเบือน ไม่ตรงกับประวัติศาสตร์ความเป็นจริงในจดหมายเหตุต่างๆ หรือบันทึกประวัติศาสตร์ของชาวจ.นครราชสีมา ซึ่งทำให้เราได้รับความเดือดร้อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี